ReadyPlanet.com
dot dot
bulletซอกมาเว้าสู่ฟัง




ผญาอีสานพาหม่วน

 

 ผญาอีสานพาหม่วน

 ประกาศ

อเชิญทุกท่านที่มีตวามสามารถในการเขียนกลอนผญาภาษาอีสาน ที่อยากร่วมสนุกกันและอยากเผยแพร่มรดกอีสานให้แพร่หลาย  เป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ ตลอดจนได้รับความสนุกสนานกันในหมู่พวกที่ชอบผญา   ซึ่งเวปไซด์ www.p-esan.com นี้  ได้จัดทำขึ้นโดยไม่ได้หวังผลกำไรอะไร ทำขึ้นด้วยใจชอบ จึงขอเปิดให้เป็นสนามในการแสดงออกในเรื่องที่เราชอบได้มีโอกาสให้คนอื่นๆได้รับทราบ ซึ่งได้ขออนุญาตท่านที่เขียนผญาได้ไพเราะ และอนุเคราะห์อนุญาตให้นำมาลงเผยแพร่ในคอลัมน์ "ผญาอีสานพาหม่วน"  หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อแนะนำเสนอแนะอย่างไร    เข้า e-mail  prasom99@gmail.com   ขอบคุณครับ

 

สมัยไหม่พี่น้อง

     บ้านเอ๋ยบ้านเมืองเคี่ยว   เงินพันเดียวบ่ม้มค่ำ  จักแม่นบุญหรือของเฮาดอกพี่น้อง    สมัยนี้ฮ้อนส่ำไฟ   ..มีลูกหลานปากบ่ได้เขาฮอดบ่ฟังความเฮา    จกกระเป๋าออกจนดำแต่ละวันขอเงินใช้    ว่าให้ไปเรียนรู้มาอดสูทางพ่อแม่    จำฮอดนาขายฮอดไร่หาเงินให้ส่งลูกเรียน    ลูกไปหาคบเพื่อนกินอยู่อย่างหรูหรา     แม่พ่อหาเงินตราจ้ำแจ่วบองพ้องผักต้ม    ลูกไปหากินลมกินอาหารยุในห้าง

ผู้หาตางค์จนว่าจ๋อย    ได้บาทได๋เก็บเมี้ยนไว้คอยไห้ส่งลูกเรียน   ผู้หาเงินจนมือด้านทางลูกหลานบ่คิดว่า    เข้าในห้างกินพิชช่าอัดลมพร้อมน้ำบ่กิน    ส่วนหนี้สินยุทางบ้านพอกหางหมูบ่อยโลดหน่าย    สองสามมื้อกะโทรไปเงินบ่พอค่าห้อง   เทิมเรียนนั้นกะบ่มี    จั่งแม่นกรรมมาจ่นจี้ยังแต่บ่ทันตาย    เว้าไปหลายสิเชาลงเอาแต่พอเพียงนี้

สมัยคนเป็นหนี้   บ่ตี๋ไผดอกแม่ไหญ่    เว้าจากใจผู้แต่งแต้มกะคือด้ามดั่งกัน    พี่น้องเอ้ย

                                     จันลา มณเทียร

 

                                  28 มกราคม  2567

 

ยุบ้านนากะสุขได้    แล้วแต่ความพอใจ     กะสุขได้คั้นใจชื่น    มีเงินแสนเงินหมื่น    สิ่งประกอบที่บ่ล้วน    มันสุขได้ชั่วคราว    สุขอี่หลี่บ่แม่นเงิน    ดอกหมู่เจ้าแล้วแต่ความพอใจ    .สุขสดไสยุตามนา   สิเทียวหาชมมวลไม้

ใบบ่มีดอกยามแล้ง    มีแต่ดอกสังงามแฮง    หลายล้นยุตามท่ง     ดอกแสบงกะพวมป่ง   .เทิงดอกจานกะเพียบพร้อมกะยอมต้น     นั้นเเห่งงาม ...ดอกกะโดนกะพ้องนั้น

เก็บกับป่นยุตามนา  ...ดอกงิ้วบานยูคูสาเหลียวเบิ่งเป็นพวงพั้ว  . ย่างนำงัวเหลียวไปพ้ออี่หยั่งน้อ     สีย่อนๆๆแม่คือหลายเป็นกลุ่มก้อน    เหลียวไปพ้อจนแล่นหนี

     พี่น้องเอ้ย

จันลา มณเทียร

 

21 มกราคม 2567

                                            

                        .....ตกเถิ่นนนนน......

.ยินว่าเมฆก่ำก้อน         หลายเขตทางอิสาน

แลทะมึนลอยไหล        ผ่านผายอวยเอื้อ

หอบพิรุณเพียงพ้อม     สิโฮยฮวยหยาดซุ่ม

บาว์ก้อแหงนเหงี่ยงตั้ง  คองค้อยหล่ำแงง

.ควมหวังนาท่งก้วง       ไถหว่านคอยฝน

จั่งปู่ย่าตายาย               สืบฮอยเดิมดั้ง

หากแต่กาลอ่วยเยิ้น      ฤดูเวียนบ่กงซื่อ

จักว่ามีแม่แล้ง              หือแถนไท้ล่วงลืม

.สังมาแหงเขิบแห้ง       เหลืองหล่อยภายผืน

ทัวระมาฮวยฮน             เหี่ยวเยายืนแด้ง

ขอให้ป้อกแป้กหย้อย   ฮำโฮยลงอั่ว...แด่ถ่อน

พอได้ซาซ่วงม้ม           คืนต้นต่อลม...ท่านเอ้ย

            ..#บ่าวคอย#..

       ปากบ่ได้ ไอกะบ่ดัง

 

    19 พฤษภาคม 2566

 

จะแม่นทุกข์แม่นยาก..พี่น้องเอ้ย.....

      ตกบาดทุกข์ยากไฮ้  ไผกะหน่ายหนีปะ

ตั้งแต่หมาในเฮือน บ่แก่งหางนำก้น

ซาหยังคนฮอดพี่น้อง  ลูกเมียเขากะหน่าย

เว้าความใดมีแต่ฮ้าย  เสียมขุดขี้กะบ่ปาน พี่น้องเอ้ย

    ยามเมื่อย่างเลาะบ้าน  หมาบ่เห่านำหลัง

จักมันซังอีหยัง  บ่เห่าหอนคือกี้

ฮอดบ่มีพี่น้อง  ญาติมิตรสิมายาม

เขาย้านถามยืมเงิน  ย่างกายบ่มาใกล้

    ฮอดว่ายามเป็นไข้  เจ็บโซนอนป่วย อีแม่เอ้ย

นอนกินข้าวบ่ายกล้วย  ตางซี้นต่อนปลา

จั่งว่าทุกข์หยังน้า โฮมใส่มีถอย โอนอ

พออยากเอาคอหอย  จ่องฮาวคันฮั้ว

     พออยากเอาหัวหม้น  หางหมาให้เมี้ยนมับ เบิ่งเด้

เกิดมาอาภัพฮ้าย  สิตายซ้ำให้ส่วงเวร สาบ้อ..

เซียงน้อย สากกะเบือ..

๑๙/๕/๒๕๖๖.

คนไม่รัก ย่อมไม่ผิด

 

19 พฤษภาคม 2566

 

ดอกหญ้า......🍁
ผิว่า กายเกิดยั้ง เนาแนบธรณิน
ดินแกมทราย บ่อนซอนแซมเซื้อ
เหลือเหลืองก้าน ผะดับดงดอนเหล่า
แสงสูรเผาแผดฮ้อน ฮามฟ้าห่างฝน..ผลานอ
สังสิคือผกากั้ว กวมกลิ่นเหยหอม
สุคันธาทองงาม ฮ่วมแจกันโก้
นามเฮาโกสุมเซื้อ แซมเครือเฟืออุ่ม
นภาคลุมกาศกว้าง ผลาสร้างฮ่วมบ่เถิง..ฟ้านอ
🙏คารวะครูอาจารย์ สวัสดีกัลยาณมิตรสุคนจ้า
🌹...***ดอกกะยอมป่า***...🌹
 

  ดอกกะยอมป่า

 12  มกราคม  2566

ตะเว็นลับหลืบฟ้า            เงาบ่าวกะเลือนหาย

วาเสียงไลน์เคยดัง           ฝั่งไกลทางก้ำ

ผู้เคยฝากคำเว่า                กะลึบเลยลาห่าง

กอดแต่ควมอ้างว้าง           ถืกซี้นต่อนจะของ  นี่แหลว

ได้แต่หมองกับใจช้ำ          ย่อนกาต่ำบ่สมหงษ์

ดวงสมพงษ์คือเขา             ผู้สาวงามคนนั้น

เก็บแต่ฝันขึ้นค้าง               วางลงหม่องเก่าๆ

บาดแผลเน่าซอดซี้น          ย่อนคำเว่าลมลวง 

ฝากยินดีกับแฟนอ้าย         ผู้มาใหม่  จับแขน

แมนสายแนนดึงพา             จ่องมาหาอ้าย

น้ำตาไหลหลั่งหน้า               แสนโสกาไห้ฮำ

ได้แต่กำกำปั้น                      อวยพรเจ้าให้สุขขี

หากบุญมีภพหน้า          .  . .สิขอเกี่ยวเคียงสอง

ชาตินี้มองยามเผลอ            ถึงเธอบ่เห็นด้วย

แข่วยามควยสุดสิยื้อ           มันบ่คือมวลเกิดใหม่

ฮอดยามไปมีหน้า                 ลืมอีหล่าคนบ่สม ซะเด้อ 

ชายเอ้ย

#สาวเมืองบั้งไฟ

เอื้อมดาว สาวเมืองบั้งไฟ

 

  29 ธันวาคม 2565

 

                         ข้าวนาโนนบ่ถ้วม        พวมสิเกี่ยวขายหา

                 เงินค่าปุ๋ยเคมี              ที่เซ็นอาเฮียไว้

                 ทังรถไถเขาให้           เฮาเอามาก่อน

                 พอฮอดยามผ่อนแล้ว  แนวใซ้จั่งแม่นหลาย

                 เฮ็ดนาขายจ่ายหนี้     ไปฮั่งไปมี

                 ผู้ที่ขายปุ๋ยยา            ว่าเต็มถงแท้

                 พ่อแม่ทำปางเค้า         เอามูลงัวควายใส่               

                 ยัง เขียวงามเกิดได้     มาให้เกี่ยวกิน

                 เฮ็ดให้ดินแก่นด้าน    เขาว่าสารเคมี              

                 ดีแต่งามทันใจ           คึดไปทางหน้า

                 ควรหวนหาแนวเค้า    หันเอาปุ๋ยคอกใส่   

                เกิดส่ำใดกินส่ำนั้น   อันนี้หนี้บ่หลาย  ดอกนา

                            สายบุญ

                           ๑๙/๑๐/๖๕

                       ขอบคุณเจ้าของภาพเด้อค่ะเด้อ

                                   ยาย นาง

                                 ผญานวกะ

 

                           19  ตุลาคม  2565

พี่น้องเอ้ย.....

เกิดเป็นคนควรตอกย้ำเช้าค่ำให้มีศีล

ใจเป็นบุญสุนทานต่อคำพุทโธเจ้า

ความระกำเหงาเศร้าสิพาเฮาได้เห็นป่อง

ท่องทางธรรมให้ละเว้นเข็ญฮ่ายให้หน่ายหนี

คนในโลกานี้ย่อมมีทุกข์สุขผสม

เอาศีลธรรมมาประโลมข่มใจให้หายฮ้อน

สิ่งบันทอนจิตใจฮ่ายสิหนีไกลหลีกห่าง

หันมาฟังธรรมะเจ้าลำนำเว้ากล่าวผญา..พี่น้องเอ้ย

##ทักทายยามแลงจร้าซำบายดีมีสุขสู่ขู่สู่คน

           Phenwitra Wangphula

 

         15 ตุลาคม 2565

คำผญาวาทเว่า               มาเกี้ยวกล่าวให้คนหลง  แท้น้อ

ปานวาองค์เทวา              หล่ายคาถามนต์คล้อง

จนนางจ่องใจเพ้อ           เผลอใจนำคำหล่าย

เพียงได้ยินชื่ออ้าย          กะนอนยิ้มอิ่มฤทัย  พุ่นแหลว

ในภมัยฮนฮ้อน                 อกอ่อนบ่บรรเทา

เทียวคิดฮอดเพียงเขา      ก่อนเฮาเคียงใกล้

แมนชาตินี้บ่ได้                  ชายเอ้ยหล่าบ่วา

เก็บฮักไว้ชาติหน้า            บ่หาญกล้าสิเบิงไผ  ชายเอ้ย

             เอื้อมดาว สาวเมืองบั้ง

               14  ตุลาคม 2565

 

แดนอิสานภาคพื้น    ม่วนซื่นยามหาเห็ด..

พงพนาไพรสัณฑ์     ป่งซอนในดอนด้าว ..

มีเห็ดขาวเห็ดโข้น    มีเห็ดโคลน เห็ดก่อ.

กำลัง จูม จ่อขึ้น       สิ บานบ้าง กะบ่หลาย.

พากันยาบ ยาบย้าย เข้าป่า พนาดอน แหล้ว.

ตาออนซอนยามมา  กะต่ามอง จนล้น ..

ผู้ลางคนเต็มแล้ว     ยังเอาแพร พกห่อ ...

สนุก สนานกะด้อ     ผาดยามพ้อ พบเห็น.

สิ่งบ่ปราศจากเว้น    คณาญาติ วงษ์ศา ...

หาได้มาหลวงหลาย ได้แบ่งปันเฮือนใกล้.

มีจิตใจ ใสเหลื้อม     ยามไปหา มาแหว่ .....

สิมีของ ฝากต้อน     ให้ใจเอื้อ ต่อกัน .ว่านอ.

ค่ำแลงลง ว่านั้น       เพิ่นฮ้องส่ง เสียงใส .

มีอันใด กินแลง.       แต่งภาช์ หือยัง เจ้า ..

เสร็จจากการกินข้าว เอานิทาน มาเว้าอ่อย

มวลผู้เด็กเล็กน้อย   ได้ เริงรื่น ซื่น เกษม ..

            ......,,(แท้แหล้ว),,.....

           Phoupha Duangsiao

 

          26  พฤษภาคม 2565

ฤดูกาลผ่านเข้า                คราวฮอดยามฝน

             พอไพรสณฑ์       ซุ่มฮึมเซาแห้ง

 จนหายแหงภายพื้น          พืนใบเขียวซอุ่ม

พุ่มพฤกษาใหญ่น้อย        พลอยได้ป่งยอดใบ มาแหล้ว

คราววสันต์เฮ็ดให้            หนแห่งใดใด

          ธาราไหล               ล่วงเนืองนองล้น

           สายซลได้             เห็นปลาวางไข่   

ในป่าเห็นเกิดขึ้น               ยามพื้นซุ่มฮึม  นั้นนอ                                                         

 นำคึมกอหน่อไม้           หลายป่งแซมซอน         

 เฮียงสอนลอนจีจูม      หมู่มวลเห็ดนั้น

  ทังเครือมันพันเกี้ยว      แกมกลอยหัวใหญ่            

 พอให้มาก่นไง้               หากินได้หว่างฤดู ฝนนี้

คูคลองเคยขอดน้ำ         ยามหยาดพิรุณฮำ

 ว่าเถิงคราวทำนา            หว่านเอาแนวกล้า

หลกมาสุมกันไว้                จึงนำไปดำปลูก

สุขของซาวเกษตรนี้       ดีใจล้นเมื่อฝน  อำนวยให้

สายบุญ 

 

                  ยาย นาง    

        22 พฤษภาคม 2565 

อวนนี้หมายกล่อมเกี้ยว   หวังฝากฮักขวัญอ่อน

อยากมาซูอยู่ซ้อน    ผลานั้นบ่ฮ่อนมี

บุญบ่ผายโผดให้     ญอยไฮสังสิหย่อน

เยียวว่าซินบ่เตื้อง    ปาปังซ้ำจ่องดึง

ได้แต่หลิงเหลี่ยมฟ้า   แนมแลหาเดือนเด่น

ผลากระต่ายน้อย     บ่สมเซื้อหน่วยเดือน

มะโนในทอดท้อน    ละเมอนอนฮ้อนฮุ่ม

ปานอัคคีสุมเข้า       เผาไหม้อยู่หว่างทรวง

วาสนากาน้อย         งอยคอนอยู่กลางท่ง

บุญบ่สมซาดเซื้ิอ    หงส์ฟ้าผู้ยศสูง

แสนสิควาไขว่คว้า  ทางเคลือขึ้นค้างก่าย

หากแต่ค้างบ่มีเกี้ยว  จำเลื้อยเลี้ยวหว่างดิน

ิิเผียบคีงบ่สมเสื้อ          ไหมคำใส่เอ้อ่ง

สมแต่ผ้าคามย้อม         สีด้านกระด่างดำ

ซาดซีนขี่กั่วฮ้าง             บ่สมคำสูงค่า

แฮ่สะคอนปากน้ำ        บ่สมเซื้อหน่วยมณี

##อิทธิเดช##

๑๙/พ.ค/๖๕

เฮือนผญาสองเฒ่า

                อิทธิเดช จำใจทาง

            19  พฤษภาคม  2565

 

 

 

อ้ายเอ้ย บ่าวผญาเอ๋ย

หล่าบ่มีหลายไส้ หลายใจหลายแง่ง

หมายฮักเดียวแข่นๆ ดำแหล่บ่แกม

เห็นซายมาหลายล้น   ทางใจแจบจี่ลี่

มาผ้อเจ้าเถือนี้  อยากโซ่นซ้วนไปฮ่วมเฮือน  .....คักแหลว

อ้ายเอ้ย

หล่าอยากจูงแขนอ้าย  เอาเมือเฮือนต้อนอีแม่

คุ้มนาคำ นํ้ากํ่าพุ้น  เมืองศรีโคตรบูรณ์

เมืองมันเภาหวาน  พระธาตุพนมสูงค่าลํ้า

วัฒนธรรมงามเด่น  ไหลเรือไฟส่าทั่วโลก  ภูไทญ้อสาวฝั่งโขง.....พุ้นแหลว

  หล่านี้หมายคนซ้อน คอนเดียวบ่ปิ้นเปลี่ยน

หมายเอาพ่อเฮือน หมายมาเป็นพ่อบ้าน

เป็นเขยหล่า  อิแม่นาง....พี้แม๋

ไป่นำหล่าบ่จ้า😃😀

      ปริญญา ชีวิต

 

11 พฤษภาคม 2565

หล่าเอ๋ย...

สังสิไกลไปหน้า แล้วสิโงมาคือเก่า บ่น้อ

อ้ายสังมาคึดฮอดเจ้า ทางในอัายย่านเน่าโนม

ก่อนเคยชมเชยน้อง ฮักเฮาสองสิแน่นแก่น

คำว่าแฟนคำว่าชู้ ยอยื่นไห่บ่าวพี่ซาย

หล่าเอ๋ย...

บัดนางไกลหายหน้า คำเคยจาย่านเจ้าเปลี่ยน

ย่านไปมีคู่ซ้อน นอนร่วมบ่ห่วงซาย

มองเบิ่งฟ้าแล่นย้าย ใจซายมาบ่ซื่น

หลอนสิขมขื่นซ้ำ คำเคยเว่าเจ่าบ่จำ บ่นางเอ๋ย

#ร่วมสืบสานไม่สาบสูญ

บ่ได่มาเยี่ยมยามดนแล้ว

คึดฮอดกันบ่พี่น้องไทผญาเฮา

สุขสบายดีครับผม

        มังกร ศรีชุม

 

11 พฤษภาคม 2565

 

ขออนุญาตตอบ..

เพื่อสืบสานแหน่เด้อจ้า

อ้ายเอ้ย.

บ่เคยไกลหนีหน้า

แต่หากบ่มีเวลา..

บ่ทันว่างจั่งเหินห่าง

ยังบ่จางวางจากอ้าย.

บ่เคยได่แม่นหน่ายแหนง

ยังฮักแพงอยู่คือเค้า

ยังคือเก่าบ่ลืมหลง

ยังคงมาแวะเวียน

ถามข่าวคราวบ่วางเว้น

ยังคึดเห็นซายคือเค้า

บ่เคยลืมว่าสองเฮา

เคยสัญญาบ่ลืมพี่

คำวจีของน้องหล่า.

คำจาเว่าบ่เล่าลืม..ดอกอ้าย

สบายดีมีสุข.คึดฮอดคือเก่าค่ะ

      ส.สำลี  พิมเทพ

11 พฤษภาคม 2565

  

อันนี้..

เถิงหว่างลงลายเกี้ยว งูเขียวสิหางฮัด ก่อนแล้ว

หลอนว่าฮัดหางแล้ว บ่ปะก้นให้เกลือกดิน แท้นา

หั่งว่า..โสสิได้ปีนกกไม้ สิบักโกนเอาลูกบ่าง ถ้อนแล้ว

แม่นบ่ได้บ่างลูก หากสิได้แม่มัน บ่ฮู้

โอเด...

อ้ายนี้..มันหากเป็นดั่งแข้ จำศีลอยู่ถ้ำใหญ่ นางเอ้ย

เหิงได้ไขปากถ้ำ ทางท้องกะพ่องหิว แท้นา

มาเห็นซิวขาวกุ้ง เข็งแปบ่คึดอยาก สาแล้ว

อ้ายนี้คึดอยากแท้ ปลาฝาด้งโตท่อเฮือน พุ้นแล้ว..

สายปินโต.

๓/๕/๒๕๖๕.

# เฮือนผญา มหากาพย์.

                          สมบัติ ศรีวะโสภา

 

                        3  พฤษภาคม 2565

 

บุญผลา ของอ้าย      นาดินทรายป้านบ่อยู่.

บางผ่องอัดผ่องป้าน สิไหลฮ้ง บ่อนจั่งดัย.

คิดต่อนาไฮ่โหล่ง      หน ทางลง เพิ่นกะส่าว..

.คิดต่อนาข้าวจ้าว     ชาวบ้านเพิ่นกะหมาย

คิดต่อนา ตินบ้าน      น้ำขี้ฝุ่น ผัดไหลกาย.

คิดต่อนาดินทราย    น้ำบวกควายกะไหลกั้ว

คิดต่อตัวนางหล่า     อัมลา ผู้ น้อย อ่อน ..

.เพิ่น ผัดมี คู่ซ้อน.     นอนกิ้ง ก่อม ภมัย ...

#คำเอ้ย.,,....

เห็นว่าทุกข์ยากไฮ้    บ่อยากหม่ายแลเหลียว

อ้ายนี้เทียว มาหา      ค่ำคืน บ่อ วาย เว้น. ...

แม่นบ่เห็นดวงหน้า    เห็นหลังคากะพออยู่..

เห็นแต่เสื้อพาดแจ     เห็นแต่แพร พาดฮั้ว .

   ...,, พอปานได้ นั่งเฮียง พุ้นตั่วหล่า ,,...

#ມົນແຄນແດນຈຳປາ 🧚‍♂️ ສະບາຍດີ ວັນເສົາ ເຈົ້າ..

                  Phoupha Duangsiao

 

                  30 เมษายน  2565

 

................." บั้งเสี่ยงฝน ".................

เดือนหกแฮมหกขึ้น       คราวฤกษ์มงคล

เมฆาลอยลมบน            ฮูปเสือสิงห์ช้าง

แสนอึมคลึมทางฟ้า       ลอยมาเป็นลั่น

ลางอันแสนซับซ้อน        ปานคลื้นแม่นที

ถือเป็นแนวบอกชี้          กาลใหม่มายาม

ญามเมษาสงกรานต์      ผ่านเลยลาพ้น

คนคอยฝนเทิงฟ้า          แถนประทานมาส่วย

บั้งเสี่ยงทวยเบิกฟ้า       นภากว้างคื่นเค็ง

เป็นที่เส็งส่าย้อง           คองฮีตบูฮาน  มาแหล้ว

กาลนิคมซาวคน          ซื่นซมมาเต้า

เอาบั้งไฟมาเอ้              งันสลองแหนแห่

ฮีตคองคราวแต่เค้า      ถวายเจ้าพ่อแถน

เป็นตัวแทนบอกฟ้า       บนบอกคำไข

บั้งไฟพาลอยสูง            ผ่านพโยมยังฟ้า

เชิญเอานาคาเข้า          ไทรทองสรงส่วย

ขอฝนฮวยหลั่งย้อย       นองน้ำส่วนกระแส แด่ถ้อน

ให้แถนแลสู่ใต้             ผายโผดเมืองคน

อย่าให้คองคอยดน      ล่วงเลยฝนช้า

ลูกช้างสมมาไหว้          ถวายไปเถิงที่

ประดับดีแต่งเอ้            สะยานขึ้นล่วงเถิง   แด่ถ้อน

................."นักบุญ     ทรงกลด "............

                   นักบุญ ทรงกลด

                24  เมษายน 2565

 

 

ว่าน้อ

แม่ฮ้างแนวค้างบ้าน  บ่รํ่ารวยคือเผิ่น

ซินชาตาต่ำเตี้ย............ตายเบี่ยคือนามหอย

อาศัยงอยตมนา..........ป่าดงพงด้าว

ได้แสงดาวแทนใต้...........ฟืนไฟหม่องอยู่

มีแต่หมู่เด็กน้อย.......ออยล้อต่อวัน

ชายเอ้ย  อย่าติว่าฮ่างฮ้าย แหนงหน่าย เมินหมาง

มโนนางจองหมาย เกี้ยวซอน

 เฮียงอ้าย

แถนเปิดแสงเหลืองจ้า   ทางตาชายให้แงงเบิ่ง  แสงเลิงๆแม่นใจแจ้ง

แฝงไว้ ส่วนใน.....พู้นเด้อ้าย

22/4/2022

แพรไหม สาวภูไท ใจเกินร้อย

สำบายดีมีสุข ทุกท่านคะ🙏😊☺

         ปริญญา ชีวิต

 

       22 เมษายน 2565

 

คึดฮอดข่อยบ่..สวัสดีคะ...ข่อยมักผญาให้กำลังใจเจ้าของ...แฮงๆ

..ทุกข์ยากไฮ้  เฮากะแม่นนามคน

..บ่ได้ขอ     เขากินดังกันโดยด้าม

...บ่ได้งอมือไว้     ขอไผจักหน่อย

...บ่ได้เลาะ    แต่บ้านเที่ยวเว่าแหว่ขอ

..ถึงแม่นเฮามีน้อย   มันกะแม่นของเฮา

..ถึงแม่นเขามีหลาย   กะส่วนเขาไทบ้าน

..บ่ฮ่อนมาก้วมกุ้ม   เฮือนเฮาลูกเต้าอ่อน

..บ่ได้มาส่อยเลี้ยง  สิไปง้องึดคน..

..ถึงสิเป็นหญิงน้อย  คนเดียวแกมหมู่

..บ่ได้มีหมื่นซู้   หาเลี้ยงเลาะขอ..คือไผน๊า

..แนวเฮาหามาได้    จี่ปู ต้มไข่

.เจ้าสิกินแจ่วฮ้อน...พวงนมย่างกะส่างตาม..เจ้าแหลว

#ตันตันแมงตาตีบ...

                      ตอไม้ พะยูง

 

                17 เมษายน 2565

 

 

            พี่น้องเอ้ย           คิดนำคนเคยเว้า

เคยจาแต่ครั้งก่อน            เพินมาจรจากข้าง

นางหล่าไปอยู่ไทย            จำต้องไกลอีกแล้ว

เป็นแนวไดสิทนอยู่           คิดฮอดชู้ผุโก้

มายามบ้านได้บ่นาน          ตาหวานๆแต่งโตโก้

รถคันโตเพินขับขี่              ก่อนจากกันมื้อนี่

อ้ายยังยิ้มส่งมา                อดเด้อใจอดไว้

อย่าปากไป คนสิซา           อ้ายแอบส่งสายตา

บอกเวลาจากบ้าน             ปีหน้าจังพบกัน

อยากหันหน้าไปเว้า            นำชายพอใจอุ่น

แก้มขาวๆจูนพูน                 แฟนเพินยืนข้างๆ

นางเลยเก้อ ได้แต่เหวอ...พี่น้องเอ้ย...🥺🥺😭

             😍❤️ฝันดีเด้อค่ะพี่น้อง

                         บุษรินทร์ แสงแก้ว

 

                      17  เมษายน 2565

 

หลบลนลาน แล่นลี้      เลยล่วง ลงนา

หอบกายา มาพัก         ผ่อนเถียง นาน้อย

หากินหอย ฮูห้วย         หาเห็ด ฮ่อมไฮ่

คือสิไค กว่าบ้าน          เบือนโรคบ้า ห่ากิน..นี่ด่าแน่

บ่อถวิล หว่างวุ้น          วายกลุ่ม ซุมติด..หนีไกลไกล

หันมาพบ คบคิด          คู่มิตร มวลเค้า

ฟังกาเวา วอนฮ้อง       ฮำฮอน หาคู่..หลายๆนาผม

นกเขาคู หมู่นั้น           นองล้น สนั่นเสียง..นกแฮ่งคัก

นอนในเถียง เก่าน้อย      นำหมู่ หนูนา..555

ถึงเพ  ลา ยามเว็น           หว่านปลา แกงต้ม

เก็บส้มลม ลงหม้อ           มดแดงนำ ตามตื่ม

เกือบสิลืม ยอดติ้ว          เติมต้ม ต่อนเต็ม..😆😂

..กินได้แต่ต่อน..นํ้าซดบ่อได้..ส๊ม.ส่ม..😃😄😁

สวัสดีครับพี่น้อง..หนีมานอนนาครับ..ติดกันเกิบหมดหมู่บ้านแล้ว...หน่ายๆๆๆๆๆ

                            ทอง เสียน

 

                         17 เมษายน 2565

 

แสงสุรีย์เหลี่ยมไม้  มัวแดดเขียวขาง

ทางเคยเทียว          ท่องปเถไกลก้ำ

แสนระกำกั้ง            การงานเวียกอั่ง

ตางโรคาห่าฮ้าย      ฮมเข้าแวด วน..แท้เด

หนห่างเยิ้น               ยินแต่สำเนียง

เสียงขานไข             ข่าวมาอีแม่ท้วง

ดวงขะมะม้าง           หมองมโนในหน่วย

ใจผสงอ่วยบ้าน        บงเบี้ยบ่ป่งเป็น...

..แม่เอย..

ให้เจ้าเย็นในเนื้อ      นอนอิ่มเต็มตา

อันโรคาหับหาย        ฮ่อนมีทุกข์ฮ้อน

อันอาภรณ์ผวยย้อม แงงงามเติมแต่ง

แนวแพงซอกซื้อ       แซบซี้นอย่าญอมกิน

..เด้อแม่เด้อ...

//เห็นป้ายบอกทาง.อีนางน้ำตาฮ่งหน่วย//

..อยากเมือกะเมือบ่ทันใด้ดอกเด้อ.แม่เอย

                 พะยอม พลัดถิ่น

 

               15 เมษายน  2565

ขออนุญาตแบ่งปันครับ

สำหรับท่านที่สิเฮียนผญา

สืบฮอยตาวาฮอยปู่เอาไว้

มีบทคาถายกอ้อยอครู

บทหนึ่งก่อนเขียนก่อนอ่านผญา

ให้แต่งขันธ์ห้าขึ้นวันครูข้างขึ้น

ตั้งนะโม๓จบก่อน

แล้วท่องคาถาตามนี้

อัคคี พาหุง บุพพัง

สักการะ วันทะนัง

บรมครู อาจาริยัง

อะหัง อภิปูชะยามิ(ท่อง๓จบ)

แล้วให้ระลึกถึงพระคุณของ

คุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์

คุณบิดามารดาคุณครูอาจารย์ทั้งหลาย

ขอให้มาประสิทธิ

แล้วว่าผญาตามนี้

สนสนตั้ง..ผญาครูเค้าก่อ

ตนข้านี้....ให้เฮียนค่องป่องผญาฯ

ฝากเอาไว้ให้เป็นการแบ่งปันครับ

ทุกแขนงวิชามีครูอาจารย์

ไผเฮ็ดได้..นับมื้อฮุ่งเฮือง

ผิดตกขออภัยครูอาจารย์ครับ

            เทพ พรหมญาณ

           23  มีนาคม 2565

..ผญาลายเกี้ยว..

ขออนุญาตอธิบายลักษณะลายนี้

ขอยกโตอย่างผญาครูมาเป็นโตอย่าง

เพื่อสิได้เห็นอุปมาที่เพิ่นผูกแบบแยบคาย

นางเอ่ย..

อ้ายคือไซหลังหล่า...บ่อหมานปลาถึกแต่เต่า

ลุกไปยามตะเซ้า.......คำพ้อแต่ขี้ฝอย

เปียบจั่งแนวมันอ้อน..ไผกะซอนเสียมใส่

บัดเป็นมันอีมู้..............ผัดถือหิ้วกะต่ากาย..คำเอ้ยฯ

ผมจับลักษณะผญาคนละแบบมาโฮมกัน

ซึ่งสังเกตุดีดีสิมีความแตกต่างในอุปมา

แต่สามารถนำมาเขียนในเรื่องเดียวกันได้

ต่อไปถ้าเฮาสิแก้ไขให้เป็นผญามาเป็นของเฮา

โดยบ่อให้มีฮอยครูเพิ่นต้องเทียบอุปมาใหม่

โตอย่าง

นางเอ่ย

อ้ายนี้แนวแหตาบข้าง..ผสงค์ทางปลาค่อใหญ่

หวานลงกวมตอดู่.........หวานลงบู๋เฮอะเกี้ยว

แนวได้ผัดแม่นปลิงฯ

สรุปวิธีแก้ผญาเก่าคือเอามาเป็นต้นแบบ

แต่ต้องหาคำอุปมาใหม่เขียนแทนลงไป

ผญาเกิดจากการฝึกอ่านดู๋เขียนดู๋กะเป็นไปเอง

ผิดตกขออภัยปราชญ์ผู้ฮู้ครูอาจารย์ทุกท่าน

            เทพ พรหมญาณ

 

           23  มีนาคม 2565

อธิบายผญาเกี้ยวตอน๒

ผญากลอนเกี้ยวนั้นเป็นที่นิยมในคนส่วนหลาย

เสน่ห์ของผญาลายนี้คือม่วนคล้ายกลอน

ฟังแล้วเพลินเห็นภาพในอุปมาที่ผู้แต่งเขียนลง

หลักสำคัญหลายๆท่านคิดว่ายาก

แท้จริงแล้วบ่อได้ยากในทางเขียน

เพียงแต่พยายามฝึกแทรกอุปมาคำพื้นฐาน

คำเก่าๆที่อาจสิลืมเลือนไปตามกาลเวลา

ย้อนเฮาบ่อค่อยได้ใช้ได้เว่ากันนี้เอง

การเขียนผญาในวาทเกี้ยวนี้ต้องแทรกอุปมา

ผู้บ่าวผู้สาวสมัยก่อนสิจีบกันตอนลงข่วง

เพิ่นกะสิยกแนวกินแนวใช้ในเฮือนซานต่างๆ

ที่มีมาไกล้โตนำมาเทียบคำให้เป็นผญา

โตอย่าง

ซาย

นางเอ่ย

เจ้าผู้แพรผืนพ้า.....กะยาทออยากฮองตั่ง

เจ้าผู้นั่งเตียงเนิ้ง....ทางอ้ายอยากฮ่วมซอน

หมายเอาแนวข้าวกล้า.มาหย่ายนาไถหว่าน

หมายเอาคาดแอกน้อย.ลงส่ามหว่างโนน

หญิง

อ้ายเอ่ย

อย่ามาติแถลงเว้า....ล้อเอาไหมมาย้อมคั่ง

ตั๋วให้ตั่งเป็นหูกฮ้าง..ทางอ้ายละส่วนหนี

ตั์วให้คีไฟเศ้า...........ดังฟืนพอเป็นถ่าน

บัดได้ซดปลาต้ม......บัดได้ซมต่อนซี้น

คันแม่นกินอิ่มแล้ว.....ย่านถอกถิ่มหน่ายแหนงฯ

ซาย

นางเอ่ย

คันเป็นแกงคือน้อง...อ้ายสิคองเพียรซด

สิบ่อป๋าถ้วยนาง........ให้ฮั่วฮางพอมื้อ

สิเพียรถือบ่วงจ้อง.....เมี้ยนภาชน์เซ้าค่ำ

บ่อให้ตกฝ่ายค่อย.....บ่อให้ย้อยเหี่ยมือ..คำเอ่ย

หญิง

อ้ายเอ่ย

คันแม่นมีสัจจะแจ้ง....ตั้งเที่ยงในศีลธรรม

ให้อ้ายคลานขึ้นบก...ให้อ้ายถกขาก้วง

นอนนาคู่กาไก่...........นอนไฮ่ฮ่วมบักตู้

เกียกเดิ่นภูดินฮ้อน.....ทางน้องสิฮับเอา..แท้แหล่ว

ผิดตกขอภัยนักปราชญ์ผู้ฮู้ครูอาจารย์ทุกท่านครับ

            เทพ พรหมญาณ

 

           23  มีนาคม 2565

ใจประสงค์ขี่ซ้าง...จั่งได้หย่างเทียวมา

ผสงค์สืบผญา........จั่งแบกหนังสือมาพ้อม

ใจผสงค์เคียนค้อง..เป็นสายแนนฮักห่อ

หมายเคียนเซือกฝั่นเกี้ยว...เสมอด้ามดั่งกัน

บทประพันธ์ผู้ข้า.....กะตามแต่คนมัก

เว้าบ่อมีเลศนัย........คิดได้กะจารโลด

ขอขอบคุณพี่น้อง...คุณครูผู้สอนสั่ง

แอดมินเพจพร่ำพ้อม...ให้สุขมั่นอยู่สบายฯ

            เทพ พรหมญาณ

 

           23  มีนาคม 2565

 

..ศาสตร์ผญาภาษาศิลป์..

โสทางสืบผญาเค้า......บ่อเคยหล่วงคำคน

โสสานฮอยนำครู........บ่อได้บู๋บืนบู้

ผสงค์ตื่มต่อนเว้า........อีสานมูลมังหน่อ

หมายเทียวบ่งเบี้ยไว้...ภายหน้าเกิดแก่นสูง

สิบพี่อาน้าน้อง.............แสนหมื่นคณานับ

มันหากแผกต่างสาย...ปานลายพิณฟ้อน

คือเพิ่นเป็นขุนท้าว......พญาเมืองยศใหญ่

ขั่นว่าไพร่บ่อพ้อม.......แปงบ้านบ่อฮุ่งเฮือง

การผญายังมีหน่อย...อย่าลืมฮอยแม่พ่อ

ให้มาซูสร้างเซื้อ........เตินเว้าฮ่วมกัน

บทผญาสู่บั้น.............อาจารย์เพิ่นเขียนบอก

มันแสนยากคึดแท้.....มาเทียวต้านสู่ฟัง

ขอบคุณพระคุณ..ทุกท่าน..มวลมิตรทางผญา

ผู้เข้ามาเก่าหลัง.......ให้ฮักแพงถนอมตุ้ม

อย่าได้มุมมำฮ้าย.....ขายผีพรายอยู่กลางป่า

บุญผลามีอั่งล้น.........จั่งโฮมพ้อฮ่วมกัน

บ่าวกะเปียบดั่งเบี้ย...ไม้แก่นแนวขู๋

ฝากผญาควมครู.......สืบแนวแหนงน้อย

พอมีกลอยมีข้าว........ลูกหลานเอาหยายต่อ

จบท่อนี้ละท่าน..........คนอ่านนั้นสิเมื่อยนำฯ

            เทพ พรหมญาณ

 

           23  มีนาคม 2565

 

นามของตัวผู้ข้า  เพ็ญวิตรา... เป็นซื่อ

จื่อไว้เด้อพี่น้อง   อ่านแล้วกะอย่าหลง...

มาดำรงสืบสานไว้  ในผญาบทกลอนอ่าน

ลูกอีสานตั้งแต่เค้า  เฮานี่ก็ดั่งกัน....

ตั้งแต่คราวก่อนนั่น  มีแต่อ่านบ่ทันเขียน

หัดพากเพียรเฮียนครู  ฝึกปรือจนพอได้..

อยากมีส่วนสืบสานไว้  วัฒนธรรมอันล้ำค่า

กลอนผญานี้ด้วย   สรรสร้างคู่แผ่นดิน... พี่น้องเอย

                      .เพ็ญวิตรา

                 18  มีนาคม 2565

พี่น้องเอ้ย...

ฮอดวันพระละเว้น.. ความโลภโกรธหลง

ค่อยค่อยปลงละวาง...ตามทางพุทโธเจ้า

พากันเอาบุญสร้าง.... ให้แสงธรรมนำส่อง

ใจสิผุดผ่องแผ้ว....เปรียบดั่งแก้วเพชรมณี

เอาความดีเข้าสู้.... บุญสิชูหนุนส่ง

ให้ปล่อยปลงลงไว้... เอาใจเข้าสู่พระธรรม

เกิดเป็นคนควรตอกย้ำ... เช้าค่ำให้มีศีล

ใจเป็นบุญสุนทาน...ตามคำพุทโธเจ้า

ความระกำหมองเศร้า...สิพาเฮาเห็นป่อง

ตามครรลองตั้งมั่นไว้... ความเข็ญฮ้ายหน่ายหนี..

พี่น้องเอย...เกือบหาทางลงบ่ได่  😄😄😄

🙏🙏🙏วันนี้วันพระ ขึ้น๑๕ค่ำเดือน๔   สวัสดีกัลยาณมิตรพี่น้องเอื้อยพี่สู่ผู้สู่คนเด้อจร้า

                    .เพ็ญวิตรา

                 18  มีนาคม 2565 

****สุดสายแนน****

สุดสายแนนบ่พ้อ       ใจยังจ่อถามหา

สุดแดนชินซาตา         ปรารถนาคืออ้าย

ผ้าแพรลายสีเศร้า       บ่สมเขาสูงส่ง

บ่สมหงษ์เทิงฟ้า           ไหมล้ำค่าคู่ควร

ใจคิดหวนต่อเจ้า              ชายเก่าเคยจา

สายลมกาลเวลา              พัดพาไกลเยิ้น

ตกกะเทินพบพ้อ              คิดต่อเคียงนอน

ผลาหนอนจั่งเฮา              พ้อเขากะสุขล้น

ยืนเทิงโพนโฮฮ้อง              น้ำตานองไหลหลั่ง

คนถืกพังฮักฮ้าง                  ลาร้่างบ่เห็น

กรรมหรือเวรลูกสร้าง        จังได้ห่างลาหนี

ชาติใหม่มีพบกัน                  ให้สมฝันแนเด้อฟ้า

#สาวเมิองบั้งไฟ

                     สาว เมืองบั้งไฟ

 

                    18 มีนาคม  2565

                              อ้ายเอ้ย

         คันสิค้อง......ดอกสร้อย..

                .ให้คอยนาง......แนเด้อพี่

                ย้านอ้ายมี....ดอกฮักซ้อน..

                ชอนเชื้อ.......ข้างบ่อนนอน

                ออนชอนเด้.......ดอกคัดเค้า...

                เว้าชู้ปล่อย....แล้ววางหนี

               ย้านอ้ายมี.......นารี

              สาวผู้ดี.....แล้วลืมน้อง

(เด้น้อ)

.              ..ย้านคือจอม....หมู่มิ้ม

          เผิ่งผู่ชุมภมร.....ขจรดมชมแชม

          ทุมมะลี.......ขจีไม้

           สมฤทัย.......ได้ลิ้ม 

          ชิมหวาน   แล้วเบิดหน่าย

          ย้านคือคำ......ปากอ้าย

           จ่ายเว้า.....แล้วเซิ่นหนี

...เด้น้อ..อ้ายเอ้ย...

             เอาอีกบทตอนใกล้เที่ยงจ้า.....

                    วิภาพร ภูสมศรี

                    18 มีนาคม 2565

 

 

.แฟนผญาเอ้ย...

...นามกรของข้า........แฟนผญาให้จำจื่อ..แน่เด้อ

บ่าวสุนาทผู้ฮ้าย......คนเก้ขี่เหร่ดำ

อาศัยเนาว์อยู่ก้ำ......โขงเขตเมืองมหา

สารคามตามหลัง......ชื่อจังหวัด เนาว์ซ้น

...ถิ่นเมืองเสืออำเภอตั้ง.....พยัคภูมิพิสัย. กายไกล้กะลองแว่..แน่เด๋อ

ปิ้งกะปอมป่นแย้.......สิหาต้อนใส่ภาช์😁😁😁

ชีวิตเป็นกำพร้า........ขาดคู่เคียงหมอน😂😂😂😂

สุดสะออนนำสาว.....อยู่ในเฮือนผญานี้

...สาวผู้ดีกะมีชู้.........คนชูเกี้ยวก่าย

นางบ่สนบ่าวอ้าย.......ไปหมายช้อนผุอื่นแทน

กะบ่ได้เคียดแค้น........แน่นอั่งในอก..ดอก

เขาบ่หมายยอยก.........ขึ้นนั่งเคียงนอนช้อน

...สิอาวรย์กะสูญสิ้น....เทใจกะดายป่าว

กะเลยเป็นบ่าวเฒ่า........ตายค้างจั่งบักโก..โอ๊ะๆบักแตง😁😁😁😁

มื้อนี้มาเว้าแจ้ง.......แถลงเอ่ยทางประวัติ

คันอยากเห็นเต็มชัด.....ให้แว่หายามยื้อ

...เบอร์มือถือโทรหาได้.....ห่ามีไผอยากมาม่าย

โอ้ยๆจำได้แต่เลขท้าย...........ทางหน้ากะแม่นลืม😁😁😁😁😁..

...พี่น้องเอ้ย...

.....

........นอนเล่นอากาศเย็นๆ. ฝนตกครับ..อารมย์ดี. เลยเขียนกลอนด้น. แบบมั่วๆ. อย่าถือคนบ้า...อย่าชาคนเมาเด้อครับ..😂😂😂😂😂😂😂😂

                           สุนาท ติดวงษา

 

                        18 มีนาคม  2565

เป็นจั่งคนหน้าเนื้อ เสืออยู่ทางใน

หน้างามใส ส่องใจมุมเม้า

มีแต่ความงามหน้า ใจเจ้าดำด่าง

สังบ่คือหนังหน้า ใจฮ้ายกว่าเสือ

คำว่าหวานนอกเนื้อ เครือเก่าความผญา

เพิ่นว่าปากกับใจ บ่ตรงกันโดยด้าม

ความเว้าหวานปานอ้อย ใจส้มคือบักเหว่อ

มีแต่เห่อปากเกลี้ยง คำนั้นม่วนหลาย

สังบ่อายปากอ้า หวานว่านวลหู

บัดเห็นฮู้ทางใน บ่อนใจดำปี้

นี้คือเกลี้ยงนอกเนื้อ ทางในหมากเดื่อ

หวานนอกเนื้อ ในส้มจั่งบักนาว

ผักกะเสด

          กระถิน บ้านนา

 

      1  มีนาคม 2565

 

ตกทางตันจนแต้ม      แนมบ่เห็นทางออก

    คนกะจอกจั่งข้อย       เกิดมาด้อยวาสนา

        เป็นนำดินและฟ้า        เพิ่นบ่โปรดสงสาร

           ผุอื่นกินทานหยัง         ว่าแต่หวังกะเห็นได้

อุกพอปานหอยไข้       ซื้อโตใด๋กะไกลห่าง

    บนหรือล่างว่าแม่น       แปนปี้นเกี้ยงกะเป๋า

        พวมฝันดีมื่อเซ่า          เห็นชัดสิจัดหนัก

           พอดีเลยโตมัก             ผู่ขายบ่หมายอั้น

คึดสิฟันเต็มที่               เอาให้มีชาติหนึ่ง

    บ่ทันโดนนั่งอึ้ง              เงินสิซื้ออยู่ใส

        หาแต่เหนือฮอดใต้      ดอกร้อยละซาวปาย

           บ่มีคนสนใจ                 จนบ่ายมาปานนี้

มีแต่เฮือนหลังน้อย        ทางเดียวให้คึดต่อ

    ไผแหน่น้ออยากได้       สิขายให้บ่แพง

        พอหลบแดดหน้าแล้ว    ฮั่วแหน่แต่ยามฝน

            ถ้ามีคนสนใจ               ให้ทักทายไวฟ้าว   จ้า

                    เฒ่า ซื่อ ซื่อ

                1  มีนาคม 2565

 

 

เป็นจั่งได๋เดหละเฒ่า เจ้าฝันนั้นแม่นโตได๋

ถืกฮือไป๋นำควมฝัน เอามาปันแหน่จักโจก

เจ้าคือสิมีโชค คือเจ้าว่าฝันดี

ข่อยนี้ตี๋อุกพอตาย สิ่งที่หมายบ่สมแม้ง

ว่าสิแต่งเอาให้ได้ อันที่หมายตรงกับโตด

เลขออกมาไกลสามโยด จั่งแม่นโพดชาตาโต

..จั่งซั้นหละเฒ่าเอย ...

          ทองใส อภัยศิลา

 

         1  มีนาคม 2565

 

..เดือนเพียงดวงบ่แจ้ง ใสส่องแสงเถิง

..แนวว่าปฐพี ห่างไกลจากฟ้า

..แสนว่าคองคอยแล้ว คอยไปกะดายเปล่า

..เดือนบ่หลิงหล่ำแล้ว ภายพื้นกะอยุ่เดียว

..อ้ายบ่กรูณาเนื้อ สองเนตรทางใน

..ปานว่าเฮียมไกลชาย จ่มหาบ่เห็นฮู้

..หมื่นคำกูกเฮียกเอิ้น อวนองค์หากอ่ง

..ถางทางแปงปลูกไว้ ตนอ้ายบ่หล่ำมอง..มาแหล่ว

#มาส่งทุกท่านเข้านอนจ้า

#คืนนี้ฝันดีทุกท่านจ้า

    ชมพู่ สุภัสสร

 

  1 มีนาคม 2565

            #ริมฝั่งยังเหมือนเดิม

อ้ายมายืนอยู่ริมน้ำ      งอยฝั่ง.ในยามแลง

คิดฮอดกะอดเอา      ย้อนว่าเฮา.อยู่คนก้ำ

ยังคิดนำบ่ลืมหน้า      คำสัญญา.ยังจำจื่อ

คิดเห็นนางอยู่สู่มื้อ      ยังคงมั่น.บ่เปลี่ยนไป

น้ำโขงไหลนอไปหน้า      บ่หวนคืน.สิโค้งต่าว

แต่ใจบ่าวอยู่ฝั่งซ้าย       คนคืออ้าย.อยู่ที่เดิม

ปัจจุบันคือตอนเริ่ม      บ่เคยเปลี่ยน.เด้อแปลไป

คือดั่งสายนอธารา      ไหลล่องมา.บ่อยุดยั้ง

ถึงภูผาสิขวางขั้น      เป็นพันหนวย.บ่เคยสน

น้ำสิวน นอเวียนฮัด      บ่าวพี่ชาย.บ่เคยท้อ

ยังคอยรอทุกแลงเช้า      ถึงสิเหงา.บ่เคยหน่าย

จากหัวใจบ่าวฝั่งช้าย      ยังรอเจ้า.อยู่ฝั่งโขง

.                          เด้อนางเอ่ยยยย

กลอนกะวี คนเศร้า จากใจผุบ่าวไทบ้าน

 

      1  มีนาคม  2565

 

คำเอ้ย...

แมนเจ้าเป็นเก่าฮ้าง.......ถึกปล่อยวางมือ

พี่บ่ถือความเขย............ส่อคำเถลยเว้า

เถิงว่ามีลูกเต้า..............สองสามตามส่าง

ขันมาสางฮ่ามสร้าง.......ซูค้ำซอยสาน

บูฮานกาลเพิ่นเว้า..........มีขื่อบ่มีเสา....แมนฤา

จักสุเอาหยังฮอง...........ใส่ขางวางแป้น

หลังคาแปนมุงหญ่า.......ฝนลงฮำฮั่ว

ฮั้วบ่มีไผ่ฮ้อม................สนานเข้าล่วงสวน...แท้แหล้ว

เผียบใส่มวลมู่ไม้...........ดอกดั่งกะดังงา

คันว่าลนไฟหอม............กลิ่นไกลขจรฟุ้ง

มวลแมงเผิ่ง..................นำตอมผสงค์ไฝ่

หมายมาซมกลีบใกล้.....เกษรช้อดื่มดอม

เพิ่นว่าหอมมาลาไม้........เหยเหี่ยวยังจาง...ว่าเด้

บัดว่ากายนงค์นาง.........ดั่งแก่นจันทร์ไม้

พี่นี้เผียบขุนแผนท้าว.....หลงวันทองกล่อม

นอนหลับยังป่วงเพ้อ........ผวงน้องห่วงหา....คำเอ้ย

#คนป๔

๐๗/๐๒/๖๕

         คนรักแมว มะมะแมว

 

          8 กุมภาพันธ์ 2565

เพิ่นว่า...........สุนทรภู่

บรมครู...........กวีเอก

เพิ่นได้เสก.........แต่งตั้ง

บรรยายไว้.......เพื่อลูกหลาน

เขียนนิทาน......บ่อนบั้น

บันทึก..........เป็นคำกลอน

แต่งมาสอน........คนหลัง

ตั้งแต่ยัง.........เยาว์น้อย

**แต่ว่าคำ...........ผญาญ่อย

กลอนอิสาน........ผัยน้อแต่ง

หล่าบ่อาจ.............ชี้แจ้ง

พึ่งเฮียนนฮู้.............ฮีตครอง

**ผู้เพิ่นป่อง........ครองเค้า

สืบสาน.............สังมาม่วน

สำนวนกลอน..........บ่อนบั้น

นงคราญน้อง......ย้องม่วนหลาย.....เด้น้อ

*ขอกราบก้ม.......วันทาเกตุ

เกศา

คุณครูบา.........อาจารย์

ผู้พรํ่าเพียร........เฮียนฮู้

ขอให้............อินดูคะน้อย

ผู้ฝึกเฮียน......เขียนใหม่

ขออภัย..........แนท่าน

หากไขข้อ.......ลื่นความ...

**ขอกราบ..อภัยครูบาอาจารย์เด้จ้า..ขะน้อยเขียนหยังบ่ถืกเว้าหยังบ่แม่นกะดาย...สวัสดีมื้อครื้มๆอีกแล้วจ้าพี่น้อง....บ่ตกคือเก่าจ้า...

               วิภาพร ภูสมศรี

 

            5  กุมภาพันธ์ 2565

 

อีกบ่ไกลดอกหล่า    บืนไปไห้ฮอดฝั่ง

จั่งมาเซาพักยั้ง   หนีซ้นเข้าฮ่มเย็น

บอกเจ้าของให้เว้น    หยุดหว่างทางสิไป

พาหัวใจหนีเจ็บ    ซ้นโพธิ์ศีรแก้ว

มันบ่เป็นไปแล้ว    แนวเฮาคน นอก รีด

เส้นสวรรค์ขีดให้    เป็นได้แค่ทาง ..เด้อนาง

ให้เจ้าเป็นบันไดขั่น    เป็นสะพานให้เขาไต่

เป็นป่องทางส่องให้    เขานั้นผู่หย่างเทียว(เด้อ)

#ตันตันแมงตาตีบ  #วัดป่าสุวรรณณาราม ถ้ำแสงทิพย์ บ.นาตะแบง.อ.หนองสูงคะ  มุกดาหาร

                ตอไม้ พะยูง

           2  กุมภาพันธ์ 2565

                                     คันเจ้าหลับคืนนี้  ฝันดีเด้อผุบ่าว

                          มีผู่สาวนั้งไกล้   เคียงข้างนั่งเฮียง เด้อ

                         อย่าได้มีแนวต้อง    แนวขีนขัดข่อง

                         ให้มีคนอ่อยเว่า     โสนำเจ้าก่อนสินอน เด้อ(ซั่นน่า)

                         คันเอาน้องไปเฮ็ดซู้     ย้านบ่แผ่โตงัว   ซั่นตี๊

                         คันเอาน้องไปเฮ็ดเมีย     ย้านบ่แผ่โตซ้าง

                         เอาน้องไปเบียดข้าง   เหนือลมย้านบ่อุ่น  บ้ออ้าย

                         เหลือใจเด้ #ตันตันแมงตาตีบ

                                      ตอไม้ พะยูง

                             2  กุมภาพันธ์ 2565

 

**ผญาครวญ**

..อ้ายบ่าวเอ้ย

วาสนาเสียมเหี่ยน......ขุดโพนกะดายเปล่า

วาสนาหมากพร้าว......แห้งแล้วกะหล่นดิน

**ใจถวิน.............อินทรีย์ไท้

บินไกล.............ตั้งฮ้อยโยช

จักสิโปรด............หยังแหล่ว

แนวยั้ง..............อยู่บ่เชา

*ข้ามภูเขา...........เหลาไม้

ดงใหญ่............พนาศรี

คงไปพ้อ............กินรี

สาวผุดี..............จังลืมสิ้น

**ลืมตูบตั้ง.........ฮวงฮังเจ้าเคยก่อ....(แล้วบ้อ)

หนีไปพ้อ..........ม่องใหม่ซ้น

ลืมโกนไม้.........ที่เทียวบิน      *น้องนี้.............โศ..กี...เศร้า

เหงาหงอย..........แสนอนาถ

ขาดคนเคย.........ออยเว้า

กาเหว่า.........น้อย

คอยฮ้อง.....เอิ้นต่าวคืน.

อ้ายอย่าฝืนบิน.......ไปหน้า

กลับมา.........หาน้องก่อน

กาเหว่าวอน..........เอิ้นอ้าย

อินทรีย์ไทค์..........ชั่งเปลี่ยนแปร

ฮักแต่เค้า.........เก่าก่อแต่ตำอิต

อ้ายเลยมัวไลคิด.....ปะลาให้ม้ายม้าง

ถิ่มนางไว้...........บ่อาลัยหทัยป่วน

ฮักรวนเร.........แสนปวดฮ้าย

ผะอวนอ้าย........ส่างเฮดลง..

....แท้น้อ....

..เขียนวกไปวนมา..

หาม่องลงบ่ได้จ้า...

*สวัสดีจ้ามวลมิตรบ้านผญาสุพู่สุคนจ้า...

            วิภาพร ภูสมศรี

 

          2  กมภาพันธ์ 2565

อ้ายเอ้ย อ้ายๆ

คันเจ้ามีเมียซ้อน   มีคนซอนซ้อนคู่

คือบ่บอกให้ฮู้    นางหล่าสิบ่หวง

นางกะสิบ่ท้วง   เทียวทักถามหา

สิเกรงใจภรรยา    ผู้เพิ่นมาเหิงแล้ว🤣

นี่แม่นหยังว่ายังโสด      ยังสดเป็นไม้อ่อน

หน่อน้อยบ่ซอน    ฮอดบ่มีกาบซ้อน

โตอ้ายพัดว่ามา     ตั่วให่สาวคำหล้า

หลงวาจาซู้เพิ่น    ตกกะเทินว่าสิซ้อน

โตอ้ายผัดบ่ดาย    คึดย้านเมียเจ้าฮ้าย😅

คึดยักอายคนสิส่า     รับฟ้าผ่ารับห่าทื้น🙄🙄

โตเจ้าส่างเฮ็ดเป็น น้อ😂😂😂😂

              ตอไม้ พะยูง

          20 มกราคม 2565

 

 

คำสอนพระพุทธเจ้า

1/ละชั่ว

2/ทำดี

3/มีใจบริสุทธิ์

คำสอนพุทธเจ้า                แปดหมื่นสี่พันขัน

ถ้าหย่อกันกองลง              กะคงเหลือ 3ข้อ

1/ละชั่ว/2ทำดีพร้อม       3/จิตใจขาวสะอาด

บริสุทธิ์ผาดแผ้ว               คือแก้วผ่องใส

ก่อนอื่นต้องแยกได้          ดีชั่วในหลักการ

มาตรฐานชั่วดี                   ที่พุทโธ สอนชี้

อันว่าดีดีนั้น                       ต้องดีกัทุกฝ่าย

ถ้าฝ่ายหนึ่งเดือดร้อน       แนวนั้นบ่แม่นดี

สิ่งพาให้เดือดร้อน           ทุกข์เพิ่น   สุขเฮา

อย่าเอามาปฏิบัติ             ส่งเสริมเติมสร้าง

เพียรสะสางใจ ให้           หมดจดจากกิเลส

โลภโกรธหลงเหตุเบื้อง    เคืองเศร้าหม่นหมอง

...........

๒๔/๑๒/๖

ลูกสาวพระธาตุ

ลลนา วิริยสกุลพันธ์

 

24  ธันวาคม 2564

###ลองหวาน###

    @@@@@@@@

เอาคำหวานมาหว่านเว้า...พอส่วงใจเหงา

ว่าจั่งได๋น้อชาย...เอ่ยถามคำป้อน

อยากมีคนเฮียงซ้อน...เคียงซอนกอดเกี่ยว

ให้แนมเหลียวเบิ่งหล่า...หมายน้องฮ่วมทาง..แน่เด้อ

นางอยากขอเกี่ยวก้อย...คอยหย่างจูงมือ

อ้อนคำหวานทรงคือ...ว่าจ๋าอือจร้าาา

ทุกเพลาพาเกี้ยว...เทียวทางใจฮ่วม

ทุกข้อความเอ่ยอ้าง...ทางหล่าว่าจริง..แท้ด๋าย

อยากสิหลิ่งหล่ำอ้อน...นวลอ่อนบังอร..บ่เด้

มาแซมซอนหว่างใจ...ซื่นฤทัยสุขล้น..พุ้นเดะ

ค่ำคืนวันหล่วงพ้น...สองคนยังหวานอยุ่

อ้อมกอดซูคู่ซ้อน...หวานป้อนหล่วงทุเลา

คำหวานยังหว่านเว้า...บรรเทาส่วงมโนใน

อยากสิวางหัวใจ...ถิ่มละลายใส่หัวใจเจ้า

ได้มาคลอเคลียเคล้า...สุขเฮาไผสิหลื่น

เหมิดคืนไหลหล่วงเช้า...เหงานั้นบ่นำพา..พี่เอ้ย

#ทักทายทุกท่านยามสายๆจ้า

#ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนดูแลตัวเองจ้า

      ชมพู่ สุภัสสร

   21 ธันวาคม 2564

...หล่า คนงาม...

...จั้งแม่นหวานน้อหล่า พวงผกาเนื้ออุ่น

แก้มจุนพุนจั่งเจ้า โชคสิเข้าแม่นผู้ใด๋

ความหวานหลายยามจาต้าน อยากเอาไปเฮ็ดลูกหลานให้แม่ย่า..อยู้แหล้ว.

หากแม้นแนวเชื้อน้อง หงษ์คำนั้นกะบ่ปาน

อ้ายเพียงจาปากต้าน กะนับว่าบุญพอ

คงเบิ่ดหวังลงหอฮ่วมเฮียงนางน้อง

นางพญาคือเจ้าบ่าวบ่เอากะตาบอด

ซั่วสิฮอดบักอ้าย...คิวนั้นสิบ่มี ซั่นแหล้ว คนงามเอ้ย !.

จารย์คำหล้า ผญาหย่อย...

พลอยสีเหลือง ลูกคนเล็ก

    21 ธันวาคม 2564

..พี่แพงเอ้ย..

..ผิสังยินเกี้ยวฮั้ว คัวส่องสองแนม

หยับมาแกมทางใน

ไตร่ถามนวลน้อง

สายลมบาดยามต้อง

ตรองภะมัยแพรห่ม

หือท่อลมด่วนแล้ง

เพสะเเด้งด่วนกาย..ซั่นบ้อ

..พี่เอ้ย

คึดอยากหยับไปซ้น

หม่นห่มโฮงเฮือน.ยุเเหลว

คึดอยากหยับไปซอน

อ่อนออยหวานอ้อย

แนวว่าโตต่ำต้อย

หงอยชานบ่สมเพิ่น..นั้นนา

ได้แต่แหงนนำฮั้ว

ขัวข้ามย้านบ่มี..ซั่นดอก

      ชมพู่ สุภัสสร

 

   21 ธันวาคม 2564

หางวันศีลฟาดคะ🤟🤟

หัวยุ้มย้าม...ยิ้มใส่โตเอง

สุขในใน......อิ่มใจยอย้อง

เสียงดังก้อง.....รายงานใจสั่ง

ไลน์ดีดเด้ง...ใจห่าวใส่จอ

เสียงอ้ายเว่า...ได้หยังกินเที่ยง

เมื่อยบ่เจ้า...กินข้าวแน่เด้อ🥰

เผลอหลงยิ้ม....มันอิ่มในใจ

เสียงห่วงใย...ได้หยังฮองท้อง

อ้ายฮักน้อง...บอกป่องทางไป

ใจของนาง...ห่วงนำโตอ้าย

กายไกลกล้ำ...ไกลกันคนฝ่าย

หมายฮักมั่น.....นำอ้ายผู่เดียว

....ผญาข้างถุงกล้วยแขก...😁😁😁

#ตันตันแมงตาตีบ

       ตอไม้ พะยูง

 

20 ธันวาคม 2564

 

..พี่เอ้ย

..ตกยามแลงค่ำคล้อย คอยพี่เคยจา

..คนึงหาบ่าวชาย ว่าหมายใจซ้อน

..คนผุสอนนางน้อง จักคองคุณค่า

..คำอ้ายจาจ่ายต้าน สานไว้ฮีตคอง..เด้อหล่าอ้ายว่า

..คำเอ้ยพี่ชายเว้า..

..ให้เป็นทองค่าแท้ หินแห่อย่ามาแกม..

เด้คำ

..บาดยามแซมเสริมทรง แต่งองค์คนกะย้อง

..ไผกะปองอยากได้ พาไปไหว้ย่า

..ฝูงคนมาส่าซร้อง ชมน้องว่าควร..ตั้วนาง

..อดสงวนท่าไว้ ใจหน่วงทางหนัก

..แม่นว่าฮักทอได๋ จ่องภะมัยดึงจ้าว

..คั่นเป็นสาวแพงไว้ ทางไตอย่าแผ่

..คั่นแม่นแม่เฮือนแล้ว ความแป้วอย่าจา..อ้ายว่า

..อย่าได้หาเสี่ยงซู้ สมสู่ทางใจ

..สิตกไฟโลกันต์ ขั่นภูมินรกได้

..อันความในอักซ้อน ตอนเผลอเปิดป่อง

..บาปสนองต่อก้น นำส้นฮ่อมอบาย..เด้นางเอ้ย

..อันความชายจ่ายเว้า เอาใส่ในมโน

..บ่เคยโสทางหมอง ฮิ่นตรองคองเค้า

..สิบ่เอามาเปื้อน ซุมแซงให้คนส่า..ดอกหนา

..ฟังพี่จาเอ้ยเว้า แลงเช้าอ้ายบอกสอน..นางจำได้จ้า

#ทักทายยามแลงจ้า

#ลงกลอนแล้วเฮ็ดกับเข่าแลงก่อนจ้า

#ไผทันมียังกินมาฮ่วมภารช์นำกันจ้ามื้อนี้นางอ่อมปูจ้า

      ชมพู่ สุภัสสร

 

   20 ธันวาคม 2564

 

 

ชายเอ้ย🥰🥰

ใจของอ้าย         สิฮักไผนั้นใจพี่

ใจของชายดีดี้     ไผห้ามหากบ่ฟัง

คันว่ายังโสดแล้ว         สาวหลายคนมีสิทธ์ฮัก

นางกะฮักอ้ายได้        คือด้ามดั่งเขา

บ่มีสิทธ์ในโตเจ้า           นางหรือเขากะบ่แม่น

เอิ้นว่าแฟนกะบ่ได้        เอิ้นว่าซู้กะบ่ได้

โตน้องกะดั่งกัน        สาวหลายคน

มีสิทธ์ฝั่นฝันหาชาย        หมายได้ฮ่วม(ซั่นแหล่ว)

คาสำรวมวาทไว้          ซงสิได้แต่ห่อตอง

สาวหลายคนพากันจ้อง       หลายคนจองเพิ่นคึดต่อ

หวังขอฮักจากอ้าย         มีสิทธ์ใช้ได้แบ่งปัน

อีกคน หนึ่งในหั่น             ฝันคือกันตั่วล่ะพี่

หวังอยากรวมชีวี         ใช้ชีวิตฮ่วมเจ้า

สิพอลุ้นอยู่บ่น้อ🤔🤔😁😁ฝันดีเด้อคะทุกๆคน

#ตันตันแมงตาตีบ

               ตอไม้ พะยูง

 

       19  ธันวาคม  2564

 

.พี่เอ้ย

..ตกยามแลงค่ำคล้อย คอยพี่เคยจา

..คนึงหาบ่าวชาย ว่าหมายใจซ้อน

..คนผุสอนนางน้อง จักคองคุณค่า

..คำอ้ายจาจ่ายต้าน สานไว้ฮีตคอง..เด้อหล่าอ้ายว่า

..คำเอ้ยพี่ชายเว้า..

..ให้เป็นทองค่าแท้ หินแห่อย่ามาแกม..

เด้คำ

..บาดยามแซมเสริมทรง แต่งองค์คนกะย้อง

..ไผกะปองอยากได้ พาไปไหว้ย่า

..ฝูงคนมาส่าซร้อง ชมน้องว่าควร..ตั้วนาง

..อดสงวนท่าไว้ ใจหน่วงทางหนัก

..แม่นว่าฮักทอได๋ จ่องภะมัยดึงจ้าว

..คั่นเป็นสาวแพงไว้ ทางไตอย่าแผ่

..คั่นแม่นแม่เฮือนแล้ว ความแป้วอย่าจา..อ้ายว่า

..อย่าได้หาเสี่ยงซู้ สมสู่ทางใจ

..สิตกไฟโลกันต์ ขั่นภูมินรกได้

..อันความในอักซ้อน ตอนเผลอเปิดป่อง

..บาปสนองต่อก้น นำส้นฮ่อมอบาย..เด้นางเอ้ย

..อันความชายจ่ายเว้า เอาใส่ในมโน

..บ่เคยโสทางหมอง ฮิ่นตรองคองเค้า

..สิบ่เอามาเปื้อน ซุมแซงให้คนส่า..ดอกหนา

..ฟังพี่จาเอ้ยเว้า แลงเช้าอ้ายบอกสอน..นางจำได้จ้า

#ทักทายยามแลงจ้า

#ลงกลอนแล้วเฮ็ดกับเข่าแลงก่อนจ้า

#ไผทันมียังกินมาฮ่วมภารช์นำกันจ้ามื้อนี้นางอ่อมปูจ้า

      ชมพู่ สุภัสสร

    19 ธันวาคม 2564

หล่านางเอ้ย.,สมกับเป็นศรีแก้ว

เหล่าแนว เพิ่นสอนสั่ง มาน้อ

ถึงหลับหลังต่อหน้า

หล่าน้อง กะบ่ฝืน

ยินกับควมถืกต้อง

ฮีตคอง อันคุณค่า นางเอ้ย

ปางบรรพ์มาสอนชี้

ดีแท้ให่เหล่าทำ เด้อนาง

*สบายดียามแลง ครับ*

       เกียรติตระกูล การโสภา

          19 ธันวาคม 2564

คั่นว่าเป็นสาวนั้น

อย่าฮัองแอ่วหาไผ

ค่ำแลงมาหุ่งหาภารช์ต้อน

ให้ออนซอนเวียกบ้าน

ขานคำอ้อนอ่อยจา

ให้ฮู้ออยฮู้เว้ายามเจ้าว่าความ

เถิงวันพระผีกเว้น

แนวเวรสิมาไล่

หุงภารช์หาเสบียงต้อนส่งท่านญาครู

ให้ฮู้ฮับฮู้สุ้เงินคำเก็บก่อ

มัดฮี่ห่อเก็บไว้

ยามใช้ขาดเขิน

ให้ฮู้หย่างฮู้ค่องวาทค่องเคียมวา

ปรารถนาแนวนี้

ดีแล้วเพิ่นสั่งสอน..นางมา

      ชมพู่ สุภัสสร

 

    19 ธันวาคม 2564

...หนาวใจ......

..หนาวเหมันต์มาต้อง ซูนส่วยปะทังคีง..

..เสม่นฝีงไฟฮูน อุ่นเพียงภายเนื้อ..

..หนาวมาเหลือเอาฮ้าย กายนางนูมสั่น..

..ทั้งแพรพรรณป่ายตุ้ม คีงเนื้อกะเล่าเย็น..บ่วาย

..คราตาเว็นอ่วยย้าย สายสั่นสนูหาว..

..คนิงคราวเคยเฮียง ฮ่วมซอนสะแคงอ้าย..

..ฤดูกาลล่วงล้ำ หนาวหน่ำลมกะส่า..

..คำเคยจาว่าเอื้อน เดือนย้ายบ่หน่ายแพง..ดอกหนา

..คำสุแปงปุนสร้าง ชายเอ่ยเสนาะหู..

..แม้นฤดูด่วนเลย สิอ่วยคืนมาพ้อ..

..อิดูขอแถนไท้ ถวยคำสวากส่ง..

..ควมผสงดั่งอ้าย แนนเค้าอ้ายเล่าลืม..หละบ้อ

#ทักทายทุกท่านยามแลงจ้า

#นึ่งเข่าถ่าพุบ่าวก่อนน๊า

      ชมพู่ สุภัสสร

 

    19 ธันวาคม 2564

 

                    หลังจากกินข้าวเที่ยงแล้ว     นั่งเล่นอยู่หน่าคอกงัว

                คิดเห็นคำสอนของพ่อนาง

                    ลูกหล่าเอ้ย..    .การสิเป็นคนดีนั่น..    บ่ยากเลยพอหน่อย...(พ่อนางว่า)

         เถิงสิเกิดอยู่บ่อนฮ่าย.      .กะดีได้เเม่นดังกัน(ลาวว่า)   คนที่เกิดที่ดีนั่น...เป็นคนชั่วกะมีหลาย

        เกิดอยู่ไสกะหากดี...หากไฝ่ดี..    กะแม่นดีกันทั้งนั้น.. บ่สำคัญพอน้อย..ให่ลูกคอยดอกคิดฮ่ำ..

         อย่าหลื่นคำพ่อแม่เว่า...เด้อหมู่เจ้าอย่าเหล่าลืม..

                  สวัสดียามบ่าย.อากาศหนาวคือเก่า  บ่ายมากะเริ่มสิเย็น.ทางเมืองศรี

        รักษาสุขภาพโตเองเด้อค่ะ

                                          ส.สำลี พิมเทพ

 

                                        8 ธันวาคม 2564

 

              นกจิบน้อย..งอนคอนยังมีคู่         นกเขาคู...อยู่กิ่งไม้       ยังเย้า...หยอกกัน

         แจๆฮ้อง...แจนแวน       กะแสนอ่อย..คือจังอ๋ออิ่งอัอย...หวานจ้อยต่อแฟน

         แถทๆ.เว้า...เข้าหุ่มยามแลง             เอิ้นกันกินแมง..จอ๊ดๆ.ฮิมฮั่ว

         อัวๆฮ้อง..กาเหว่า     เอิ้นหาคู่..ตูเว้ย..ข้างพุ้นพี้

         สุขขี๋ล้น...ป่าดง          อัศดงลงแล้ว..แนวแมง    ฮ้องยามคํ่า..

         ทั้งจี่หรีด...เขียดน้อย       รำร้องแข่งกัน

         หน่อยนึ่งนั้น       ตะปาดฮ้อง..อ๊อดๆ      คือจังวา..จ๊อดๆ

         ชิมหู...ฟังไว้       เรไรร้อง...เสงแชม     บันเทิงม่วน.

         .อยากสิชวนเอาอ้าย    มาฟังร่วม..ฮ่วมนาง        เบิ่งเด้...

          ธรรมชาติ..ล้วนๆ      อวนอ้าย..สิวาดั๋ย..น้อจ้า..

**แต่งผญามาอ้อนยามเข้าบ่อนนอนจ้า..ฝันดีจ้าพี่น้องสุคนๆ..หนาวแล้วอย่าลืมห่มผ้าหนาไปเด้อจ้า

                        วิภาพร ภูสมศรี

 

                        8 ธันวาคม 2564

 

                    หลับตานอนคืนนี้           ให้ฝันดีเด้ออ้ายบ่าว

                ฝันเห็นสาวคือหล่า         ซาวผ้าหุ้มตุ้มใส่คีง

               ใจคนิงนำอ้าย                  อยากกอดก่ายยามลมหนาว

               อยากเอาสองมือซาว       ดึงอ้ายบ่าวมาเคียงร่าง

               อยากสิถิ่มหมอนข้าง       กางแขนแทนผ้าห่ม

               อยากสิงมซาวร่าง            เฮียงข้างบ่ห่างเลย

               ย่อนบ่เคยลืมเจ้า              ยามเหงาเทียวคิดต่อ

              ใจอยากห่อผ้าตุ้ม             กุมมืออ้ายจนคลายหนาว  พุ่นแหลว##สาวเมืองบั้งไฟ

                  เอื้อมดาว เอื้อมดาว

 

                   8 ธันวาคม 2564

                                        ชาติว่าแนวนามเชื้อ หงษ์คำบินฝ่าย

                       🌸ไผกะได้ยอย้อง ว่างามนั้นแหลว

                    🌸คือจั่งโตของข่อย   ตัวดำคล้ำหมน

                   🌸คิดนำคนผุโก้       บ่หอนได้ฮ่วมเฮือง

                   🌸คือจั่งฟ้า             ไกลห่างกับดิน

                   🌸มีแต่แสงตะเวน     ส่องลงมาพื้น

                  🌸ยามแสงตะวันคล้อย ยังมีจันทร์ส่อง

                 🌸ปาดห่าตัวนาถน้อง  สังบ่ได้ฮ่วมกัน

                 🌸หือว่าซินของน้อง   บุญบ่ชูยู้ส่ง

                🌸บ่สร้างบุญฮ่วมอ้าย เฮาจั่งใด้แต่ฝันชั้นบ้อ..

                     ______///___________/////_____________//////___

                                #ปลายทาง ที่ว่างเปล่า

                                    #แอดมินครูจ๋า

                                   ปลายทาง ที่ว่างเปล่า

 

                                     8 ธันวาคม 2564

 

ว่าโอน้ออ้ายโอน้อ

 เห็นว่าน้องพุอ้าย... ........ บ่ได้อย่างไปนา  เด้ค่ะ

เสื้อผญาใส่เอา.. ........... บุญพุ่นเด้อ้าย🤣🤣🤣

พี่เอยเจ้าพุพั้วหมากเม่า... ไผบ่เอากะตามอย่า

บ่าวพ่อฮ้างพ่อหม้าย....  .. ให้มาพี้น้องสิเอา

เจ้าพุเลาคีงส้มอย่ามัว....... จ่มแต่นำหนาว

สิให้ซาวมือบาย..................คั่นพี่ชายอ้ายมาแต่ง

สาวสวนแตงอยากเป็นใภ้......สิมีไผรับเป็นย่า

เอาสะใภ้บ้าๆมาไว่..................มาไว่ถ่าเบิ่งแยงย่าเอย

   💓💓💓💓💓

       สวัสดียามแลงลมเย็นค่ะ

หากะมีเวลาว่างค่ะ

    #เมื่อลมพัดหวน#

 

 6 ธันวาคม 2564

ฝนศิลา..ฟ้าสิแล้ว..ดินแตกแหง..กะตามซ่าง..บ่เคยวาง.หัวใจเจ้า..อ้ายยังเฝ้า.เบิ่งถนอม..ดอกกะยอม..คันหอมกุ้ม..ซุมผมนาง..สิหอมกว่าบ่น้อ..หวานในคอ       นํ้าอ้อย..สิหวานจอ้ย..ซํ่าเผิ่นจา..บ่ละนาง..แนวบ่จาง..ปานจืดนํ้า.นั้นคือความคิดอุ่น..คิดฮอดคุณ..ทุกคํ่าเซ้า..คือความเว้า.นั้นอึ่หลี..วันเดือนปี..นี้ทางอ้าย..หมุนข้างกาย..เจ้าบ่ห่าง..อ้ายฮักนาง.อยู่สู่มื้อ..บ่สนซํ้าสํ่าเวลา..นั้นแหลวเนาะ.....

ดาหวัน ภูน้ำค้าง

6  ธันวาคม 2564

เหลียวเห็นอ้าย..หมองเศร้า..นั่งเจ่าฮอดสาวดัย..ในหัวใจพี่ชาย..มีสาวดัย..ลุมตุ้ม.สังมาฮอ..มาหุ่ม.มรสุมจนไข้ป่วง..หนักในทรวงพี่อ้าย..ให้ไขเว้า..สู่น้องฟัง..(แนหน่า)..อ้ายเอ่ย😁😁ฝันดีจ้าอ้าย..ผญาม่วนคักจ้า

 

วิภาพร ภูสมศรี

 

ฝากคำจาผญาต้าน    กลอนบ่หวาน.อภัยแน่

ขอโทษแม่และพี่น้อง    ถ้าบกพร่อง.ให้แนะนำ

จาผิดคำฮ่ำเฮียนน้อย    คอยประคอง.แน่เด้อพี่

กลอนกวีหากบ่อฮู้     แนวเฮียนน้อย.ด้อยศึกษา

เป็นชาวนามาแต่เค้า     คำเว้าจา. อาจบ่ม่วน

ทังสำนวนวาจาข้อย      บ่หวานจ้อย.แต่อย่างใด

หากผิดไปในบางครั้ง     อย่าได้ชัง.กันเด้อท่าน

แนวอยากสืบตำนาน    ของพ่อแม่เฮา.แต่คราวกี้

กลอนกวีพอเขียนได้     ผญาไทย.อาจบ่เก่ง

แถมยังเป็นบ่าวฝั่งซ้าย     เขียนไทยได้.แต่บ่แข็ง

ให้ฮักแพงอย่าแหนงหน้า    บ่าวชาวนา.ผู้ต้อยต่ำ

มาขออยู่นำแบบพี่น้อง     จึ่งจำต้อง.ก่องผญา

...สบายดีมีความสุขเด้อครับเด้อ......

กลอนกะวี คนเศร้า จากใจผุบ่าวไทบ้าน

 

         29  พฤศจิกายน 2564

 

                  สาขาไม้.........มีใบ        กะแตกต่าง

สาขาไม้......มีหุ่มใบ...กะต่าง      หุ่มหนึ่ง.........วิเศษแท้

เงาเงี่ยง......แม่นโพ..(ต้นโพ)       สาขาไม้...มีใบ..กะแตกต่าง

ใบหนึ่ง.........วิเศษแท้       ธรรมพระเจ้า.......อยู่ใน(ใบลาน)

สาขาไม้.......ลำเดียว..ป้องกะต่าง      ลางเถื่อเป็น.......พี่น้อง

ใจเลี้ยว..........บ่คองกัน

              (พี่น้องท้องเดียว)แต่บ่ใจหากต่างกัน..

                      มาสวัสดีตอนบ่ายจ้า...

***วันนี้เอาแค่นี้ก่อน..กนดินแก่นเมื่อยหลายจ้า..

                  วิภาพร ภูสมศรี

 

              29 พฤศจิกายน 2564

 

                                    ...ก่อนนอนจักกลอนก่อน....

                    ..วาเด้น้อ

          .ย้านแต่ติใบม้วน ติสวนบ่สมส่าว..    ติพุสาวบ่สมชายพุโก้ พาโลเว้าว่าคือ..ดอกหนา

.คันแม่นมาฮอดมื้อ ยังถือตาลมาคือเก่า...ยังหอบเอาป่าอ้อย นางน้อยสิคึดนำ..พี่เอ้ย

.โสสุดหมายคู่ค้ำ จำดมดอมอุ่น...ปานเดือนหนุนดาวค้อย คอยชะแง้หล่ำแงง..

.วันปีเดือนเลี่ยนย้าย หยายตาลขานส่ง.. .ญ้อนผะสงค์ยอดซู้ อิดูบ้างติต่างแฟน..เด้ออ้ายเอ้ย

..หากแม่นสมมาดแม้น สายสะแนนเกี้ยวจ่อง...นางสิเนาว์ข้างคล้อง คือคำฮ้องชั่วกัลป์..อ้ายเอ้ย

.ย้านแต่ติแถลงฝั่น ขันเกลียวแล้วปล่อย...บาดห่ามึยผ่อยแล้ว คำเจื่อยแจ้วสิผ่อยตาม..นั้นน๊า

.สุดเขตคามทีปแคว้น แดนใดผะสงค์อ่าว...สิบพุบ่าวซาวพุโก้  บ่คืออ้ายบ่าวพี่ชาย..ดอกหนา

.ลว่งลงกลางก้นบึ้ง บึงใจคืออ้ายพี่...แม่นแสนปีผ่านพ้น โลกาย้ายฮักอ้ายบ่เปลี่ยนผัน..

.ทอมใจขันแซมซ้อน ซวนหลงอนงค์มัก...เป็นตาฮักจั่งเจ้า จูงเข้าสู้ภาร์ขวัญ..พี่เอ้ย

                    #ทักทายก่อนนอนจ้า

                    #เพ้อตามประสาคนมักจ่มละจ้า

                   #ไผบ่มักกะเลื่อนผ่านเด้อจ้า

                           ชมพู่ สุภัสสร

                     29  พฤศจิกายน 2564

 

 

 

 

 

                               ".. กลับมาพร้อมจ่ม.."

                    ทอมปรับแปงแต่งถ้อย.... ฮอยฮ่วมควมผญา

             อักษราคำโคลง...............ส่งหวานกานท์ล้ำ

             ขัดเกลาคำนำต้อน..........หลายกลอนซอนเด่น

             สังวาทเห็นเผ่าพื้น............ยืนไว้ค่าศิลป์..นั้นแหล้ว

             ถักระบิลถิ่นบ้าน..............จารใส่หลายแขนง

             ส่งแฮงใจเถิงกัน...............เพื่อสรรภายซ้อย

             นำฮอยเดิมดาเค้า............เอาลงโคลงสี่

            เขียนวลีพ่องต้าน.............หวานล้วนส่วนงาม..คำนอ

             ยามนี้มีเมื่อยม้อย............พลอยห่างทางเขียน

            ยังแวะเวียนเพียรคอย.....ค่อยแนมสุเซ้า

            คึดเขียนเอายามล้า.........ภาษาบ่ป่อง

            แนมฮวงทองก่องก้ม........ซมดั้วทั่วทาม..งามเด

            ยามเหมันต์เทื่อนี้............ลมวี่ใจวอน

             แนมสะออนโพสพ...........ค่าลบหลบซ้ำ

             ตาทองคำนำข้าว........... เอาขายใจหล่อย

            เหลือแฮงคอยต่อตั้ง.......หวังล้วนส่วนเงิน..ท่านเอย

            บ่สมบืนบุกสู้...................เนาอยู่เฮ็ดแปง

             มาแสลงใจหลาย............จ่ายบ่พอทึนจ้อย

             พวมสะหวอยตายแล้ว....แนวราคาตกต่ำ

             ทามนาดำท่วมท้น..........โนนพุ้นค่าบ่มี.. สิตายแล้ว

             *ขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ*

                   ๑๕/พฤศจิกายน/๒๕๖๔

                    Suriya Promsorn

 

                 15  พฤศจิกายน  2564

 

..เดือนสิบเอ็ดสิบสองมาฮอดแล้ว หัวลมโชยมาใหม่....เข่าไฮ่เก็บเกี่ยวแล้ว เข่าดอก้มเเก่นำ..

..ซุมเข่าใหม่หมู่ดำหล่า กะพวมบานใกล้สิถอก....หมาจอกเอิ้นสั่งซู้ กะปูหม่นก่นแต่ฮู..

..ปวงหมู่จระเเจจู้ แจนแวนออกหาไข่....ควายเถิกใหญ่ออกแล่นห่าว หัวลมจ้าวเปลี่ยนฤดู..

..ปวงหมู่ญาครูเจ้า ครบไตรมาสออกพรรษา....วสันตากะเลยเหมิด ฝูงหมู่ปลาลงโฮมต้อน..

..ตกมาเดิกข่อนๆ ดาวเถิงคอนง้อยเหงี่ยง....เสียงนกจอกนกเจ่าฮ้อง เตือนเอิ้นสั่งหมู่ปลา..

..สกุณาบินผ่าย สายลมหนาวน้าวหน่วง....ปวงหมู่เข็งค่อกั้ง หันหน้าเข้าสู่วัง..

..เสียงฟ้าฮ้องตึ้งตั้ง เอิ้นสั่งฤดูฝน....ความหนาวผัดมาทับ ตื่มทวีลงเรื่อย..แล้วน้อ

..ปีกลายน้อสิเหมิดแล้ว ปีนี้มาซ้ำฝาดต่อ....หนาวละน้อเทือนี้ แพรสิตุ้มหากบ่มี..

..ตกเดือนนี้เฮามาพากันสร้าง กฐินแฮพอได้แห่....ตามฮีตคองพ่อแม่เจ้า โบราญเฒ่าเพิ่นกล่าวสอน..

..เฮามาพากันสร้าง กฐินธรรมทานทอด....เสร็จแล้วจั่งค่อยลงท่งกว้าง เอาเข่าขึ้นใส่ลาน..

..อันนี้เป็นฮีตเค้า ตั้งแต่เก่าปางปฐม....แต่บรมพุทธกาล ล่วงมานานแล้ว..

..เป็นคำสอนองค์พุทธเจ้า พระโคดมเพิ่นสอนสั่ง....หวังให้เฮาพี่น้อง ได้แปงสร้างส่วนบุญ..พี่น้องเอ้ย..

          #กราบงามๆยามเช้าจ้าทุกท่าน

         #สำบายดีมีความสุขใจสุขกายตลอดมื้อจ้า

         #ยามเช้าทางขอนแก่นเริ่มหนาวแล้วจ้าอากาศเย็นลงทางบ้านพี่น้องหนาวไป่น้อ

          #หนาวแล้วใส่เสื้อหนาๆเด้อจ้า

                                            ชมพู่ สุภัสสร

                                        27 ตุลาคม 2564

 

 

 

 

ดวงตาเวนต่ำค้อย   ยืนใจลอยคึดฮอดถิ่น   ฝูงนกบินเจิดเจ้ยเลยฟ้าเข่าสู่ฮัง

ตาเวนยังต่ำค้อยลอยรับบ่ดับหาย    มันยังกายคืนมาสู่นะพายามเซ้า

เป็นจั่งใด๋นอเจ้าสาวงาม   พุไกลถิ่น   สิโบยบินเจิดฟ้าคืนบ้าน

ถิ่นอิสาน .บ่นอ    หรือวาลืมฮีดเค้าคองเก้า  ที่เคยทำ

ลืมเทิงคำวาจามู่ผญาสอนน้อง  .แล้วบ้อ   ได้ไปเนาในห่องวังทอง  เลิศคา

ลืมผญาก่าวเว่าคนเฒ่า   พุเพิ่นเนา .จั่งใด๋นอ   ลืมเสียงนกอี่จู้จู๋จี๋ยามพ้อคู

ลืมมู่ฝูงเขียดน้องลอยน้ำ  แล้วส่งเสียง

ลืมสำเนียงเคยเว้าเอาเลามาจักตอก .นั้นเด

บัดฮาจักบ่ถืกข่อย่อบ่ถืก  ป้องมันสิเสี่ยวใส่มือ.เดหล่า  ลืมแล้วนอ .นอหล่ายุหัวนา.จนวาคำแมงละงำ

ฮวกเขียดน้อยที่เคยส่อน  ซอยกัน.   เสียงรำพันออดอ้อนซ่อน

เอาแต่พอกิน   หูไดยินเสียงนางสิฟ้าวคืน  เมือบ้าน

เสียงนางสั่นสะท้านยามอิ   แม่มาตาม  ทรมานหัวใจอ้ายหวั่นไหว

คาวนั้น..หล่าเอ้ย

#เซาดอกหาหม่องลงบ่พ้อพีน้องเป็นจั่งใด๋กะอดสาอ่านเอาโลดเด้อ555

                        บุญส่ง สีลาดเลา

                    26 ตุลาคม  2564

บ้านสิใหญ่ส่ำฟ้า...ถ่าเฮาอยู่บ่มีสุข    กะคือนอนในคุก...บ่ต่างกันดอกเด้อจ้า

คันมีคนจาเว่า...นำกันมันหากแก่น    ความฮักเฮากะเเน่นแฟ้น....เเสนสิได่อยู่เย็น

แมนสิเป็นเถียงไม้...นำดงใหญ่แสนสบาย    สุขคือกันเด้อยาย...บ่ต้องอายคำคนเว่า

อยู่จนเฒ่าตายนำกัน...มันหากอุ่น    ดีกั่วมัวคิดวุ่น...บุญเฮาแล้วได่ฮักกัน

้   สวัสดียามเพล..อากาศเริ่มสิหนาว เเล้วเด้อมื่อนี่

รักษาสุขภาพเด้อจ้า มื่อนี่ เอาเสียงเว่า มาให่ฟัง

อย่าสะตื่นเสียงคนเว่าผญาเด้อค่ะ

            ส.สำลี พิมเทพ

 

          26 ตุลาคม 2564

 

                   นั่งเบิ่งงัวกินหญ่าอยู่ฮ่มไผ่  คึดอยากเว่าซือๆ

     อ้ายเอ้ย

.          .ยามกลางคืนเดือนเเจ้ง      แสงส่องนองามตา..

      คนกะพากันชม    ว่าจันทร์งามเอาเหลือล้น

แต่ใจคนเฮานี่สังบ่มีเเนวส่อง   มองบ่เห็นเป็นอื้อคื่อ

บ่มีมื่อสิส่องเห็น..(กะหยังว่า)    หากว่าเป็นไปได่

ไผหากมีอีหยังส่อง(ยืมแหน่)    ยืมมามองเบิ่งแหน่ถ่อน(สิคืนดอก)

พอได่ฮู่อีหยังซ่อนแม่นอยู่ใน    พอได่ฮู่เซื่องหยังไว่

ในหัวใจนอของพี(อยากฮู่อีหลี)    ว่ามีหยังเซื่องลี้(อยากเห็น)

ในสี่ห้องบักหน่วยใจ(ซั่นดอกจ้า) 

       สวัสดียามสายหลังจากที่ทำบุญ  มาแล้วกะกลับมาจ่มให่ฟังคือเก่า    เป็นจั่งได๋น้อบ้านพีน้องหนาวคือ  ทางเมืองศรีบ่น้อยามเซ่าๆ    สบายดีมีแฮงเบิ่งแยงสุขภาพเด้อจ้า

            ส.สำลี   พิมเทพ

           26 ตุลาคม 2564

 

 

 

 

พี่น้องเอ้ย

มีแต่เล้าบ่มีเข่า...มีแต่เสา.    หลังคาบ่ค้างอยู่..มีแต่อู่.บ่มีไม้คํ้า

สินอนได้บ่อนจังดัย.....เฮือนบ่มีหัวหน้า ...สาบ่มีปลาอยู่

...คือจังอู๋แอ่งนํ้า...วางค้าง ขาดกระบวย ..เด้น้อ..

คิดฮอดเด้  คิดฮอดชุม   เอื้อยอ้าย..พ่อแม่ชาวผญา

บ่เคยเห็นหน้าตา   ยังคิดนำป่านนี้  ในฤดีมันกลุ้มสุมทรวง

ยุฮ่อมๆ..แท้แหร้ว   แนวคนเคยจาต้าน    ขานเว้าต่อผญา

คิดฮอด วจีเอืัอย.อ้ายชาย   ผุเคยทัก.เคยกดรัก..กดไล้ค์

ใจนางหล่าอยู่บ่เป็น..สั่นแล้ว  เลยเอ่ยคำจาต้า  ถึงบ่หวานกะฟังแน

ฉิ่งสายตามาจักน้อย   บอกว่าข่อย...คิดฮอดแฮง...หลายเด้อจ้า...

มาบอกพี่น้องฝันดีก่อนเข้านอนจ้า....

                            วิภาพร ภูสมศรี

 

                            22 ตุลาคม 2564

 

            อากาศฮ้อน อีกแล้ว      ขนาดว่าฝนพึ่งเซาตก

                   เดือนสิบคล้อย มองเห็นปรอยขี่ฟ้าหม่น   เปรียบคือคนผู่จั่งน้อง  ยามหมองเศร่า ได่นั่งหงอย

สายฝนโปรยหลั่งย้อย   ใจคนคอยโลดบ่ซ่วง     ห่วงคนไกลอยู่ต่างบ้าน ปานนี่อยู่จั่งได๋

ได่ยินข่าวว่าอ้าย  สิคืนต่าวดอกคืนมา     ได่ยินคำคนจา ว่าอยากคืนมายามบ้าน

นางอยากขานถามส่อ  เเต่ใจนอบ่อยากเซื่อ    ขอเผื่อใจเอาไว่  ให่เห็นอ้าย ดอกต่าวมา

แนวคำจาคำเว่า  คำคนซ่าคนเขาลือ      บ่อยากถือเอามาคิด   ย่านบ่เป็นคือคำเว่า

ย่านใจเศร่า เหงาๆมา  บ่อยากซา ให่มันผ่าน     เรื่องวันวานบ่อยากเว่า  ย่อนใจเศร่า  บ่เล่าลืม

สวัสดียามบ่าย มาเว่า มาจ่มให่ฟัง อีกแล้ว    ว่าปลง แต่กะยังคิดคือเก่า  สำบายดีมีสุขเด้อค่ะ

                                   ส.สำลี  พิมเทพ

 

                                  21 ตุลาคม 2564

            พี่น้องชาวผญาเอ่ย

              ...เสียงประทัดดังโป้งป้าง       เป็นต่างล่างแท้น้อใจ

ผัยเพิ่นมีคู่ควง..ไปเวียนเทียนวันนี้..คือสิดีเหลือล้น      ของคนเพิ่นมีคู่..เด้เนาะ

คนอดสูจังน้อง..ย่องเข้าแต่บ่อนนอน..ถ่อนแร้วจ้า...

    ....เก็บดอกไม้ไหว้พระองค์ศักดิ๋สิทธิ์..ทั้งอินทราผู้ทรงฤทธิ์    ทิศเหนือ.อิสาน.ใต้

ขอเทพไท้...อินพรมได้เหลียวลํ่า..    ขอให้ช่อยยู้.หลานน้อยได้อยู่เย็น..

   ....เป็นคำขอจากหล่า.   ,.องค์เทพาผู้สูงส่ง

จงได้มาช่วยคุ้ม..ชุมข่อยให้เจริญ...สาธุๆๆๆ

(กราบงามๆ).ขอคะมาพ่อแม่.คุณครูบาอาจารย์.ผุ้เพิ่นเพียรผญา..คันลูกหลานเว้าบ่ค่องบ่งาม..คำบ่ม่วน..กะอภัยคะน้อย..แนเด้อจ้า....

                                        วิภาพร ภูสมศรี

 

                                      21 ตุลาคม 2564

 

.....ย่าเอ้ย...นางมาขอสารภาพ🥰🥰  ......หมู่เขาห่อข้าวต้ม...ขนมตาลขนมเผือก

......ข้าวต้มมัดเชือกกล้วย...ขนมถ้วยขนมชั้น .......ข้าวขนมหมกหมู่นั้น....ส่างมาปั้นเฮ็ดเป็น

.......เอามาอ้างกันเล่น......กวนข้าวทิพย์ส่งกลิ่นหอม  .....ข้าวต้มผัดยัดใส้พร้อม...เตรียมไว้ถ่าใส่บุญ...

......นางกะส่อยเพิ่นลุ้น.....เอามาห่อคือกัน..........ห่ออันไดกะบ่งาม....จั่งแม่นบิดเบี้ยว..(ย่า)🤭

.เทียวตองขาด......เลงแนวไดกะบ่แม่น..😥  ....จับแล้วดึงห่อบ่ได้....ใจมันฮ้อนห่อบ่เป็น..(ย่าเอ้ย)

...ใจบ่เย็นเฮ็ดตองแตก...ป้าเลาจ่มผ่องตีมือ ....สอนบ่จือแท้น้อนาง...จังแม่นมันสอนยาก🤔

...เลยบ่มีแนวอ้าง...ขนมห่องามมาอ้างย่า🤭

....มื้ออื่นเซ้าคึดไว้ว่าสิลัก......ขนมป้าถ่าใส่บุญ😂😂

                         ตอไม้ พะยูง

                    20 ตุลาคม 2564

 

 

 

 

แมนบ่ฮู้อีหลีติอ้าย ถึงความหมายที่นางส่ง

จุดประสงค์คือมักเจ้า  หลายเข้าแห่งนานวัน

ความห่างไกล เป็นโตกั้น  แต่ใจฝันยังคือเก่า.

บ่ได้นอนข้างเจ้า  ขอแค่เฝ้าใจพีชาย

ใจละลายยามพ้อหน้า  ส่งวาจามาเว่าต่อ

วาฮักหล่าหลายกะด้อ  หัวใจน่อโหลดคิดนำ

ฝากถ้อยคำมาตอกย้ำ  บอกซ้ำวาคิดต่อ

วาคิดฮอดหลายกะด้อ   ใจหล่าน่อยูจังได๋

ฝากสานใจไปหาเจ้า  ฝากความเหงาไปหาเพิน

คันปากได้พออยากเอิ้น   เผชิญหน้าบัดถ่ากาย

ยังคิดต่อยุเด้ออ้าย   ฝากความหมายเป็นผญา

คันอ้ายผ่านกายมา  ให้ฮู้วาใจนางหล่ายูกับเจ้า 

สั่นดอกหวา     คิดออกกะเลยมาโพสต์อีก  รูปแต่สมัยแต่งหน้าเก่งๆ  สมัยนี้3ปีมายุนี้ลืมเบิดแล้ว

                             คนใช่ ที่ไร้สิทธิ์

                          17  ตุลาคม 2564

หล่านางเอย ฟังคำต้านหวานตาย้อ่าหนี่ มีแท้บ้อในหว่าฮักอ้ายพอฟังได้ส่ำได๋ หว่าหลงใหลฮักอ้ายนั่นย่ายแถลงเว่าให้ตึดนำ น้ำคำคนปากเกลี้ยงมีเพียงลมมาอ่อย ปล่อยคารมหวานเป็นน้ำตาลล่หมดแดง ฮู้บ่คำ้แลงมาอ้ายตึดเถิ่งคำนางจาเหงากุ้มคนิงหา ฮุ้บ่คำจานางหล่าเฮ็ดพี่ชายให้บ้าป่วง คึดฮอดแต่แม่ดวงดอกแก้วเหมิดมื้อบ่ส่วงเซา คำนางเว่ามันทรมานใจพี่ ได๋นางเอย อ้ายอยากเผยหว่ามักน้องแต่ใจย่านน้องบิจริง ได้หลิงแลจ้องนำนางทุกเช้าค่ำ คึดนิหน่ำจดปวดร้าวจนอ้ายอยู่บ่เป็น หากม้อได๋บ่เห็นเจ้าใจอ้ายหวี่วอน นอนกินบ่ได้ใจวุ่นบ่ส่วงเซา พอได้ยินคำเว่าของนางมาซ้ำเติ่มแฮงเฮ็ดให้อ้ายป่วงละเมอ เผลอหว่าได้เป็นแฟนน้องหวังครองใจไว้คู่พุ้นแหล่ว แต่แล้วพอตื่นได้ฝันนั่นหากสลาย เพราะนั่นเป็นเพียงคำเว่าของนางมาเว่าอ่อย มาตั๋วเฮ็ดให้ม้อยคอยได้กะเปล่าดาย หากไผไปหลงคำล่อของนางสิบ้าป่วง ย้อนคำลวงร้อยในฮั่นกะบ่ปาน เป็นคำหวานล้วนๆตั๋วคนให้หลงเสื่อ เหลือความจริงบ่ท่อก้อยจริงส้มกั่วหมากนาว เซาสะหล่าอย่ามาจาคำอ่อยมาเว่าหวานจ้อยๆให้โตอ้ายป่วงละเมอ เถาะหล่า....

             ประสม  บุญป้อง

             17 ตุลาคม 2564

 

 

 

 

 

      แมนบ่ได้แนบซ้อน  เคียงคู่พาขวัญ   ...บ่ได้เป็นผัวแพง  คู่ครองเมียแก้ว

...บ่ได้นอนแนบเนื้อ  เชยชมซ้อนบ่อน  ...ได้เป็นเพียงคู่ซ้อน  ควมเว้าทางจา

.      ขอเพียงได้พ้อหน้า  ลางเทือทางจอ     ขอเป็นหนึ่งญิงเดียว  อยู่ในใจอ้าย

...บ่หวังหลายทางน้อง  แล้วแต่แนนแถนแต่ง  ...เถิงอยู่เดียวแห้งแล้ง  ทางน้องบ่ว่าหยัง..พี่เอ๋ย

🙏กราบสวัสดีพ่อแม่เอื้อยอ้ายสุคนเด้อจ้า  🌜อากาศเปลี่ยนแปลง เบิ่งแยงสุขภาพเด้อจ้า🌝😘

😚นางมาส่งเข้านอนเด๋อมื้อนี้😘ราตรีสวัสดิ์จ้า😴

                                 กะยอมป่า โคกนาดอน

 

                                   16 ตุลาคม 2564

 

            อ้ายเอ้ย

               เส้นทางฮัก เฮาสองนั้น  มีแนวกัน กั้นหลายยาง   เทิงกำแพงกายบ่ว่าง  ย่อนคนข้าง ต่างกะมี

    ฮักอีหลี แต่วันพ้อ  ได้คิดต่อ ทางหัวใจ     แต่หย่างนำ บ่ได้  ย่านคนใกล้  มีน้ำตา

ฮอดเวลา คิดถึงเจ้า  อยากสิเซา  บ่คิดต่อ     ใจนางหล่า  อ่อนกะด้อ เทียวคิดพ้อ แต่หน้าเขา

ให้เป็นเงา ในใจน้อง  ยามได๋หมอง  ยูข้างพี่     ฮักอีหลี มีแต่เจ้า แต่เขานั้น กะเหลือโตน

ย่อนเขาเป็น คนยูข้าง  ใจของนาง มันบ่แน     จังตกเป๋นคนแพ้  หาทางแก้ กะบ่มี

เทิงสตรีพุนั่น  เมียแก้วขวัญ  ของอ้ายบาว       ย่อนผิดเวลา ข่อยและเจ้า  เทิงลูกเต้าคิดอยากอาย

แต่กะเซาบ่มีได้  ย่อนในใจ ฮักแต่เพิน      ยามเข้าบอน  จนหลงเอิ้น ซืออ้ายเติ้ล พุบาวนาง

แมนบ่ได้ยูข้าง  บ่ม่างฮักต่อพีชาย บ่ได้หมายพานพบ      แค่อยากคบในใจนี้ ชาติหน้ามี ขอคูอ้าย

ชาติหน้าใหม่ให้สมหวัง  ความฮักจากใจนาง สิบ่ต่างจากวันนี้  ชาติหน้ามีสิกอดเจ้า  สิยูเนาว์นอนซ้อนบอน  กายของนางนำอ้อนต้อน  สิถ่าอ้อนบาวพีชาย

สั่นดอกหวา ขอบคุณเรื่องราว  ของอ้ายฮัก เพินเว่าเรื่องความรักเพินให้ฟังมื้อคืน  มื้อนี้เลยถือโอกาสมาแต่งผญา  ขออนุญาติอ้ายซายของน้องสาวหล่านำเด้อ  ฮักในโลกออนไลน์ ฮักได้แต่  ยูนำบ่ได้เพินวา5555##คนใช่ที่ไร้สิทธิ์

                       คนใช่ ที่ไร้สิทธิ์

                     16 ตุลาคม  2564

หล่านางเอย ฮักบ่ได้ใกล้ ส่งเพียงใจกะดีอยู่ บ่ได้เป็นคู่ ขอเป็นเพียงหมู่จาเว่ากะส่วงใจ ตื่นขึ้นมาส่งไลน์เว่า ส่งหากันใจกะชื่นดอกน้องหล่า มาสืบสานมูลเค้าเก่าอีสาน หว่านคำผญาเว่าคุยกันให้หม่วน ชวนให้คนรุ่นน้องได้ฟังเว่าสิบต่อไป ส่งผญาจาไปกอดแทนใจพอได้อุ่น ส่อยเพิ่มพูลพลังใจให้ทุกคนแข็งกล้า มาฮ่วมใจกันสร้างความฝันยิ่งใหญ่ ฮ่วมแฮงใจสิบสร้างมูลเค้าปู่ย่าเฮา หล่าเอย

                       ประสม  บุญป้อง

                     16 ตุลาคม  2564

นางเอยคันเจ้ามีชายซ้อน/เทียมสองเฮียงคู่//มีผู่อยู่แนบข้าง/ให้นางน้องเบิ่งแยง//อย่าสิแฝงกายเว้า/หาชายคนอื่น/บ่อมีไผสิเที่ยงมั่น//คือคนเค้าผู่เดิม.ดอก//เว้าหยอกเล่นตางพอได้ม่วน.ซื่อซื่อเดอ.สวัสดีในวันหยุดครับ

                        เริ่ม ประนิสนธ์

                       16 ตุลาคม 2564

ใจมันท่องในโลกก้วาง มันหว่งในความสุข บางเทื่อกะมีทุกข์ เฮาต้องทนทานได้ ศรีวิไลในใจหล่า เขียนผญาจิตใจต่อ พอให้เฮาคิดพ้อ มีสุขได้ถ้าอ่านเห็น พ้อได้อ่านแล้วเม้น ทังยิ้มส่งเป็นแรงใจ พอมันไคยามทำงาน ให้จิตใจเซาหายหล้า ทังยามฝันอยากเห็นหน้า ทังหัวใจอยากเว้าต่อ หย้านหลายเด้ กลัวน้องหลายกะด้อ เห็นกันแล้วผัดแล่นหนี

                          บุญชู หลักคำ

                       16 ตุลาคม 2564

ถ้ามีใจฮักหมั่นบ่สำคัญใด้อยู่ฮ่วมตั้วนาง...ยามมื้อดั๋ยอ้างว้างคิดพ้อกะสุขใจ...ที่ชาตินึ่งเฮายังใด้มีคนฮักนำเขา...กะอดเอาสั่นหละนางขอแต่บ่ผิดศิลกะพอแล้ว....สิคิดหยังหลายแหล่วนางเอ้ยปวดหัวถิ่มชื่อๆๆ....อยู่ไปมัน.มื้อๆพอหล้อเพิ่นจ่มหานั้นแหล่ว..นางเอ้ย?

                             พูลทรัพย์ โยประทุม

                              16 ตุลาคม  2564

 

 

 

 

                                                                             

 

 

                                                                                              

 

                       เดือนตุลา ม่อใกล้     กลับหน่วง เหน็บหนาว

              เหลียวหาสาว มาเกย     ก่ายนอน นานพ้อ

              มีบ่อนอ สาวน้อย      นางใด ใจเปลี่ยว

              เหลียวมาทาง หว่างอ้าย   สิเอาไว้ ฮ่วมเฮียง

              ขอเพียง ฮักแน่แท้     ทางพี่ สิเอา

              มานอนเนาว์ ในหอ    ฮ่วมเฮือน ชานอ้าย

              ยามหนาวกาย แนบเนื้อ   นางคีง อิงอุ่น

              พอได้หนุน แน่น้อง    ยามหนาวต้อง ต่างนวม ซั่นดอก...

              สมัยนี้..หน้าหนาวแทบบ่อมีเนาะครับ..เกี่ยวกับการ

              เปลี่ยนแปลงของโลก..ฝนกะน่อย..หนาวกะบ่อมี

              นี่แหละภาวะโลกฮ้อนพี่น้องเอ้ย...มื้อนี้ขอกล่าวคำว่า

                             ...ราตรีสวัสดิ์ครับผม

                                      ทอง เสียน

                                13 ตุลาคม  2564

สวัสดีบ่าวอ้าย   ชายพี่คนไค   ฮ่ำฮอนสาวใด   ห่วงใยฮนฮ้อน

เดิกข่อนข่อนวอนเว้า   คะนิงเขาบ่หล่าย   หัวใจชายแนบเนิ้ง

นำก้ำฝ่ายใด   สาวทางไกลพุ้นพี้    อ้ายพี่เหลียวหา

ชมนางมาจา   บ่หัวซาพอน้อย  ได้แต่ออยเเอ่วอ้อน

ออนซอนหล่าเพิ่นพุไกล..ซั่นบ้อ

       #ทักทายก่อนนอนจ้า

            ชมพู่ สุภัสสร

           13 ตุลาคม 2564

 

 

 

               อ้ายเอ้ย

                   ตั้งแต่อ้ายกับน้อง  ได้ผูกจอง.สายสัมพันธ์    เป็นผัวแก้วเมียขวัญ  ได้ฮวมกัน  แต่วันกี้

      ใจที่มีสุขเหลือล้น  ลืนคน จนได้ซา    สมปรารถนา ข่อยและเจ้า  ในมื้อเข้าพาขวัญ

เริ่มร่วมฝัน  แต่วันนั้น  เบิดแนวกั้นใจเฮาสอง    ตามครรลองจนมีลูก ความทุกข์หลั่ง มาถั่งโถม

ไปโอ้โลมผู้สาว   เปลี่ยนจากเฮา ให้เขาซ้อน       ได้กอดหมอน  นอนไห้  น้ำตาไหล เทิงลูกอ่อน

ยามเข้าบอน  น้ำตาย้อย  เจ็บมาต้อย บักนวยใจ    เจ้ามาไลลืมถิ่ม  บัดได้ซีม  ผู้หญิงใหม่

ถิ่มอดีตเมียกับลูกไว้  ไกลสุดฟ้า บ่ตาวคืน      ได้แต่ยืนสะอื้นให้   อวยพรชัย อ้ายผัวเก่า

สุขสมหวัง สะเด้อเจ้า ข่อยลูกเต้า ซอยส่งลา     หยดน้ำตา สิอาบแก้ม  ฟ้าสิแต้มเป็นสีหม่น

ขอส่งคนฮักเค้า  ให้เจ้าพ้อแต่สิ่งดี  พออีนางเอ้ย

                                       คนใช่ ที่ไร้สิทธิ์

 

                                    13  ตุลาคม 2564

 

              ฟ้าครึ้มๆอ้ายแห่งตึ่มคนิงหา        ถึงเวลาลมหนาว  พัดมาเย็นจ้อย

    ยืนใจลอยซึมเศร้า  คนเดียวบ่มีคู่         ชู้เอ้ยชู้บักอ้าย  จักไปลี้อยู่ใส

    สาวบ้านเหนือบ้านใต้  อ้ายกะท่องเทียวหา    บ่มีคนอยากมาจา  ย้อนว่าชายจนไฮ้

     บ่มีไผอยากซ้อน  เป็นคู่นอนพอได้อุ่น     ย้อนความจน  เป็นเครื่องกลั้น 

     เลยนอนกลุ้มอยู่ผู่เดียว  น้องเอ้ย

            อุทัย อุปพันธ์

          12 ตุลาคม 2564

มองเห็นฟ้ามืดครึ้ม   อ้ายแฮ่งห่วงคนิงหา

เจ้าบ่มาหาชาย   ได้นั่งเหงา   นอนกลุ้ม   เอามือกุมหัวไว้   น้ำตาไหลลงอาบแผ่น   สายแนนของบักอ้าย   จักไปลี้อยู่ใส   หรือว่าไปอยู่พุ้น  เมืองกรุงแล้วลืมพี่   มีคนมาอ้ายกะส่อ   ถามหาเจ้าอยู่บ่เซา  

      เขากะว่าบ่ฮู้   จักไปอยู่ทางใด๋   คือสิไกล   ไปคนทาง   ห่างกันคนกล้ำ   พออยากนำไปหาน้อง   ในเมืองกรุงอ้ายบ่ค่อง   หม่องสิไปอ้ายบ่ฮู้   ย้านหลงบ้านบ่อนสิมา   กลับมาสาเดิ้อหล่า   หมดปัญญาแล้วละพี่   กลับมาสาคนดี   อ้ายยังคอยถ่าเจ้า   ยังคอยเฝ้าอยู่โท่งนา  น้องเอ้ย  สวัสดีครับ คิดฮอดพี่น้อง.คือเก่าครับ

                           อุทัย อุปพันธ์

 

                         12 ตุลาคม 2564

 

           มื้ออื่นเช้าแสงแดดเหงาสิมีบ่      เหลือบ่น้อชีวิตฮ้างพุนอนข้างบ่น้ำตา

วันเวลาที่ผ่านเลือน ถามหัวใจสู้ได้บ่     ยามหัวใจมันทดท้อ เจ้าทนได้บ่ละนาง

เสียงหัวใจสะท้อนมันใหลย้อนออกหน่วยตา    สิบ่หาดอกตัวช่วย คือคนป่วยเบิดแฮงยืน

สิกลืนกินความผิดหวัง โดยบ่มีข้อแม้      สิบ่หายาแก้แผลหัวใจไห้มันเน่า

บ่มีเขาวันข้างหน้าสิเป็นบ้ากะส่างใจ     สิมักไผใจกะดื้อเป็นหยังคือบ่ถามก่อน

ไห้มันนอนอ่าวโอ้ สมแล้วบ่จื่อจำ     ได้ยินคำหวานอ้อนใจแสนแหลนเข้าไปใส่

ยามผิดหวังต้องรับได้สมใจเจ้าอยากมักเขา     ใจสามหาวบอกบ่ได้แนวใจดื้อบ่จื่อจำ

คันบ่จำอีกเถื่อนี่สิจับวีถิ้มเข้าป่า    บ่หัวซาดอกใจเจ้าเหงาตายโลดยุพุเดียว.

                      💓💓💓💓

                             เซามัก

                             ส่งเพื่อนๆเข้านอนฝันดีเด้อจ้า💓💓

                                    เมื่อลมพัดหวน ณสวนแตง

 

                                            11 คุลาคท  2564

 

นางเอย

       อ้ายบ่มีหน่อกล้วย      ควมรวยจั่งเหินห่าง

แนวงัวควายม้าซ้าง           ทางอ้ายนั้นบ่มี

เว้าพื้นทางฝ่ายหนี้            พอมีอยู่หลักแสน

รถกะมีสองคัน                  นั้นแม่นจักรยานฮ้าง

       ทางเทียวไปมาได้      แต่หญ้าหลายข้องเข่า

สมัยพ่อแม่เค้า                   เพิ่นเทียวเข้าไร่นา

อาศัยไฟจากฟ้า                พอเห็นฮุ่งทางเดิน

เดือนและดาวปราณี          จั่งสิมีไฟแจ้ง

       ฮักเหมิดแฮงมีให้         ฮักเหมิดใจมีต่อ

บ่มีไผอยากพ้อ                   คือด้ามผุ้เพิ่นรวย

เสี่ยชัชขายหน่อกล้วย       รวยทรัพย์ มหาศาล

จักเพิ่นกินทานหยัง            สาวหลั่งโคมโฮมตุ้ม

      คิดขึ้นมามันกลุ้ม          กุมชาตาว้าเหว่

ขากะเป๋บ้องแบ้ว                 ยอมแล้วบ่อาจฝืน

ให้เจ้าสุขราบรื่น                 คนแห่เสมอหงส์

อย่าสิลงติดดิน                   คลุกขี้ตมคืออ้าย  เด๊อ

                     เฒ่า ซื่อ ซื่อ

                  9  ตุลาคม  2564

 

 

 

         คิดฮอดเด้อ.....

           ความคิดฮอด  ท่อฟ้า       เกินคณาเหลือสินับ..พี่น้องเอ้ย

           คิดฮอดพ่อ..คิดฮอดแม่      คิดฮอดลุงและป้า

          อาเอื้อย..บ่าวพี่ชาย      คิดฮอดน้องและอ้าย

          ในกลุ่ม..ชุมผญา..เด้น้อ     บ่พบพานหน้าตา

          ส่งแต่สานกับคำเว้า      คิดชุมหมู่เจ้า

          เอาผญาขึ้นมาอ่าน       ขาน.วจีอิ่งอ้อย

          ใจข่อยกะชื่นบาน       มีแต่สานคำเว้า

          ส่งมากับรูปถ่าย     ว่าเป็นน้องเป็นอ้าย

          ใจนี้กะฮักแพง..เด้จ้า   ...ฮักคิดฮอดเสมอจ้า...

         ..มื้อนี้พาหลานน้อย..    ....มาแอ่วนำจ้า..

                    วิภาพร ภูสมศรี

                  9  ตุลาคม  2564

 

 

 

         อ้ายผุดีเอ้ย

                                 ..อ้ายสังโสขี่เหล่   ..เห็นสาวงามฟ้าวเลงใส่

                 ..เห็นว่าน้องขี่ฮ้าย  ..กะหยอกได้แม่นพองกัน..ยูน๊า

                ...เห็นเพิ่นหัวญุ้มญ้าม  ...ตาหวานๆ.เว้าอ่อยๆ

                ...เฮดชะมุดชะม้อย   ...พอป่านอ้อย..อ่อยมดแดง.

                    ถึงยามแลงเพิ่นกะเฝ้า    ฮอดยามเช้ากะหาของไปฝากแว่

                   บ่เหลูโตน..หน้าแพ้แว้      จังน้องผุนั่งแหนม..แนเนาะ

                          ...สวัสดีก่อนเข้านอน...ราตรีสวัสดิ์จ้า...

                                     วิภาพร ภูสมศรี

 

                                    9  ตุลาคม  2564

 

 

         ทักทายค่ำๆคะพี่ๆฝันดีเด้อคะ🥰🥰

           บ่เป็นหยังดอกอ้าย..ใจนางมันเว่าง่าย    สั่งให้หงายให้คว่ำ..ใจนั้นกะบ่ขีน(ชังเดะ)😂

ตั่วจั่งใดกะได้.....ย้อนหัวใจมันแคร์พี่     ฮักอีหลีหรือฮักเล่น...ใจนี่กะเซื่อคำ(งึด)

ตั่วโลดได ตั่วให่ซ้ำ...หัวใจมุ่นบ่เป็นหยัง😎   มันบ่พังเพหัก...ดอกฮักคนหัวใจปลี้น

น้ำตารินปวดร้าว ....บ่พอคราวหักสิส่วง(ดอกหวา)    แม่นว่าปว่งคำเช้า...คราวมื้อหักสิหาย..ดอกตี๊

นางสิล่ามใจไว้...อยู่เหง้าไผ่แคมสระ    สิจูงดังมันเลาะ...แซ่วกินไซปล้อง🤔

แดดมันฮ้อนสิพาลงเลาะท่ง....   หาแมบน้ำ.....นำบวกให่ส่วงเย็น...(สมแน่ใจ)🤔🤔

                     ตอไม้ พะยูง

                  9 ตุลาคม 2564

 

 

 

                

 

                                                                             

 

                                  คึดฮอดรอยยิ้ม..

          อ้ายเอ้ย        มีสองซ้อนนอน..เฮียงแล้วไปล่ (นาง)ผู่บ่าวถามตีบ🤭

    นางสิตอบผู่บ่าวเจ้า    แฟนซ้อนน้องบ่มี    เกิดมาในชาตินี่     นางทำบุญมาน่อย

เป็นคนพลอยบ่มีคู่    กะเลยได้แต่สู้    งานเวียกผู่เดียว     ผุบ่าวมาเว้าเกี้ยว

กะมีแน่คือกัน         แต่ว่าความสัมพันธ์    สองเฮาบ่มีก้าว     กะเลยหยุดฮักไว้

หลายปีแล้วล่ะพี่    เกิดมาฮ่วมชาตินี้     ได้ฮ่วมแท้ตั้งแต่ลม      เพียงได้หายใจร่วม

ในโลกใบเดียวกัน       มันกะเป็นความสุข    ส่ำคนคือน้อง              ยามได้เห็นเขายิ้มเขาหัว

เฮากะซื่นแล้วล่ะ   สุขส่ำนี่พอโตน้องบ่ตาย(กะเอาแล่)##ตันตันแมงตาตีบ🤭🤭😁😁😁

                                                    ตอไม้ พะยูง

                                                 9 ตุลาคม 2564

 

 

              อ้ายเอ้ย

     อยากกอดเกยเคียงเจ้ายามเหงาแทนผ้าห่ม   ยามหนาวลมแทนผ้าตุ้มกอดกุมกายอีนาง

เดือน11หง่างหง้ายทอดใส่หนาวมาเยือน     สุดสะเทือนหัวใจแมนกอดไผบ่คืออ้าย

ย่อนใจหมายอยากซ้อนใจสะออนแต่นำเพิน  อ้ายพุหน้าเปินเวินจนได้หลงปากเอิ้นอยากเชิญมาเข้าเนาว์นอน

ใจสะออนคิดนำหน้าเทียวคิดพ้อแต่วาจาที่จาต้านแต่วันก่อน   ใบหน้าอ่อนดวงตาเศร้าอยากซูนเจ้าเข้าวิวาห์

ถ่ายุเด้อหม่อมอ้ายยาลืมงายคือคำคน   ให้คงทนคือตะเว็นสิหนาวเย็นยังเห็นเจ้า

อยากสิกอดนอนเฝ้ายามหนาวๆเข้าข้างอุ่น     ยังถ่าซูนคีงอ้ายบ่เคยได้คิดเปลี่ยนไป  

อ้ายเอ้ย  แต่งหน้าดีๆบ่ใช้แอ๊ปกะพอเบิงยุเนาะ555

            คนใช่ ที่ไร้สิทธิ์

           9 ตุลาคม 2564

                   อ้ายเอ้ย😁

               บุญเฮาสร้างกันมา...แต่ปางก่อน   ฮอดบ่อนบั้น....เมิดแล้วต่อนบุญ

ทุนฮ่วมสร้าง..ของนางกับอ้ายพี่     มันคงเมิดท่อนี้... บ่มีแล้วฮักเฮา

ภาพความหลัง...มันแสนเศร้า... มีความเหงามาเอิ้นใส่.....ถึงสิฮักปานได...

กะสิยอมปล่อยเจ้า....บ่ดึงไว้ล่ะพี่เอ้ย..😎  สิ่งที่เคยกับน้อง....คือสิเคยกับผู่ใหม่(ล่ะเนาะ)😁

ฮอดยามแลงหัวใจ.....คึดเห็นแต่อ้าย

เคย..เคย..กับอิน้อง...ฮอดมื้อนี้บ่มีแล้วเรื่องเคย😂

               ตอไม้ พะยูง

           9 ตุลาคม 2564

 

      ฝันดีเด้อคะ..

      เอารอยยิ้มมาอ้อน...เอาคำวอนมาส่งข่าว   บอกผู่บ่าวผู่สาว...ในผญากลุ่มนี้

...ฝันดีเด้อมุเจ้า...นางหล่าสิกล่อมนอน  ...เป็นผ้าห่มผืนน้อย.....คุมกายให้อ้ายอุ่น

.....เป็นพัดลมวีพัดเจ้า....คีงอ้ายให้ซุ่มเย็น... .....เป็นเตียงนอน นุ่ม นุ่ม...ฮองกายยามพักผ่อน.

    ..เป็นหมอนข้างน้อย น้อย  ...พอให่อ้ายได้ก่ายขา...😁😁😁

                             ตอไม้ พะยูง

                         9 ตุลาคม 2564

.

     อ่านผญพาใจเศร้า...พ้อตอนเขาจีบกัน    ใจสะบั้นบ่ฮู้เมื่อ...เหลือใจเด้ผู้ข้า

ย้านเป็นบ้าอยู่บ่เซา...ลาล่ะเด้อศาลาเจ้า    ผญาฮ่มคนแพงหลาย...นางสิไกลศาลาฮัก

หม่องพักใจเคยเซาฮ้อน...บ่ออนซอนสิหนีซ้ำ  ไปตามกรรมยอมหนีห่าง....ปล่อยศาลาฮักฮ้าง

หนีไปค้างฮ่มบักโก.😁..ปัดติโท้..โสกันไว้..   ฮอดปีใหม่สิมาหยาม....อ้ายพัดมีสาวงาม

อ่อยผญาพาซ้อน...ขออวยพรให้เจ้าฮักกับเขา   ให้มั่นแก่น....คำว่าแฟนคือผู่ข้าเบิดแล้ว

ฮอดบ่เหลือ...หวานคือเกลือน้อคำเว่า....  แฟนของเขาบ่ขอฮ่วม...ขอสำรวมเก็บฮักไว้

สิแพงให่..ผู่เพิ่นแคร์🥰🥰

.....ค่ำล่ะนึ่งข้าวก่อน##ตันตันแมงตาตีบ

                     ตอไม้ พะยูง

                  9 ตุลาคม 2564

     ย้อนยากเวียก..หยังกะปิ่นยุคือหลา    เสียงหัวใจโทรหา...ฮับบ่ทันเจ้าซงฮ้าย

เทิ่งอยากอายเทิ่งยิ้ม...สุขอิ่มอยู่ทางใน    หมากหัวใจพองโต...ผุบ่าวโทรมาอ้อน..โอ้ยเนาะ🤭

ซงใจฮ้อนแท้น้อ...อิพ่อใหญ่..ยิ้มแน่น่า    น้องสิไห้รางวัลอ้าย....บัดเถื่อมา🤭🤭🤭🥰😁

               ตอไม้ พะยูง

          9 ตุลาคม 2564

 

                

 

 

                                   พ่อแม่เอย

         ฮอดเดือนสิบฝนเร่งจ้าวหน่ำๆฮ่ำลง       เทิงนาดอนนาดงผลผลิตพูนเพิ่ม

เติมเทิงแลงเทิงเช้าโฮยฮวยบ่ได้ขาด          ธรรมชาติแต่งปั้นสวรรค์แต้มแต่งแปง

ฝนตกแฮงต่อกันมาหกเจ็ดมื้อ แสงตาเวนบ่ได้โผล่      ซุมนาโฆนาคน้ำสนุกเล่นซื่นใจ

ซุมคนอยู่ทางใต้แสนลำบากเหลือหลาย       ทางถนนหลายสายกะขาดตอน สะพานม้าง

ลางคนนอนอยุ่ในบ้านน้ำใหลเข้าท่วมแซ่       ต้องขนของจาก หนีน้ำเสี่ยงฝน

ฟังข่าวซ่าดังจ้นๆถนนเลือนดินใหล        เสียชีวิตลงไปเทิงหนุ่มสาวและเด็กน้อย

เบิ่งเอาเด้อเอื้อยอ้าย มันหากมาเถิงบ่อน      เวียกการงานขาดตอน  หมู่เฮาสิตกยาก

ย้อนตนเป็นคนสร้างบ่เห็นท่างป่องแปว         เฮดไห้แนวฮิตเค้าขาดด่านบ่สมุดุล

หนาวกะหนาวพอแฮง ฮ้อนกะเกินบ่พอก้ำ        ฝนกะฮ่ำ  ฮ่ำฮ้ายเกินกลายบ่อนสิเกิ่ง

คิดเบิ่งดู้พวกหมู่คนกะด้ามดั่งกัน

                                            ส้านแห่ลว.🤣🤣🤣😄

                                           เมื่อลมพัดหวน ณสวนแตง

                                                   25  กันยายน 2564

 

**                                   ""สองพี่น้อง""                           **                             

          น้องพี่เอ้ย.ตอนนี้เหลืออ้ายน้อง.เพียงเฮาสองที่ยังอยู่      ส่วนว่าผุ้กำเนิดเค้า...เพิ่นแก่เฒ่าแล้วเล่าตาย

คำสั่งเสียสุดท้าย...บอกอ้ายว่าอย่าป๋าหนี      ลูกกะมีเพียงสองคน..ให้สู้ทนเอาเด้อท้าว

เบิ่งน้องเฺฮาอย่าป๋าไว้..บ่มีไผ๋สิมาส่อง..คำเอ้ย      เบิ่งแงงกันอ้ายกับน้อง....อย่าป๋าถิ่มให้เปล่าดาย

ถึงว่าแม่นทางอ้าย..ไปมีคู่เมียผัว      กะอย่าเสียสัมพันธ์...ปล่อยวางทางน้อง

ให้ประคองดูแลซ้วน..บ่สมควรให้ต้านกล่าว        น้องกะอย่าลืมคราว..อย่าสิขืนลื่นดื้อ

ให้ฟังอ้ายผุ้กล่าวจา               เหลือสองหน่อท่อนั้นหน่า..น้องหล่าพี่ให้มีสุข..สาเด้อ

พี่สิวางความทุกข์...เข้าสู่ธรรมแล้วเด้อน้อง       อย่าได้หมองใจเศร้า..อดทนเอาเด้อน้องพี่

ลมหายใจที่อ้ายมี..พี่มอบให้พุทธเจ้า     ขอตามเหง้าหน่อพุธโธ

อ้ายขอลาเพียงนี้...ให้น้องพี่ดูแลตน      ขอกุศลหนุนนำ....ให้อยู่ดีเจริญยิ่ง

ขอพักพิงในธรรมนี้..คันบุญมีขอเพื่อแผ่       ไปให้พ่อกับแม่...เทิงเจ้ากรรมนายเวรพร้อม

ให้มาน้อมดอกรับเอา..สาธุเด้อๆ

         **ทอง        คนเหงา**

           25 กันยายน  2564

 

 

 

ก่อนสิลงไปเบิ่งเผิ่นเฮ็ดทาง..

ขอบคุณเด้อจ้า....พี่น้อง ผองมมิตรแฟนผญา  สาวนานางขอบคุณหลาย...ที่บ่ไลลืมน้อง

ยังมาจ้อง มาดู มากดเบิ่ง....นางเห็นแล้วกะยิ้ม   เห็นแล้วอิ่มบ่เป็น

ตอนกลางเว็นยามนี่....บ่มีป่องทางสิไป   แนมออกไปทางได๋...มีแต่แสงแห่งความฮ้อน

นอนกะนอนบ่ได่...แนวในใจมันฮ้อนอยู่    คึดฮอดหมู่ผู่เคยเว่า....ยามกินข้าวกะจ่มหา

คึดเบิ่งเด้อแม่ป้า....บ่แมนว่าคำนางตั๋ว   บ่เคยกลัวเกรงไผ....แนวมีใจนอทางนี่

คือจั่งมีคนจ้อง ....คือจั่งมีคนมอง..คองถ่าดอกสิอ่าน  จั่งได่มาจาต้าน....วานเว่าอยู่บ่เซา

คันมื่อได๋เหงามื่อได๋เศร่า...กะเว่าจ่ายเป็นคำกลอน  คอยๆวอนให่เห็นใจ....ผู่ได๋เคยฟังน้อง

คันเซาหมองเซาเศร่า...กะเว่าเรื่อง ดอกทำกิน  ไผกะยินดีนำ ว่าดู๋ทำ..แมนงานสร่าง

 คึดอยากวางตั้งหลายครั้ง....แต่มีหยังมาดึงจ่อง  คึดฮอดพีฮอดน้อง....ผองเพื่อน. แมนซูคน.

เว่ามาดนๆแล้ว...สิลาลงนอสาก่อน   เอาไว่ตอนมื่อหน่า...สิจาเว่าเล่าสูฟัง..

สวัสดียามสาย...สบายดีมีความสุขเด้อจ้า..

          ส.สำลี    พิมเทพ

        20 กันยายน 2564

 

 

 

                                               นั่งถ่าป้อนนมงัวน้อย ก่อนนอน

                                         (คึดฮอดหมู่)

                         คึดฮอดคนที่เคยจาต้าน   ที่เคยอ่านคำผญา

  เป็นเวลาหลายเดือน     ที่กล่าวจาทุกแลงเซ่า      ยามใจเศร่า  ยามได๋เหงา  ได่เว่าต่อ

พอได่เป็นหมู่เว่า   ยามได๋เศร่าเอ้าอั่งใจ      หลายมื่อหากบ่ได่   บ่เห็นพีออกมาจา

ยามนางมาแต่นา   ฟ้าวเขี่ยหา บ่เห็นมาจ้อย      หรือหากหลอยหนีหน่า   เซามาจาซั่นบ้อพี

คันสิหนีจากน้อง. คือบ่ฮ้องแม่นสั่งลา      คึดเบิ่งติ้ตั้งแต่ฟ้า  สิลาจากฤดูกาล

กะยังส่งเสียงขาน   ออกมาเป็นแสงจ้า      พอให่ปลาในน้ำ ในคลองได่ฮู่ว่า

 ฝนสิขาดจากฟ้า   จั่งลาฮ้องส่องแต่แสง     คนฮักแพง คนเคยเว่า  สิลาจากไกลหนี

สังบ่มีคำจา  ว่าอ้ายลาก่อนเด้อน้อง       คันบ่มองมาทางหล่า   กะหันมาเอิ้นบอกแหน่

คันบ่เอิ้นสั่งน้อง. กะให่ฮ้องแม่นสั่งงัว ซั่นดอกจ้า

สวัสดีก่อนนอน มื่อนี่มาส่งพีน้องเข่านอน. แล้วกะถามข่าว อ้ายชาย นำ ไผฮู่โต ว่ามีคนถามหา กะมาเว่ามาจานำกัน แหน่เด้อ  คึดฮอดคือเก่า ฝันดีเด้อจ้า

                    ส.สำลี   พิมเทพ

                  แ  20 กันยายน 2564

 

 

 

 

                       อ้ายมันคนจนไฮ้.....บ่มีไผ๋อยากมาฮ่วม

            บ่มีไผ๋อยากร่วม......เคียงข้างดอกกล่อมสอง      คำว่าอ้ายฮักน้อง....บ่มีค่าราคาศูนย์

ผลาบุญคนทุกข์.....มาอุกใจอยากอายเว้า    บ่คือเขา.ผุ้มีเงินคำก้อน..สาวสะออนเกี้ยวก่าย

มีเงินใซ้จ่ายซื้อ.......คือสุขล้นดอกลื่นเขา       แลงและเซ้า.ได้นั้งอยู่นอนกิน

บ่เหยียบดินโคลนตม..คงสุขสมใจตั้ง      เบิดความหวังแล้วคราวนี้...คงบ่มีไผ๋มองล่ำ

คนต้อยต่ำคือบักอ้าย..อยากอายบ้านเพิ่นมอง     สุขสมหวังสานาทน้อง...อ้ายทองทุกข์ทวีหนัก

ให้โชคดีมีคนฮัก........ผุ้ที่เขารวยล้น      ส่วนคนจนขอยอมพ่าย..หอบหัวใจกลับคืนถิ่น

คนชาวดินต่ำต้อย...บ่พลอยได้ฮ่วมพะนาง      คนงามเอ้ย...คำแพงเอ้ย

                                        **ทอง       คนเหงา**

                                          20 กันยายน 2564

 

          พี่น้องเอ้ย...

            คันเจ้าได้กินต่อนซี้น อย่าลืมคุณมารดา    คันเจ้าได้กินต่อนปลา อย่าลืมคุณบิดาเจ้า

  ผู่เพิ่นให้ข้าวหมกจกข้าวป้อน เลี้ยงเฮามาพาเฮาใหญ่. เพิ่นเป็นพระในบ้าน ให้พากันญ้องญกญอ...ท่านแหล่ว

  เจ้าอย่าได้ลืมถิ่ม เมืองอิสานบ้านพ่อแม่... ให้พากันแวต่าวโค้ง  อ่วยมาซ้วนซ่อยซู

  ให้หวนมาฟูฟื้น เมืองฝังสายแฮ่... อย่ามัวแต่นั่นนี่ ดีฮ้ายกะบ้านเฮา...ท่านเอ้ย

  ให้คืนมาแปลงสร้าง บ้านเก่าเมืองอิสาน  ไปอยู่ไสให้หวนคืน ถิ่นเดิมดาเค้า

  เฮาเกิดจาก.กกจากเหง้า อิสานคำเมืองเก่า... อย่าได้ปะถิ่มฮ้าง มาแปลงสร้างให้ฮุ่งเฮือง

  แดนไกลในฟากฟ้า ไออุ่นยังมีเต็ม   สุงสิคืออิสานเฮา หม่องเคยเนาว์นอนซ้น

  หรือไปดนจนลืมบ้าน อิสานเฮาบ้านเก่า...  เมืองถิ่นเดิมดาเค้า ญังคอยเจ้าต่าวมา...ยุเด้อ พี่น้องผญา

      *** หาแนวกินแลงก่อนเด้อจ้า***

               Triyawong Surintron

 

               20 กันยายน 2564

 

              

                        ..วาเด้

                                      ..อยากสิเป็นผืนผ้า  ..แพรงามให้อ้ายห่ม..เบิ่งเด้   ..สิห่อหุ้มฮักไว้

                                ..เคียงใกล้อ้ายกับนาง    .อยากสิเป็นห่มกั้ง  ..ยามเจ้าย่างไปมา

                                ..พอได้บังสายตา  ..ผุเพิ่นมาพานพ้อ   ..อยากสิเอาเมือบ้าน

                                ..เฮือนชานขังคือไก่   ..เอาผ้าคลุมฮี่ไว้ ..กลัวย้านเพิ่นมักนำ..พะนะ

                                                    #ทักทายทุกท่านยามบ่ายจ้า

                                                          ชมพู่ สุภัสสร

                                                     10 กันยายน 2564

           พอได้ยินเสียงต้านมาคือหวานเว้าม่วนแท้นอ        ฟังเสียงหวาน

       จ้อยๆฟังแล้วฃ่างม่วนหลาย.เด้.นอ

                              บุญรอด วงษ์สืดว

                             10 กันยายน 2564

                     อ้ายนี้คิดต่อตั้ง..หมายก่อแซมกอnnnnnnอ้ายคิดต่อคำนาง..ส่งใจโฮมถ่อน

จนอ้ายนอนฝันเพ้อ...หมายใจได้ฮ่วม    อยากอยู่ซ้วนคู่คํ้า..นำน้องหมอมพระนาง..ฮักเด้อน้อง.

              Nid Pradung Kraiduang 

                   10 กันยายน 2564  

 

                            #ยุคของคนสิแล้ง....#ย้อนแค้นคั่งนำเงินตรา

                    #แสวงหาเงินคำ.......#มนุษย์ธรรมลืมเกลี้ยง

                     คิดแต่เพียงทางได้.....#วิธีไดกะตามอย่า.....

                     #ขอแต่ได้เงินมา.......วิธีหาสิชั่วฮ้าย....

                        .....#โสหาได้บ่ใส่ใจ.

 

                            Arm Sophia Victor

                                               9 กันยายน 2564 

                      คิดฮอดเด้..

                         .ผักกระแงงดอกหอมกุ้ม      เข่าพวมซุมฮวงเหลืองล่า   .กบปูปลาเริ่มซ้น

.                     ขี่ตมหม่นเข้าอยุ่ไง   .แสงไฟไต้ตะเกียงส่องฮอดยามคืน  .จับปลาบืนเถิ่งหัวนา

                     .ใส่ไซลัดดักหลุมไว้   พ่องเปิดไง้ข่างคันแทกบซ้นอยุ่  .เก็บผักตู่ผักชีพร้อมไว้อ่อมแกง

                     .ผักกระแงงดอกสีม่วง  .เป็นพวงพุ่มอยุ่แจสา  .สุขใจหลายยามไปนา

                     .ออกพรรษาพวมสิม้ม   .ลมเอ๋ยลมลมพานต้อง   .ฮวงเข่าก่องพวมสุขเหลือง

                     .บาดคนเฮียงไปอยุ่ไส  .ไผสิมาซอยน้องก้ม  .ลมเอ๋ยลมลมพัดเข่า

                     .ฮวงสีสุกล้มเป็นหล่าว  .ไผสิซาวยามเข่าล้ม  .ก้มเกี่ยวเข่าซอยอินาง..น้อพี่น้อ

                     #มากวนพี่น้องยามแลงจ้าได้หยังกินเข่าแลงน้อจ้า

                                                     ชมพู่ สุภัสสร

                                                  9 กันยายน 2564

 

..วาเด้

.ยามว่าลมพัดต้อง   .ต้อยไผ่ใบปลิว   .พัดเป็นทิวทางแถว

.ท่งนาทามเอื้อ  .สังมาเหลือใจแท้   .หลงคองสุเช้าค่ำ

.คอยน้ำฟ้าหลั่งล่วง   .ลงพื้นปฐพี   .คือดั่งใจนางนี้

.จอบส่องคอยหา  .คือดั่งนาคอยฝน .หม่นใจยามแล้ง

.คือดั่งดินดอนแห้ง  .คอยเมฆาสิมาซุ่ม .สิมาไหลโฮมตุ้ม

.หลุมโลกให้ซุ่มนอง  ..อ้ายเอ้ย   .คึดเห็นคำเคยเว้า

.เอื้อนเอ่ยเจรจา  .คึดเห็นยามเคยทุกข์  .หว่างระทมเคยท้อ

.คึดเห็นยามเคยปลอบ  .ออยเอาให้เซาซ่วง  .คึดเห็นแล้วหน่วงใจน้าว

.ย้อนเจ้าชายเปลี่ยนทาง  .จั่งมาได้นั่งเก้อ .เพ้อป่วงเป็นคำกลอน

.จ่มจ่มวีาวอน .นำสายลมพ่องตรมระทมแล้ง .เกินว่าใจพี่ชายแห้ง

.เป็นฮ้ายแฮงกว่าฝน .ฮู้บ่น้อใจคน  .ผู้ที่คอยมันฮนฮ้อนเน่าใน

.วอนลมไปบอกอ้าย  .อดสากายมาเยี่ยมส่อง .แวมาเบิ่งใจน้องบ้าง

.สิตายแล้งย้อนคึดนำ.ละเดะอ้ายเอ้ย

#กราบทักทายยามสายจ้าทุกท่านสบายดีมีความสุขจ้า

                   ชมพู่ สุภัสสร.

                 9 กันยายน 2564

คำแดงเอ๋ย...คอบว่าอยากนำการงาน...ดึงจ่องพ่องว่าอ้ายงานหลายเป็นตาหน่าย

เถาแก่ลางานบ่ได้...กะได่แต่นั่งคอย

ลมวอยๆมาฮอดแล้ว...ใจอ้ายแป้วจนไหวหวั่น

ใจกะสั้นคิดฮอดชู้...ผู้คองถ่าอยู่บ้านท่ง

เหมิดหน้าฝน...ต้นหนาวแล้ว.....ถ่าอ้ายก่อนเด้อคำแพง

                     Nid Pradung Kraiduang

                     9 กันยายน 2564

นางสิคอยแต่อ้าย

บ่หมายอื่นทางได๋

สิฮักเดียวคือชาย

ตราบวายชีวาสิ้น

สิบ่ผินเปลี่ยนย้าย

ตายต่อกับไผ

สิตายนำชายเดียว

เหลียวนำแต่เจ้า..ซั่นแหล่วพี่เอ้ย

                   ชมพู่ สุภัสสร.

                 9 กันยายน 2564

เว่าคือดีเน๊าะหล่าสาวส่าคนงาม จักแหม่นหวานนอคำเว่า ย่านปากหวานปานน้ำอ้อยแต่ใจส้มดั่งบักนาวติหล่าเอย

                     ประสม  บุญป้อง

                    9 กันยายน 2564

            วาเด้

        บ่ได้หวานคำเว้า     เอาใจเข้าสู่    ถึงสิมีหมื่นชู้

สิชูซ้อนฮว่มเดียวพี่เอ้ย

                   ชมพู่ สุภัสสร.

                 9 กันยายน 2564

หล่านางเอยขอจริงจั่งเว่า คำจามาหว่านั่นเถาะนา อย่ามาหวานน้ำอ้อยให้ตายม้อยละแหม่งนั่นหละ สาวผุงามเอย   ย่านแต่หวานปากเกลี้ยง ใจหลบเลี้ยวพันโค้งกะบ่ปานซั้นดอกหวา

                       ประสม  บุญป้อง.

                       9 กันยายน 2564

                  คึดฮอดสาวบ้านป่าน้องนาข่อยแฮงเด้

          ผมเป็นคนชาวบ้านอีสานคำฟ้าต่ำๆพี่น้องเอย  แสนระกำยากล้นฝนแล้งแห่งแต่ซวย  หนีจากบ้านเข้าสู่เมืองกรุง  หนีจากลุงตายายอาวอาปู่ย่าเฮาอยู่ทางบ้าน  ซมซานหารับจ้างหาสตางค์ไปใช้จ่ายพ่อลุงเอย  ทางบ้านทุกข์สิตาย เข่าขาดแลงแกงขาดหม้อขอไทยบ้านเผิ่นให้ทาน

             ลาก่อนเด้อน้องหล่าสาวถิ่นดินอีสาน  สาวบ้านนาคนงาม พี่สิลาเดอน้อง ให้เจ้าคองคอยอ้ายคันบ่ตายสิกลับต่าว  คึดฮอดคราวแต่กี้เคยได้ห่วมทาง เคยเก็บเห็ดอยู่ข่างดอนใหญไพรพนา  ฝนตกมาแหว่เซาเถียงนาน้อย น้องยังคอยเตือนอ้ายไปไทยให้กลับต่าว สาวอีสานสิถ่าอย่าลืมน้องผู้นั่งคอยเด้ออ้าย คึดฮอดน้องความสั่งบ่เคยลืม  เถียงหัวนาบ่อนเซาเนายั้ง   เหลียวหลังหลบมาหม่องเถียงนาน้ำตาหลั่ง “เจ้าสั่งหยังอ้ายยังจำจื่อได้คาค้างอยู่หว่างใจ”  คันมีปีกบินได้คือนกเจ่าหรือนางกานางเอย อ้ายสิบินหลบมาห่วมงายกับน้อง คองคอยอ้ายเด้อนางอย่าใจต่าง หาสตางค์ได้แล้วสิคืนบ้านถิ่นอีสาน สิกลับมาอยู่บ้านนาป่าขาดอนบ่อนออนซอนเมืองกรุงเลิกรามาแล้ว สาวอีสานคือแก้วทองคำล้ำค่า อ้ายสิพาเฮ้ดไฮ่นา หาปลาในแม่น้ำชี-มูลพุ้นให้อุ่นใจ

              อ้ายขอฝากชีวิตไว้กับเนื้อ่อนนาดอน  แม่หำแม่อี่นางคนงาม เจ้าอย่างอนหลายเด้อน้อง ได้ยินเสียงฟ้าฮ้องเดือนหกมาฟ้าฝนใหม่

คึดฮอดผู้อยู่ไทยแหน่น้องหล่าอ้ายเป็นบ้าป่วงวิน  ผินหน้าคืนมาบ้านอีสานคำฟ้าต่ำ

 เวรกรรมหยังอี่น้องหล่าเฮาจั่งได้ห่างสอง

      ได้เงินแล้วสิกลับต่าวคืนอีสานนางเอย ขอแต่งงานอยู่กินกับเจ้า มีลูกเต้าหลายคนให้อบอุ่น  สร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ ปู่ ย่า ยังอุ่นเหย้า อ้ายสิขอฮักเจ้าตะผองเท่าชั่วชีวัง น้องเอยฯ

                                                       คุณครูพรมมา  พลศักดิ์ / ประพันธ์

                                                                              ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

 

 

 

 

            อดสาบืนฝืนสู้.......ยืนเคียงคู่กันเด้อคำ

         อย่าใจดำหนีป๋า..ยามปัญหามันมาตุ้ม

        มรสุมปะดังเข้า...หัวใจเหงาจนล้าหล่อย

        ขอเพียงเจ้าและข่อย..อย่าใจน้อยให้ค่อยทน

        หนีปัญหาคงบ่พ้น...ถึงปากบ่นกะทนฝืน..คำแพงเอ้ย

         อดสาบืนสู้ไป.......อย่าได้ไลลาร้าง

       อ้ายกับนางซ่อยกันซ้วน..หนักหรือเบาเอาใจซ่อย

       สองเฮาคอยยิ้มสู้....บู๋ม้นดอกก่นถาง

       ฮักอย่าให้มันฮ้าง....แม่นทางย่างลำบากแสน

       ตอนเป็นแฟนทุกคำจา..ที่วามายังจำได้

       ทุกข์ปานได๋สิฮักมั่น..บ่มีวันสิถิ่มปล่อย

      สุขทุกข์เศร้าเหงาหง๋อย..กะสิคอยอยู่เคียงข้าง

      เทิงนางอ้ายได้กล่าวจา..คำแพงเอ้ย

      ยุคโควิทโคโรน่า.....น้ำตาหลั่งรินตก

      หัวอกไผ๋กัคือกัน....ทุกข่ระทมตรมฮ้อน

      ถึงยามนอนกะฝันร้าย..ย้านเจ้าไปดอกจากพี่

      มันลำบากอีหลี....คันสิหนีกะบ่ห้าม

       ตามแท้ตั้งแต่ใจ

       ตอนนี้น้องและอ้าย....ยังฮักแก่นเป็นแฟนกัน

       ความสัมพันธ์กะยังดี...ถึงบ่มีเงินก้อน

       ขอวิงวอนเทพไท้...ให้โภยภัยนั้นไกลห่าง

       อนาคตอ้ายกับนาง..ขอให้สุขลื่นล้น

       จนคนได้ส่าลือ....คำแพงเอ้ย..คนงามเอ้ย

                #แด่หัวใจที่รักจริง

             **ทอง     คนเหงา**

              9 กันยายน 2564

 

 

 

บ่าวพี่ชายเอ้ย

                       ขอเอาใจไขต้าน......บอกผ่านส่งเสียง

              ฝากสำเนียงส่งมา.....ว่าคิดถึงทางอ้าย

              ผ่านพ้นมาหลายมื้อ......อ้ายยังฮักคือเก่าบ่

              ย่านใจงอบ่เที่ยงแท้......เสมอด้ามดอกดั่งกัน

              แอบวาดฝันนอนเพ้อ.....ใจคร่ำครวญมาอ้ายเอ้ย

              ฝากส่งใจหาพี่ชาย.......ว่านางคิดถึงแท้

              ย่านคนแวมาเว้า.......เอาคำหวานมาป้อนใส่เด้น้อ

              ย่านหน่วยใจอ้ายแล่นตุ้ม..เขาหุ้มต้อยผุ้บ่าวนาง

             💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘💘

                              #ลูกสาวหล่า...

 

                                   #สิริพร...

                       Benjamas Samatong

                           8 กันยายน 2564 

 

                 .ฟังเสียงฝนปนใจเศร้า      ..เหงาในในหัวใจสั่น

               ..สายฝนพันปันทังทื้น      ..ใจสะอื้นได้กอดหมอน..เด้น้อ

..วาเด้

                  ..ฝนเอ๋ยฝนรินย้อย        ..สายลมวอยพัดฝนตื่ม

..สาวนาหนาวใจสะอื้น     ..ได้ฝืนกลั้นสเม่นทรวง

..ดวงเอ๋ยดวงคนขาดคู่       ..ขดกี่กู้ใต้ผ้าห่ม..เด้น้อ

..ลมเอ๋ยลมพัดจ้าว     ..สายฝนห้าวผัดแฮ่งหนาว

..สองมือซาวดึงหาผ้า    ..วาสนาขาดที่เพิ่ง

..หวนคิดเถิงคันมีอ้าย    ..นอนข้างกายแนบอกอุ่น..วาเด้

..สองแขนหนุนกอดก่ายน้อง    ..ประคองหล่าเข้าบ่อนนอน

..คิดไปตอนอ้ายออดอ้อน    ..สออนหล่าว่าฮักแพง..นั้นน๊า

#ทักทายพี่น้องยามบ่ายๆจ้าเพิ่งสิว่างจ้าสำบายดีจ้าทุกท่าน

                             ชมพู่ สุภัสสร.

 

                          8 กันยายน 2564

 

 

คิดฮอดน้อง จั่งได้ท่อง เทียวจา คำเอ้ย     วาสนาคนทุกข์ ได้ปิ่เวีน เดินเล่..

อกสิเพ นำหล่า สาวผญา เพิ่นอ้อน อ่อย..   ใจสวอย อยากก่อม กิ้ง คนิงน้อง อยู่บ่เซา

บ่ว่าแลงและเซ้า ได้จอปส่อง มอง จอ.คำเอ้ย.    ได้แต่รอ คนงาม ซิโพสต์ลง คำต้าน..

เสียงหวาน ๆ กังวานอ้อน โคกนาดอน บ่อนเนาว์อยู่..  แก้ม ตู หลู๋ นาถน้อง นางหล่า ผุอยู่ คอย..

อ้ายนี้นา เปียบคือควาย บักดำน้อย ผู่นอนคอย พรากคู่..  หล่านางเอ้ย.ขันนางบ่บายหญ้า หมก...

นางบ่จกหญ้าป้อน..บักดำน้อย ย้านแม่น ตาย พนะว่า..

สุขสวัสดี ยามสายๆ วันพุธ ครัปผม...

               Phoupha Duangsiao

 

                8 กันยายน 2564

 

           วาโอน้อ...เดือนเก้าดับเมิดสิ้น

บุญข้าวประดับดินก่อนข้าวสาก..ฝากอุทิศญาติพี่น้อง

ผู้ไลล้างห่างกัน  ตามตำนาน

กล่าวนั้น  พระเจ้าชื่อพิมพิสาร

องค์ภูบาลบพิธนิมิตเห็นเป็นล้างฮ้าย คนที่ตายโดนพุ้นมา

ขอบุญเลยเป็นเหตุ..เป็นผีเปรต ปอบเป้ามาเฝ้าอยู่นคร

พระองค์เลยเดือดฮ้อน  ย้าน

สั่นทั้งสูน ฟ้าวไปทูลพระสัตถา ฮ่ามันเป็นลางฮ้าย..คน

ที่ตายไปแล้วมาแซ่วๆ ฮ้องไห่

องค์พุทโธ เพิ้นส่องแจ้งแสดง

ให้สู่ฟัง ตั้งแต่คราวก่อนครั้ง

ยามเมื่อยังเป็นคน การกุศล

ทำบุญ บ่ต่อทนเอาไว้ ยามเมื่อตายไปแล้ว บ่อมีแนวเป็น

ข้าวห่อ จึงมาขอจากเจ่า..เมิด

เดือนเก้าให้แต่งทาน..(บุญข้าวประดับดิน)  จากเหตุ

การณ์เทื่อนั้น...ได้สืบทอด

มาถึงเฮา จึงได้เอาคาวหวาน

มาแต่งทานถวายให้..เพื่อให้ไปถึงไท้ อบายภูมิเบื่องต่ำ

เฮาได้ทำสืบไว้ไปหน้าอย่าสูญ..เด้อพี่น้องเด้อ..

Samor Wishaisri

7 กันยายน 2564

 

   ..วาเด้

..น้องนี้หลงฮักอ้าย     ..แต่แรกพบประสบกัน

..เถิงวันกายาทรุด    ..หม่อสิมรณังม้วย

..เช้าฮอดสวยจนว่าเที่ยง    ..ตะเว็นเอียงฮอดตอนบ่าย

..บ่ลืมเจ้าท่อเม็ดทราย..พะนะพุสาวว่า   ..ฮักพุเดียวเทียมท่อฟ้า

..ประเมินค่าบ่มีไหว     ..สุดหัวใจของนาง

..บ่มีหยังมาเทียบเท่า   ..มักแต่เริ่มเป็นสาว

..จนว่าฮอดมื้อเฒ่า    ..ฮักบ่เคยบางเบา

..ยังฮักเจ้่หนักหน่วง..ว่าซ้าน    ..กินยาหยังบ่ซ่วงได้

..อาการไข้ตื่มทวี    ..ตกมาเถิ่งมื้อนี้

..มันเกินที่สิทนไหว    ..ลมหายใจกำลังฮอม

..ใกล้สิตายวายสิ้น     ..ยังถวิลหาแต่อ้าย

..ยังหมายนำฮักพี่..วาซ้าน   ..ชาติหน้ามีพบอีกครั้ง

..เกิดชาติใหม่ให้พบพาน    ..คันแม่นสมใจนางแพง

..สิฮักเดียวบ่มายม้าง     ..ขอแต่บุพเพสร้าง

..แปงหนทางป้องเข้าใส่     ..ยอดดวงใจนาถน้อง

       ..มีเพียงอ้ายแม่นหนึ่งเดียว..เด้น้อ

                          #ทักทายสบายดีจ้าทุกท่านสุขสมหวังเด้อจ้า

                                             ชมพู่ สุภัสสร

                                          7 กันยายน 2564

เว่าคือคักนอหล่า มาล่อชายให้บ้าป่วน บาดหลงมักน้องแล้วย่านมายม้างห่างหนี นั่นแหลว นางเอย สิเอาหยังยืนยันได้ว่าใจเป็นคือหว่า นอนาง ลิ้นบ่มีกระดูกดิ้นปอปิ้นป่ายไป อ้ายยินแล้วสะท้านใจหวั่นนำนาง หลงคำหวานย่านด่วนเซบ่มีจั้ง ฟังฟังแล้วใจชายไหวหวั่น ย่านความฝันฮักน้องถืกลอยถิ่มค้างเคิ่งวัง ซันดอกเด..

                  ประสม  บุญป้อง

                7 กันยายน 2564

อ้ายเอ้ย     คำว่าฮักอ้ายนั้น      บ่ผันเปลี่ยนเวียนหนี

เพราะนางมีใจเดียว    บ่เผื่อไผทั้งสิ้น    หากอ้ายยินดีด้วย

ถึงบ่รวยน้องบ่ว่า     ปรารถนาบ่เว้น    นำเวียนเจ้าบ่ห่างตาเด้อพี่เอ้ย

               #ทักทายสบายดีจ้า

                  ชมพู่ สุภัสสร

               7 กันยายน 2564

แหม่นบ่นอหว่ามีใจเดียว อ้ายเหลียวไปคือเป็นยาบย่างมีแต่บ่าวอ้้อมข้างสังมาเว่าเปลี่ยวดายนอ คนผุงามคือน้องบ่มีคนปองนั่นบ่เชื่อดอกนางเอย อย่าหวานก้อนน้ำอ้อยให่โตอ้าย ตายม้อยละหมิ่งนำเดนาง

                 ประสม  บุญป้อง

                 7 กันยายน 2564

คันว่าฮักแพงแล้ว    คำเดียวบ่ไหวหวั่น    มีหมื่นพันพุเว้า

สิหมายเจ้าแต่พุเดียว..เด้น้อ

                  ชมพู่ สุภัสสร

               7 กันยายน 2564

น้องจริงใจบ่หล่า ตามคำจาคักแหน่บ่อนาง บ่ปะวางบักอ้ายให้ตายค้างเคิ่งวังดาย คันน้องหว่าจั่งซั้นอ้านสิเก็บเสื้อผ้าไปหานางมื่ออื่น สิเขียวคืนย่างดั้นหาน้องดังหมาย พี่หวังตายดาบหน้านำนางบ่ปะปล่อย หว่าแต่ทางน้องสิจาเว่าหว่าจั่งได๋ หล่าเอย

                     ประสม  บุญป้อง

                     7 กันยายน 2564

คันอ้ายพร้อม     นางกะยอมมอบให้พี่    มอบหัวใจดวงนี้

พร้อมภักดีบ่มีเปลี่ยน   สิฮักเพียรแต่เจ้า    หวังเนาว์เค้าเป็นคู่เฮียง..วาเด้

#ระวังคนข้างๆแน่ละเด้อจ้าย้านแทนซั่นดอก

มว่นๆจ้า

                  ชมพู่ สุภัสสร

               7 กันยายน 2564

555 คิคักนอ จักไผหละ.

           ประสม  บุญป้อง

           7 กันยายน 2564

หล่า ชมพู่  สุภัสสรเอย  อ้ายนี่เป็นคนไฮ้เงินทองเขินขาด  เงินบาทเบี้ยบ่มีค้างไถ่ถง แต่จำนงค์มักน้องหวังคองเป็นคู่  คนผึงามจั่งน้องสิเอาได๋ยุบ้อนาง  ทางฝ่ายพ่อแม่เจ้าโคตรวงศ์สิพร้อมบ่   อ้ายนี่บ่ย่านแต่พ่อแม่น้องสิติอ้ายหว่าทุกข์จน หล่าเอย.

           ประสม  บุญป้อง

           7 กันยายน 2564

 

 

             สุดมือยื้อ             จนได้โยบลงนั่ง      แนวกำพร้า          บุญนั้นบ่ส่งซู

คิดเห็นหน้า         คนไคอยู่ไกลถิ่น    ขอดใจน้อม        คนิงเจ้าฮ่ำฮอน..นางเอ้ย

     เวิงวังน้ำ         ยังมีขัวหญ่างไต่         เวิงใจเจ้า         ส่องหาบ่เห็นป่อง

      สุดแสนซ้ำ       ระกำใจคนิงต่อ        ค่ำคืนนั่งข่อม้อ   แนมฟ้าแลเบิ่งดาว

ซูมือขึ้น                หวังหยุมใยซาวเหยื่อ    เอิ้นใส่ฟ้า              ก็ไกลเกินสิบอกสั่ง

นั่งสะเพ้อ              คิดวุ่นวายใจป่วง        สองขอกข้าง        ฮนฮ้อนอยู่บ่เป็น

   ผัดว่าหงส์เหิรแล้ว    สังสิเหลียวมองล่าง       บินบนเบื้อง        จนสุดสายเซือกว่าว

   สังสิเล็งลงพื้น    แนมลงมาทางลุ่ม        กาดำเศร้า         หงส์เจ้าบ่ต่าวมา.

                              ##อิทธิเดช##

 

                                  ๓/ก.ย/๖๔

 

                   อ้ายเอ้ย      มักเจ้าหลายอยากอายเว้า

ย่านแต่เป็นของเขาย่านมีเงาพุอื่นซอน     ย่านมีคีงพุอื่นซ้อนย่านนอนไห้เปล่าดาย

คิดพ้อเด้แต่หน้าอ้ายคิดฮอดหลายใจเสม่น    คีงสาวจนหลงเต้นย่อนคิดเห็นบ่าวพีชาย

สายลมเหงาพัดต้องใจกะหมองอยากครองคู่     แต่บ่ฮู้ว่าทางอ้ายมีไผซ้อนก่อนอีนาง

คันใจพียังว่างเปิดทางย่างมาหาให้อ้ายเอ่ยวาจา     บอกนางมาแนเด้ออ้าย

อย่าให้สงสัยกันความสัมพันธ์มันสิเน่า      อย่าให้หลงมักแต่เจ้าใจอุกเอ้าอังเด้

บ่อยากเพพังฮ้างใจสาวนางยังคอยคู      ปรารถนาพบพ้อซู่คนพุฮู้ยูซุเว็น

เป็นสงสัยบ่วายเว้นยามบ่เห็นใจคิดห่วง    ผูัชายทั่วทั้งโลกก้วงใจบ่ห่วงคือเจ้าเลย

อ้ายเอ้ยพะนะ  หาหม่องลงเกือบบ่ได้  สวัสดีพีน้องแฟนผญาทุกท่านค่ะ  สมองบ่ค่อยแลน บ่มวนขออภัยเด้อค่ะ

                            คนใช่ ที่ไร้สิทธิ์

 

                         3  กันยายน 2564

 


            พบเพื่อนฟ้อง   ผองหมู่ มวลสหาย      ภายในจอ        จ่องถึง ดึงเข้า

เฮามาพ้อ         พบพาน สนานม่วน     มวลมิตรมี หมู่ล้น   เหลือลํ้า ลื่นคณา

ผญามา ว่าต้าน   เติมตื่ม ลืมเหงา      พอหงอยเซา       ซ่วงซึม สลึมเซ้อ

เจอกันแล้ว          ลืมอุก ทุกข์เหี่ยว     เหลียวหากัน หยั่งมื้อ   มวลฟ้อง ป่องสหาย

สิเอาลาย ว่าด้น  ดุดม่น ปนเดา     หรือสิเอา ตามหลัก แล่นหา พอได้

ไปตาม ประสาบ้า  เบิดวาง ทางเอ่ย     เลยตามเลย พี่น้อง  นิดน้อย น่อยเฉลียว

ว่าไป.สำปะปิ..เด้อพี่น้อง..ตามแบบคนฉลาดน่อย

                ทอง เสียน

           3 กันยายน 2564

 

 

 

              พอมืนตาตื่นขึ่นกะงัวเงียเจียเข่าไก่    มื้อบ่ไปเล่นน้ำพายเฮือล่องยุป่องชี

ลงหาปลามาได่พอได่ขายพอได่ยาก     ทุกนำปากอยากนำท้องชุมพี่น้องบ่ต่างกัน...

...วันเดือนเคลื่อนมาใกล้เดือนสิบสิบห้าค่ำ   บุญเข่าสาตทีเคยทำห่อเข่าใหญ่ห่อเข่าน้อยส่งไห่เพิ่นพุตาย...

มีตายายย่าเฒ่าพ่อแม่เทิงอาวอา     ชุมวงค์สามวลมิตรเคยฮ่วมกันแต่คาวกี้

ประเพณีแจกเข่าแจกบุญส่งให่เพิ่น

พุได่ทกุข์อยากฮ้อนชอยชูขื่นได่ชุ่มเย็น   แม่นไผหิ้วอดอยากมีเข่าแต่งผองแนวกิน.

มีปูปลาอาหารเมื่องหมากพูพันพร้อม     มีฮอดกลอยมันเผือกขนมหวานพร้อมชุอย่าง

ผลหมากบักไม้มีพร้อมแจกส่งเถิง      อย่าให่พุมาท่ารับกองบุญนั่นอดอยากเด้อ

ชัวสิมีมื้อนี้นับได้กะล่วงปี...   อย่าสะคือคำเว้าคือพระสงค์เพิ่นเทส

เปรตนรกฮ่ำไห่มาบ่ได่แม่นส่วนบุญ.ชั่นแหล่ว.

              ภูษิต อาษาศึก

          3  กันยายน 2564

 

 

 

               พี่น้องเอ้ย..        ย้อนว่าอยากสืบสร้าง....สานต่อประเพณี

        เป็นของดีมูลมัง........คู่เมืองอิสานนี้    เลยบ่รีรอช้า.......เข้ามาอยู่ในกลุ่ม

พอแต่มาอยู่แล้ว....ใจเป็นแป้วเคิ่งดวง   .เป็นงงๆเซ่อๆ......สมองเงี่ยงเอียงเข

..อกสิเพยามดู.....หมูแฟนผญาต้าน   ..ครองโบราณคงสูญถิ่ม....อีกบ่โดนกะคงม่าย

..คำผญากะสิหล่าย.......ขาดคนค้ำซ่อยซู    มีบางคนเพิ่นฮู้.......คุณค่าผญาเดิม

จั่งได้เติมสมองคิด....อยากสืบสานมูลเค้า   บางคนเอาใจช่วย......ติชมพอใจชื่น

บางคนมาเลาะเล่น.....หวังชมซู้ชั่วคราว ...สิ่งที่เจ็บปวดร้าว.....กะคือเรื่องเพียงสนุก

..บ่ได้ปลุกใจโต.....ให้สืบคองแทนเค้า  ..ขนาดเป็นคนเฒ่า....หัวขาวฮอดกะหง่อน

..จ่ายผญาบ่ได้........ถามส่อบ่แม้นแนว   กลุ่มผญาบอกแล้ว....กะควรอยู่สิทำตาม

มรดกงดงาม......ต่อไปคงหายสิ้น   เฒ่านำดินนำฟ้า......กะยังมาปัญญาอ่อน

คำผญากะบฮู้........แถมยังบ้าตั้งแต่กาม...งึดหลาย.

#ฝากให้คิดครับ   

              สุนาท ติดวงษา

           3 กันยายน 2564 

 บ่ อยากจาบ่ อยากเว่า.. เรื่องเก่าๆที่มีมา...เผิ่นเข้ามาเพื่ออีหยัง...ยังบ่มีคนฮู่..บางคนเป็นเทิง ครูอาจารย์พร้อม..มาติชมกะพอว่า..แต่หาว่าเฮาบ่ฮู่...คือครูเค้าผู่เผิ่นสอน...บางคนจรมาเข้า..มาเว่าว่าในทางเสีย..นางเคยเพลียหัวใจ..ย่อนคำคน.บ่ควรเว่า..เว่าไปหลายมันสิเศร่า..สิเซาจาดอกสาก่อน..เอาไว

่ตอนมื่อหน่า..สิจาต้านแม่นสู่ฟัง. สบายดีมีความสุขเด้อ อ้ายสุนาท

    ส.สำลี พิมเทพ

 

 3 กันยายน 2564       

        

 

 

 

   อ้ายเอย

         คำว่าเฒ่าซิบเบาๆ.. กะเจ็บ      บอกอยากเก็บ.. มาคิดตอนสังขารโรยล่วง

      เคยย่างโชว์อวดอ้าง...ร่างบางน้อยอ่อน   คนออนซอนส่าจ้นๆ... หล่าคนนี่ัจั่งแม่นงาม

     นางกะหัวยุ้มย่าม... ยามเพิ่นยอยก(เขินอ่ะ)​  ย้านแต่ตกไปใกล... ปีเดือนสิเลื่อนผ่าน(เด้น้อ)

     อกกะยานหน้าขึ้นผ่า... หลังคานั่นกะเปลี่ยนสี(พี่เอย)  มีแนวกินหย่ำบ่ได้... มันเหลือใจได้แต่เบิ่ง(อุกเด้)

     อยู่ไปเหิ่งย้านแต่เฒ่า.. ตัวเฮานี่สิหย่อนยาน   ย้านแต่ได้เผ้าบ้าน... มีหลานเหลนคอยแอ่ว

     ฮ่่่่่าฮ่าๆแนวว่าคนย้าน ฒ.... เฮานี่แม่นคิดหลาย   ถึงยามเฒ่าเนื้อเหี่ยวหนังยาน...หูตามัวส่้องไปบ่ใสแจ้ง

     แฮงกะถอยลงล้า...โอ้ยเว่ามาบ่อยากคิด   มันโหลดผิดใจข่อย...สาวน้อยพุอ่อนหวาน

                   พี่น้องเอย.. บ่าวจารย์เอ้ย🤣🤣🤣🤣

                  สวัสดียามบ่่ายค่ะมารายตัว

                 ว่างจัดค่ะมื้อนี่มานั่งเหงานอนยุ รพพิ

                              เมื่อลมพัดหวน ณ สวนแตง

 

                                     26 สิงหาคม 2564

 

       อ้ายเอย

        มาชิตนเจ้าฮ้าย... พายน้ำตาเป็นบ่าป่วง    คนเคยฮักใจเคยหวง.. หลุดมือแล้วถิ่มฮอยแป้ว...

       ไห้ห่วงหา.. หวานเด้น้อคำว่าฮักท่อฟ้า   กะอย่าเอามาเปรียบ... อย่าเอามาเทียบควมฮักเฮา

      เว่าต่อกันในวันนั่น... อ้ายเอย    ชายพุองค์อินทร์แกล้ง... ปั้นแต่งหั้ยนางหลง

      ไห้น้องฮักจนงง... พะวงนำแต่คำอ้าย   หวานเอาฮ้าย... ยามพี่ชายอ้อนออดว่า

      แพงเจ้าปานหน่วยตา... ฮักเจ้าปานหน่วยแก้วฟังแล้วซุ่มฮอดใจ

      หนุนตักนอนอ้อนคำเว่า... ภาพเก่าๆยังติดตา   บายแก้มขวาหยิกแก้มซ้าย... ป่วนใจจนคิงฮ้อน

      ฮอดยามนอนว่าฝันดีเด้อหล่า.. ข้อความมาไห้เนื้ออุ่น เจ้าพุแก้มจุ้นพุู่นของบักอ้าย.. อย่าฝันพ้อต่อพุได๋

      คำที่อ้ายว่าไว่... เลยลืมง่ายใจเป็นสอง.( เหลือใจเด้)  น้องโหลดอยากกู่ก้อง... อยากหลงฮ้องว่าห่าคน

                                        อ้ายเอยแฟนเก่าเอ้ย

                                   เมื่อลมพัดหวน ณ สวนแตง

 

                                         26 สิงหาคม 2564

 

                 ..วาเด้คนแพงเอ้ย..ใจอินางยังเต็มร้อย..บ่ยอมถอยให้เดินกลาย

          ..แนวฮักหลายกะฮู้ตั้ว..ไผสิตัวะมว่นๆล้อ..พอบ่เป็นดอกทางหล่า

          ..คันว่านางสิเอา..เจ้าสำคัญกับข่อยหลาย..ตายเป็นตายบ่อายบ้าน

          ..ฮักบ่หวานนางพอฮู้..กะสิสู้ยู้บ่ถอย..เจ้าบ่ซอยบ่เป็นหยัง

          ..เพียงอย่าซังแววตาซึ้ง..หนึ่งชีวิตอยากชิดใกล้..หนึ่งดวงใจอยากเหินห่าง

          ..มันกะต่างหว่างน้องอ้าย..อย่างขี่ร้ายได้.ฮักเธอ..ล่ะหวา

             #ทักทายยามแลงจ้า  #สำบายดีมีความสุขจ้า

                         ชมพู่ สุภัสสร

                     24 สิงหาคม 2564

 

 

 

..วาเด้อ้ายเอ้ย..นางเป็นสาวบ้านๆ..กลางไพรภะมัยดอน..ตั้งแต่เป็นสาวมา

..บ่าวบ่มาคุยเว้า..จั่งว่ามาเห็นอ้าย..ในหัวใจอยากลองกล่าว..หรืออ้ายบ่าวติหม่องซ้น

..ว่านางเชื้อป่าไพร.ติน้อ

..อ้ายเอ้ย..คันว่าอ้ายเปล่าเนื้อ..กายเดียวบ่มีไผ..ใจบ่มีแนวแขวน

..ให้หว่งแนนผู้ทางบ้าน..การไฮ่นาสวนบ้าน..เฮือนฮังสิให้ฮว่ม

..สร้างป่าเขาให้เป็นบ้าน..สาวป่านางจั่งอิน้อง..สิครองซ้นเป็นมิ่งเมีย..พี่เอ้ย

#ทักทายก่อนเข้านอนจ้าทุกท่าน

          ชมพู่ สุภัสสร

     24 สิงหาคม 2564

 

 

 

          ผุ้ฟังเอ้ย..บ่ว่าสุขหรือเศร้า..เอาผญามาจาต่อ    ฝากไปถึงคุณพ่อ....ฝากไปถึงคุณแม่

       มิตรสหายอ้ายและน้อง..ผุ้แลจ้องถ่าอ่านกลอน    ถึงเลือดคนละก้อน..คนล่ะบ่อนกำเนิดกาย

        คนล่ะสายอุทร...บ่อนเนาว์นอนอยู่คนก้ำ    แต่สายคำนำมาพ้อ...บุญเฮานอได้มาฮ่วม

       จั่งได้มาอยู่ร่วม..ในกลุ่มก้อนดอกบ่อนเดียว    ถือว่าสายแนนเกี้ยว..ได้ดึงจ่องมาหา

       กลอนผญาแปงทาง...ได้ย่างเฮียงเคียงเจ้า    บุญของเฮาให้ยาวมั่น..ผูกสัมพันธ์อย่าถิ่มปล่อย

        ผญาฮักจากคนคอย...ส่งให้พี่และน้อง     ผุ้คอยจ้องถ่าอ่านกลอน

        ฝากผญาหล่าคำก้อน....อวยพรส่งให้สุขขี     มิตรไมตรีเจริญสุข.....ทุกข์อย่ามีมาใกล้

        ฝากหลานซายคนสุดท้อง..คือบ่าวทองเอาไว้แหน่   ขอเป็นลูกซายพ่อ..ขอเป็นลูกซายแม่

       เป็นพี่น้องฮ่วมบ้าน..นำเจ้าคู่สู่คน..เจริญเด้อๆ

                              **ทอง        คนเหงา**

 

                                  22 สิงหาคม 2564

 

ฝนเอ๋ยฝนเดือนเก้าตกบ่เชา. ปลาชิวอ้าวมันล้นหลี่ เดือนสิบลมพัดหวี่บุญเข้าสากกะผ่านแล้วชุมกอเข่ากะจ่อมาน. สาววาปีนอนอยู่บ้านเสียงลมผ่านปานคนเฮ็ด. เดือนสิบเอ็ดออกพรรษาหลวงพี่ลาสะบงแล้ว. เสียงแชวๆๆแจนแวนฮ้องเดือนสิบสองหัวลมอ่วย. เข่าดอมวยแก่ก้มคอยถ่าคนเกี่ยวกำ. เสียงพุดังตึ้มตั้มบ้านไกล้เพิ่นเอาบุญ. ฟังแต่เสียงกองยาวม่วนยินกะฐินฟ้อน. เข่านาดอนผัดตายแล้งผักกะแยงดอกสีม่วง. เข่าออกรวงทรวงรักช้ำระกำโอ้อยู่ผู้เดียว. หนาวบ่มีคู่เกี้ยวได้นอนเหี่ยวคือไฟขาง. นอนควรคางอยู่คนเดียวมันเปลี่ยวใจบ่มีชู้ นกเขาคูอยู่ปลายไม้เสียงดังไกลฮ้องหาคู่ คือหลายเด้คือสาวนางนี่ขาดยามลมต้องมันสั่นหนาว. นอนบ่มีคู่เว้ามันแปนเปล่าเดียวดาย. ขาดความหมายในชีวิตคิดมาแล้วมันกลุ้ม. นอนคุมแพรคุมผ้าในกายากะบ่อุ่นกอดแต่มอนนอนกับนุ่นกะบ่คือร่างเจ้าแนวมันเว้าต่อบ่เป็น. อากาศหนาวน้ำหมอกย้อยลมมาผ่านแห่งกาย. หนาวหลายๆๆเจ็บในทรวงผ้าห่มนวมบ่คลายได้ แนวคนหนาวหัวใจสิเอาแพรผืนผ้า. อาศัยผืนแพรวามาคุมใด้กะบ่อุ่น. ย้านหลายเด้บ่าวผญาเอย. สาววาปีย้านหัวใจหมุนหนาวบ่มีผู้ตุ้มมาคุมผ้าบัดนอน. สมพอสาวผญาเพิ่นนั้นเอาคู่ช้อนพอได้อุ่นบัดยามหนาว. บัดฮ่าสาววาปีแม่นผู้ได๋สิมาตุ้ม. มรสุมกะพวมเข้าฤดูหนาวพวมมาฮอด. ได้ยินจอดแจดฮ้องนกเขาจับง่าไม้มันฮ้องเป็นคู่กัน. แม้แต่นกมันยังมีคู่ช้อนเคียงคู่มันยามนอน. ส่วนโตสาวเมืองวาปีสิอยู่เดียวเป็นบ้อ. เดือนพ.ศหมุนไปหน้าอีกจักหน่อยกะชราไทยบ้านเอิ้นแม่ไหญ่ บัดฮ่ายามตายไปเขาสิบักไม้งิ้วเอาไห้ไส่กะโลง. คงบ่มีวันถ่า. คงบ่มีวาสนาเกิดมาเป็นกำพร้าคู่ อยู่ผุ้เดียวมันหว้าเหว่อยากอายเด้หมู่แมลง. แฟนผญาทั้งหลายเอ้ย. มอบแด่แฟนผญาทุกคนเด้อจ้า

                 จันลา  มณเทียร

              22 สิงหาคม 2564

 

 

 

      ค่ำแลงลงปลงใจไว้...วางลงใส่ในคำกลอน     เรียงอักษรให้เป็นคำ..แล้วนำมาดอกจาต้าน

      ลูกอีสานคือทองท้าว..แม่นขาดสาวบ่ได้ว่า    ขออยู่กับกลอนผญา..ขอเว้าจากับพี่น้อง

      ผมทองท้าวกะซ่วงใจ       ฝากบ่าวทองเอาไว้..อย่าได้ไล่ลืมหลง

      อย่าได้จงใจซัง....บัดห่าฟังผญาท้าว   ยามใจเหงาบ่มีเพื่อน..แสงดาวเดือนพระจันทร์ส่อง

      อ่านผญาจากบ่าวทอง..ส่งแรงใจไปนำฟ้า    แม่นไกลหน้าแต่ห่วงใย

       แม่นบ่ได้อยู่ใกล้...ใจยังคิดคนึงหา   ฝากผญาบทกลอน...ให้คนจรผุ้ไกลบ้าน

       ลูกอีสานฮักแพงไว้..ร่วมน้ำใจให้เป็นหนึ่ง   ให้คิดฮอดคิดถึง....ส่งแรงใจบัดอ่อนล้า

        อย่าลาร้างแม่นห่างหนี..พี่น้องเอ้ย...แฟนฟังเอ้ย

                         **ทอง       คนเหงา**

                          22 สิงหาคม 2564

 

 

 

 

ลมวอยๆๆยามเดือนห้าฟังพญาอ้ายเขียนส่ง. ข้ามลำโขงไปฮอดน้องผู้ครองถ่าอยู่ฟังลาว. คิดฮอดเด้มื้อสงกรานต์ลมพัดจ้าวคิดฮอดบ่าวทางเมืองไทย. ไปเที่ยวงานอยู่ฮิมโขงเปิดป่องเทียวได้เห็นอ้าย. (เปิดสะพาน)สาวฝั่งของยังจำได้บ่าวเมืองไทยนกเขาหนุ่ม. นั่งหาดทรายหัวยุ้มๆๆ. สาวเวียงน้องจื่อบ่ลืม. สองคนเฮาต่างดีใจปามปื้มลืมแล้วไป่นกเขาเขียว. สองคนเฮาเกี่ยวก้อยกันอยู่ฮิมโขงอ้ายส่งใจด้วยรอยยิ้ม. ขอสัญญาบ่ลืมถิ่มอ้ายว่าฮักสาวเวียงจันทร์น้ำโขงกั้นอ้ายบ่เกี่ยง. บ่าวนาเรียงว่าฮักน้องอยากเอากล้องส่องเบิ่งใจ. อ้ายทองเอ๋ยคั้นแม่นบ้านอยู่ไกล้ลูกย่าอยากไปยามเบิ่งเด้ เห็นสาวงามทางเมืองไทยอ้ายอย่าลืมสาวเวียงน้อง. สาวฝั่งของบ่เคยมีใจเลี้ยวฮักแต่เจ้าคนเดียวทางอ้ายอย่าเป็นอื่น. บ่ว่าค่ำหรือคืนสาวเวียงจันทร์คิดฮอดอ้ายพออยากย้ายมาอยู่ไทย. อ้ายนกเขาเขียวเอ๋ยอ้ายกะคงสิจื่อได้คราวแก้มกายตาเว็นเอียง. นั่งเคืองกันอยู่สองคนอ้ายผ้องวนอยากหอมแก้ม. น้องนั่งแนบตาอ้ายนั่งเว้าอยู่หาดจนว่าแสงแดดส่อง. จือได้บ่คำที่อ้ายบอกน้องน้ำของกั้นบ่แบ่งใจ. อ้ายทองเอ๋ย. หรือสิหวานแต่อยู่ไกล้เห็นสาวไหม่แล้วลืมฉัน. ยามอ้ายคืนเมืองไทยย้านลืมสาวจันทร์อยู่ฝั่งของได้ครองชู้ เจ้าผู้จู้บู้หน้าสาวเวียงจันทร์บ่เคยลืมสัญญาผะอวนได้เว้าอ่อย. ปากเจ้าหวานจั่งน้ำอ้อยออยน้องอยู่ฝั่งของ. ส่วนสาวอี่น้องยังฮักพี่บ่เคยหลง. อยู่ฝั่งโขงแดนไกลยังส่งใจไปหาอ้าย. สิ่งที่หมายสัญญาหมั่นสาวเวียงจันทร์แก้มอ่อนๆๆ. อ้ายนกเขาเขียวคอนคั้นอ้ายเมื่อฮอดบ้านสัญญานั้นพี่อย่าลืม. เจ้าผู้ฝืมชาวห้าเจ้าอย่าลืมสัญญาสาบานไว้ว่าฮักห่อ. สาวเวียงจันทร์ยังฮักเดียวตั้งต่อรอนกเขาชู้อี่น้องสิหาเฒ่าแก่มา. ฮอดวันทิตย์สาวเวียงน้องกะถ่า. จันทร์อังคารบ่เห็นมาสาวเวียงน้องได้เหลียวผ่อ. พุธพหัสน้องกะรอถ่าอ้ายจนศุกร์ย้ายก่ายเสาร์ ครบเจ็ดวันแต่น้องคอยท่าเจ้านกเขาจ่อยบ่เห็นมา. คำสัญญาอยูริมโขงหรือแม่นหลงลืมจ้อย. ลมวอยๆๆพัดปลายพร้าวทางไทยเมืองลาวกะยังเปิดสะพานฮ่วม. ความเว้ากันอยู่ฝั่งน้ำทางอ้ายหรือแม่นลืม. จื่อได่บ่มื้อสงกรานต์ฟ้ามืดครึมอ้ายสิต้าวคืนเมืองไทย. ว่าฝากใจไว้กับนางพี่นี่เมือแต่เพียงร่าง. อ้ายวางหัวลงตักน้องมือทั้งสองมาโอบไล่ ว่าฮักน้องจนเหมิดใจ. เฮ็ดตาหวานสีอ้อมแอ้มขอหอมแก้มก่อนสิเมือ. เหลือแต่ความทรงจำเหลือแต่หวานอ้ายก้องในหูของน้องอยู่ บ่ได้คู่ครองเป็นคู่ควงอยู่ฝั่งน้ำ. สาวลาวน้องกะอุ่นใจ. ดอกน๊าบ่าวคนไทยเอ้ย. ขอโทษบ่าว ทอง เด้อจ้าที่ดึงมาเป็นตัวละครนำ. เพื่อความม่วนชื่นจ้าอย่าว่ากันเด๋อ

                 จันลา   มณเทียร

 

               15  สิงหาคม 2564

 

หล่านางเอ้ย

อดสาสิ่งตาน้อย...เสี่ยงตาหล๋อยมาอ่านแหน่

มูลพ่อแม่ปู่ย่าเฒ่า..เพิ่นพาเว้าแต่ก่อนมา

ทางพ่อลุงแม่ป้า.....เคยได้วาจาไข

เว้าจากใจผญาศิลป์...มาม่วนยินแต่คราวกี้

เข้าใจดียุน้องหล่า...บทผญามันของเก่า

คนเดียวนี้บ่มีเว้า..เขาตี๋ส่ำต่ำสกุล

หัวใจอ้ายว้าวุ่น....คิดฮอดอุ่นคนไค

อ้ายเข้าใจเธอดี..ว่าบ่มีใจตั้ง

่เจ้าบ่ฟังผญาอ้าย...ไปสนใจดอกแนวอื่น

บ่อาจฝืนใจเจ้า......ให้มาเว้ากล่าวผญา

แม่นสิอ้อนวอนฟ้า...บ่มีค่าแนวได๋

คนเบิดใจสิไขจา....ค่าบ่มีพอน้อย

อยากนำฮอยปู่ย่าเฒ่า...เว้าผญาดอกเพียงเทือ

ย้อนฮักเจ้าเอาเหลือ....อยากเว้าจาผญาเกี้ยว

นำเจ้าแม่นผุ้งาม.......คำแพงเอ้ย..คนงามเอ้ย

      **ทอง      คนเหงา**

         15  สิงหาคม 2564

ออนซอนเด้คำเว้า ผญาเฮามูลปู่-ย่า รักษาไว้เด้อลูกหล่า ของสูงค่าแห่งอีสาน ให้ลูกหลาน สืบซูไว้ วัฒนธรรมไทย ของเค้าแต่เก่าก่อน ซ่อยกันซอนสืบสร้าง อย่าวางถิ่มป่อยป๋ะ เด้อคำเอ้ย..

           จันทร์จิตร ดุลนีย์

 

         15  สิงหาคม 2564

สายลมพัดมาริ่วๆๆใบตองปลิวเปี้ยงแล้วปิ่น. ลมพัดดินพัดพร้าวใจกะโอ้อ่าวนำ. ลมรักตำหัวใจจ้าวหนุ่มลำปาวจนหลงถิ่น. กาฬสินกว้างต่อกว้างมายืนง่วงอยู่เลาะบึง. ความคิดถึงคิดฮอดตาบอดส่องบ่ทาง. หลงตำนางสุดทางดำความรักตำหัวใจอ้าย. จนตาลายหลงทางบ้านมืดพอปานปิดตาย่าง. ฮอดปากทางสิเขาบ้าน. จ้่งเห็นป้ายเลาะศาลา. ศาลาแดงอยู่ข้างเพิ่นเขียนว่าบ้านหนองหลุบ. ขึ้นอำเภอเมืองเกินป้ายเพิ่นเขียนไว้ทางทางไต้ ลมอันได๋พัดหน่อหลงทางงอเข้าเพิ่น หัวใจเวินเลาะเหลียวได้เขียวแดดข้ามท่งนา สะเลเตเอ๋ยเทิงผ่องหารเทิงผ่องกล้าย่างข้ามป่าต้นยางชุม. ใจตกหลุมต้องไปหาแม่นฟ้าอย่ามากั้น. ภูผาตันจักพันเลี้ยวหนทางเทียวบ่ได้ตื่น. หมื่นกิโลร้อยล้านแม่นพันลี้สิค่อยบืน. สิ่งอื่นๆๆกั้นบ่ได้ใจคิดต่อบ่เคยแคร์ ขอแต่นางในดวงไห้เยื้อใยไมตรีบ้าง. ใจตกหลุมตกส้างจนหลงทางคืนบ้านเก่า. หลงนำเงาเจ้าฮอดจนปานนั้นละพี่ชาย. คนทั้งหลายเพิ่นเมาเหล้าเมาชาเป็นบ้าป่วง. อ้ายเมารักหลายก่อเหล่าจนเป็นบ้าได้แล่นนำ. ศรรักตำดิ้นบ่ได้ใจอ้ายหล่นลงหลุบ. คุบบ่ทันใจมันเวินเสิ่นลงเมืองเกินร้อย. พอปานหอยนำคาดวาสนาบ่สมเพิ่นสาวเมืองเกินหนึ่งร้อยเหลือโตนข่อยผู้ฮักแพงแน่เด้อ. สะเรเอ๋ย. อ้ายนี่คือจั่งแฮ้งอยากบินแข่งเคียงหงห์ ใจประสงค์หมายดอมย้อนฮักหอมถนอมเลี้ยง. เจ้านั้นสูงเพียงฟ้าเบิดปัญญามืออ้ายเด่ สะเรเตคือดอกฟ้าอ้ายเป็นหญ้าป่าสนม. คั้นดอกฟ้าบ่ก้มโน้มลงใส่คงเหมิดหวัง. เบิดกำลังสุดสอยได้นั่งคอยยามร่วง. น้องคือดวงจันทร์แจ้งทอแสงใสสง่า. วาสนาต่ำเตี้ยคืออ้ายกระต่ายดอน. น้องคือพ้วงดอกช้อนกลิ่นหอมอ่อนออนชอนหลาย. อ้ายมันแนวผักหมดอกบ่งามคือนามช้อน. บ่กล้าชอนแชมเจ้าแหนมแต่เงาเฝ้าแต่หุ่น. บุญเอ๋ยขอไห้นำจ่องน้าวเอาพร้าวเข้าใส่โพธิ์ ฝากเเน่เด้อฝากแน่เด้อคั้นเจ้าบ่มีไผ. ขอฝากใจมานอนเฮียง. ขอฝากเสียงมาเฮียงไกล้ ขอฝากใจผะอวนอ้ายลอยลมมาอย่าฟ้าวไล่ ขอเป็นแฟนเจ้าบ่ได้ขอเป็นอ้ายรับแน่เด้อ. สาวผญาทั้งหลายเอ็ย. 55555เป็นแค่ตัวอย่าพญาเกี้ยวเด้อหล่า

             จันลา   มณเทียร

           15  สิงหาคม 2564

     ภาพโดย....ทอง   คนเหงา 

               ฝนตกมาพาใจเศร้า..คิดฮอดสาวผุ้ไกลห่าง     คิดฮอดนางนาทน้อง......ผุ้ไปล่องดอกอยู่ไกล

เห็นลมพัดปลายไม้...น้ำไหลผ่าเข้านาหนอง    ตาเหลียวมองได้หวลคิด..ถึงอดีตเคยมีเจ้า

เคยไปเซาดอกพักซ้น..เข้าหลับฝนเถียงนาใหญ่    ฟ้ากะฮ้องน้องย้านหลาย..อ้ายหยับไปโอบไหลน้อง

ประคองเจ้าเข้าหว่างทรวง    เหลียวเบิ่งนาท่งกว้าง..ดวงใจพี่นั่นมีสุข..คำแพงเอ้ย

ทุกข์้เคยมีในหัวใจ..กะลืมไปหมดสิ้น      ใจถวิลในคำเว้า..ที่สองเฺฮาเคยเว้าว่า

ข้าวขึ้นนาปลาขึ้นเล้า...สิขอเจ้าเข้าแต่งงาน    คนส่ากันเบิดบ้าน...ถึงงานแต่งเฮาสอง

ิ้อ้ายกะคองแพงฮัก..บ่มักไผ๋คือเจ้า     ฮักของเฮาบ่คือกี้...ตอนคนดีหนีไกลถิ่น

หนีจากดินเมืองบ้าน..อีสานเค้าถิ่นเดิม     ว่าสิหาเงินเพิ่ม..มาเติมต่อให้เหมาะสม

ฮักเลยขมบัดนางไป..ห่างไกลกับอ้าย    เบิดความหมายใจหมองเศร้า..ฮักของเฮาเจ้าถิ่มป่อย

นั้งรอคอยคือคนบ้า....คิดเห็นหน้าหม่องพะนาง   ฮักเฮากลายเป็นฮ้าง...นางบ่ย่างทางดิน

ไปโบยบินยุเมืองหลวง..บ่ห่วงใยแฟนเค้า    จบสำเนาความช้ำ..ฝากถึงคนใจดำ

ผุ้เคยเว้าว่าฮักห่วง    บัดได๋แท้แม่นฮักลวง...ใจหนึ่งดวงคืนให้เจ้า

ส่วนคนเศร้าหากแม่นชาย คนงามเอ้ยๆ

                                **ทอง        คนเหงา**

                                    15  สิงหาคม 2564

ตาลิโตนเนาะลูกหล่า มาซ่างว่าแท้น้อคำ นางพุคนใจดำ กะซ่างทำลงได้ บ่เห็นใจจักดี้ หนีไปมีคนใหม่ บ่คือคำเว้าไว้ แต่คาวกี้ เก่าหลัง ปล่อยเขาไปซะหล่า สู้อดสาห์ ตั้งหลักใหม่ บุญเฮามี ยังสิได้ พุมาให้ ได้เบิ่งกันลูกเอ้ย

จันทร์จิตร ดุลนีย์

15 สิงหาคม 2564

ภาพโดย...ทอง   คนเหงา 

 

           ผุ้ฟังเอ้ย..มีหลายคนจาเว้า..หยิบเรื่องเก่ามาแทงใจ     อดีตไผ๋กะเคยมี......เทิงดีและเลวร้าย

           บ่มีไผ๋สิไปแก้........แผลอดีตที่เลยผ่าน               ปัจจุบันระลึกไว้.....ในเรื่องที่ผ่านมา

           สิ่งที่เคยซั่วซ้า....ที่คิดว่าบ่สมควร          กะรบกวนหัวใจ...ลืมมันไปให้เร็วฝ่าว

           อย่าสิเอามาเก็บไว้..รบกวนใจให้ล่าอ่อน          สิสะออนอีหยังแท้...แค่เรื่องที่ผ่านมา

          แต่คันใจอ่อนล้า...แล้วหากว่าเจ้าคิดเห็น      เรื่องที่เป็นความสุข...บ่ทุกข์ใจเพียงน้อย

          นั้งใจลอยพลอยซื่นห่าว..กะเก็บเอาเด้อน้องพี่      อดีตเก่าเฮาเคยมี...ที่มันสุขเลิศล้ำ  

                                                   กะจำไว้ดอกใส่ใจ   ผุ้ฟังเอ้ย

     ..เตือนเจ้าของเด้อน้องอ้าย...จำใส่ใจเอาไว้ว่า    สิ่งที่มันมีค่า.และสำคัญหลายล้น.คือตอนนี้ที่ย่างเดิน

     ปัจจุบันที่เขาเอิ้น....นั้นควรคิดในจิตใจ    อย่าอาลัยความหลัง..อย่าไปหวังมื้อใหม่พุ้น    ผุ้ฟังเอ้ย

     ใจของเฮาสิว้าวุ้น..หากมัวแต่ไปจำจด      อนาคตมองบ่เห็น..ว่าสิเป็นจั่งได๋แท้

     ขอให้แคร์ในตอนนี้..ปัจจุบันมี.ให้ก้าวย่าง      ผมบ่าวทอง.สิขออยู่เคียงข้าง..เป็นแรงใจให้หมู่เจ้า

       จนเท่าชั่วชีวี...คนฟังเอ้ย..แฟนฟังเอ้ย

                                                                                       **ทอง        คนเหงา**

                                                                                           15 สิงหาคม 2564

ภาพโดย...ทอง  คนเหงา 

              ว่าง นั่งเล่น อยู่กระท่อม รัง สาริกา ( คึดซือ)

    คันสิไปจาเว่า   ย่าน คนของเขานั่นเว่าใส่           ตัดสินใจสิบ่ต้าน    บ่วานเอิ้นอ้ายอ่วยคืน

สิขอบืนยืนต่อสู้    สิขออยู่ดอกเดียวดาย     สิบ่บายมือชาย    มาอยู่เฮือน เฮียงซ้อน

สิขอนอนในห้อง   ยามหม่นหมองให่เพลงกล่อม     สิขอยอมพ่ายแพ้   สุดแท้แล้วแต่กรรม

สิขอทำงานสร่าง   ถากถางทางตามพ่อสั่ง        สิเซาหวังอีกแล้ว    ให่เหลือแป้ว อยู่แต่ใจ

ไผที่เคยฟังน้อง   เคยมาส่อง มาแลดู          อยากเป็นหมู่  อยากคุยนำ  บ่เป็นหยังขอบคุณจ้า

โตนางหล่า มีตั้งแต่ คำจา   พาให่ดอกหม่วนซืน    จั่งได่ยืนกล่าวต้าน   นานหลายมื่อดอกผ่านมา

สวัสดียามงายแก่ๆ มื่อนี่ทางเมือง ศรี ฝนตกแล้ว    อากาศยามเซ่า สดซืน สบายกั่วซูมื่อ เป็นจั่งได๋น้อ

ทางบ้านพีน้อง ฝนตกบ่น้อจ้า  สำบายดีมีสุข เด้อจ้า

ส.สำลี  พิมเทพ

 

14 สิงหาคม 2564

 

                       พี่น้องเอย

                              โลกหมุนเวียนเปลี่ยนย้าย.         กลายล่วงเข้ามายาม

                  ยามมื้อแลงค่ำค่อย                    สายลมวอยหมากยางหล่น.

                   น้ำหมอกลงทั่วพื้นละอองชื้นทั่วดิน.       ปันหาใจยังบ่สิ้นหันปิ่นยุคือหลา.

                   แบกปันหาหัวใจคาคอ                 ฮ่งฮอยแต่แนวกลุ้ม

                   เห็นน้ำยางมันใหลย้อย.               คือน้ำตาคนคอยรินย้อยบ่มีต่าง.

                   คนเบิดหวังนั่งซอมทาง.                ถืกอ้ายวางปล่อยไว่.

                   นางนอนไห่ยุป่ายาง.                     ถิ่มสัณญาฮักฮ้าง.

                   อ้ายโหลดห่างหนีใกล.                    เหลือแต่รอยอาลัย

                   ไปอยู่ใสเด้แฟนน้อง.                      เม่อมองทางคอยคองถ่า.

                   น้ำตานางมันรินหลั่ง.                      เบิดความหวังอ่าวโอ้

                   โตอ้ายบ่อ่วยคืน.                            ฝีนกีดยางทนเศร้าเว่ากับเงายามล่าหล่อย

                    สาวลมหวนผุน้อยสิคอยถ่ายุป่ายาง.   อ้ายเอยแฟนนางเอย.

         สวัสดีตอนบ่ายค่ะเพื่อนๆมื้อนี่เศร้าอักแล้วค่ะ

                                       เมื่อลมพัดหวน ณ สวนแตง

 

                                             4 สิงหาคม 2564

 

 

วาสิบ่จ่ม  อดบ่ได่

                        อ้ายเอย....ไผเด้นอ..ไผสิมาซ่อยยู้...  พอเป็นหมู่ยามนางเหงา...พอบรรเทายามคิด

     เป็นมิตรกัน ผัดยามแย่...งอยคันแทยามนางล้า       คอยเว่าจาดอกต้านต่อ...พอได่คอยปากเว่า

     ยามนางเศร่าเอ้าอั่งใจ...     ไผสิมาคอยเว่า...คอยจายามซ้นฮ่ม.

     วอนลมไปบอกอ้าย...ให่โงโค้งอ่วยคืน     ทุกวันคืนยังคอยเจ้า...เฝ่าแต่ส่องมองทาง

      ปล่อยละวางบ่ลง...เพราะยังคงคิดถึงอ้าย      บ่อยากอายคนจ้อง....บ่อยากอายคนมอง

       แนววาน้องคิดฮอดพี...คิดฮอดหลายอีหลี     บ่ได่ติแต่งเว่า...คิดฮอดเจ้าบ่เล่าลืม..ซั่นดอกจ้า

       สวัสดียามเซ่า วาสิบ่จ่มเรื่องนี่ กะอดบ่ได่ อย่ารำคาญ     นางเด้อ..คันบ่ได่จ่ม บ่ได่ระบาย..กะย่านป่วง...

        กะเลยมาจ่มให่ฟัง.. คึดฮอดคือเก่า..สำบายดีมีสุขจ้า

                                                 ส.สำลี  พิมเทพ

                                                29 กรกฎาคม 2564

         ก่อนสิออกไปนา    คึดออกเรื่องเดียว

      อ้ายเอย...คำวาฮักน้องนั่น...อยากเติมฝันบ่น้อพี           เพียงราตรีที่ผ่านพ้น...มีคนอ้อนอ้ายกะลืม

      คำวาฮักน้องหลงปลื้ม...กายเป็นตื่มทำใจเจ็บ      ให่น้องนี่นำเก็บ.เศษคำฮัก..วาสิพักเซาเก็บเมี้ยน

      เวียนไปหาหลายครั้ง...น้ำตาพังไหลหย่าว        ย้อนไปเห็นสาวต่างบ้าน...เดินเคียงข่างบ่าวพีชาย

       น้ำตาไหลหลายครั้ง...ได่จอบนั่งมองดู     เขาจู๋จี๋บ่เห็นเฮา..เเนมเห็นเขามีสุขล้น

       น้ำตาปนเสียงสะอื้น..ฝืนทนดูบ่ฮู่หย่าง      บ่เห็นทางมืดอื้อคื่อ...คือจั่งไม้แหย่ใส่ตา...พีเอ้ย

     สวัสดียามเซ่า..มื่อได๋กะวาสิเซาคึด..กะจักเป็นหยัง    จั่งเซาบ่ได่  ยามว่างกะคึดคือเก่า..สำบายดีมีสุขจ้า

                                                                     ส.สำลี  พิมเทพ

                                                                   29 กรกฎาคม 2564

 

               หลังจากกินข้าวเที่ยงแล้ว          นั่งอยู่เถียง(ถาม..อ้าย..ก่อน)

      อ้ายเอ้ย..นางอยากถามข่าวอ้าย..ยามเฮาห่างไกลกัน     ุถาม.ว่าความสัมพันธุ์.....ยามห่างกันกับน้อง

      ถาม.ว่าอ้ายยังหมั่น.....ยังฮักกันคือเก่าบ่       ถาม.ว่าอ้ายไปพ้อ....สาวอื่นบ้อจั่งบ่คืน

      อ้าย.จั่งบืนไปหน่า....บ่หันมาคุยกันก่อน       อ้าย.จั่งมีใหม่ซ้อน....วอนๆเอิ้นบ่ต่าวมา

       อ้าย.จั่งบ่จาเว่า....ให่เศร่าอยู่เดียวดาย        อ้าย.จั่งหน่ายลืมกัน...ลืมสัมพัธุ์ของเฮา

       ปล่อยให่มันเพม่าง...       ก่อน.สิวางป๋าน้อง....คือบ่ป่องทางวาจา

        ก่อน..สิวางไกลหนี...คือบ่มีคำต้าน      ก่อน.เคยวานๆเว่า...ฮักคือเก่าคือเดิม

        ก่อน..เคยเติมแรงใจ....ให่แก่กันทุกวันมื่อ      คือสังเป็นแนวนี่...ส.สำลี.ถาม.อ้าย.ก่อน

         วอนพีชายให่บอกน้อง...ให่หายข่อง ให่ป่องใจ...

         สวัสดียามบ่าย มาทักทายพีน้องก่อนสิไปหาส่ามข้าว    กับผญาจ่ม..ถาม.อ้าย.ก่อน..คึดฮอดคือเก่า..แม่นสิมา    นากะยังแวะ มาจ่มอยู่..สำบายดีมีเเฮงเด้อจ้า

                                                        ส.สำลี  พิมเทพ

                                                      29 กรกฎาคม 2564

 

           หลังจากกินเข่าแลงแล้ว ย่านลืม

                       เหมิดแล้วบ้อความฮักอ้าย...กำลังหมายดอกซอมอยู่ 

         วาสิมาเป็นคู่...วาสิมาส่อยยู้...ซูซ้วนดอกส่อยนาง..

          ยามอยู่นายามว่าง...เรื่องต่างๆคอยเวียนวน

          นี่หล่ะนอๆคน...สังบ่จำคำเคยเว่า

          มื่อได๋เหงากะมาเว่า....เห็นวาเฮานั่นเว่างาย

          บ่อยากอายคำจาต้าน...นานหลายมื่อดอกวามา

          คำเคยจาวาฮักน้อง....ลองคึดเบิ่งเด้อคนดี

          คำวาฮักอีหลี....ที่พีเคยจาต้าน

         คำหวานๆวาฮักน้อง...ให่อ้ายลองทบทวนเบิ่ง

         บ่ทันเหิง อ้ายลืมจ้อย...ให่คอยถ่า อ้ายบ่มา

         ก่อนสิลาจากน้อง...ให่ฮ้องสั่งแหน่เด้อชาย

         บ่ต้องอายคนมอง...ฮ้องดังๆ วาซังน้อง..ซั่นดอกว้า

              สวัสดีก่อนนอนจ้า. วาสิบ่มาจ่มดอกพีน้อง  เเต่กะย่าน

         ลืม กะเลยมาจ่มให่ฟังก่อนนอน...อย่าฟ้าวป๋ากันถิ่ม

เด้อจ้า...คึดฮอดคือเก่า นอนหลับฝันดีเด้อจ้า

                                               ส.สำลี  พิมเทพ

                                             29 กรกฎาคม 2564

 

            ฝนตก สองมื่อแล้ว       นั่งอยู่บ้าน ว่างๆ แก้ง่วง

         ฝนตกรินฮำย้อย...คึดฮอดฮอยอดีตเก่า..         คึดไปมาแล้วกะเว่า...พรึมพรำเศร่าอยู่ผู่ดียว

  มีแต่คนมาเกี้ยว...มาเทียวเว่าออยอ่อน        มาเทียวเว่ามาเทียวอ้อน...ออนซอนน้องวาอยู่ดาย

  แสนเบื่อหน่ายคำอ้อน...วาออนซอนอีนางอุ่น    เรื่องวุ่นๆบ่อยากหยุ่ง...นอลุงป้า หรือวาได๋

   แนววาใจมีแป้ว...แนวเคยเห็นประสปอยู่     ผู่บ่เคยกะอย่าพ้อ...ขอวางไว่ เเม่นละวาง...ซั่นดอกจ้า

           สวัสดียามสาย ของวันอาทิตย์ ฝนตกเหมิดมื่อ เหมิดคืน..ออกไปไสกะบ่ได่ วนไป วนมา กะมาจ่มให่

พีน้องฟังคือเก่า  เเนวว่างๆ คึดฮอดคือเก่า  สำบายดีมีความสุขทุกๆคนเด้อจ้า.

                                                   ส.สำลี  พิมเทพ

                                                 29 กรกฎาคม 2564

 

 

 

 

หล่านางเอ้ย..

                      บทผญาของบักอ้าย..เบิดความหมายแล้วแม่นบ่

                      ห่วงกะดักฮักกะด้อ..รอเจ้าส่งข่าวมา

                      ทุกอักษรฮู้บ่หล่า..ทุกคำจาที่เขียนส่ง

                      อ้ายบรรจงมอบให้..จากใจนี้ที่ฮักนาง

                      มาบัดนี้.เหลือแต่ความอ้างว้าง..นางบ่อ่านบทผญา

                      คำเคยจาว่าม่วนหลาย..บรรยายกลอนออนซอนล้น

                       มาหลูโตนเจ้าของเด๋..อึกพังเพน้ำตาหลั่ง

                      เว้าอีหยังกะมิดจ้อย..ผญาสร้อยเจ้าเล่าลืม

                      เหลียวเห็นฟ้ามืดครึ้ม..มันแฮ่งตื่มทางความเหงา

                      อีสานเฮาเจ้าว่าเชย..พี่กะเลยอยากอายเว้า

                      ม่วนบ่เซาแต่คราวกี้..จำได้ดีสำเนียงถิ่น

                      ได้ยินเสียงลำร้อง..ดังก้องทั่วอีสาน

                       สารภัญว่านั้น...ฟังแล้วม่วนชวนหลงใหล

                       เบิดความหมายในใจสาว..บ่าวบ้านนาน้ำตาย้อย

                       นั้งใจลอยดอกซึมเซ้อ..หวังว่าเธอสิคืนถิ่น

                       ดินอีสานหมองเศร้า..อยากอายเว้าสิอ่วยลง

                       อ้ายขอปลงใจไว้...คันสิตายบ่ลืมถิ่น

                      ดินอีสานท่อนั้น..สิกลบหน้าบ่าวพี่ชาย

                       ซู้พี่เอ้ย..คนงามเอ้ย

                                           **ทอง      คนเหงา**

                                            29 กรกฎาคม 2564

ม่วนเด้ผญาอ้าย บ่าวพี่ชายเขียนไห่อ่าน

อ่านเสร็จแล้วสงสาร อ่านเบิ่งแล้วคิดพ้อนางน้องซูเก่าแฟนหลัง..พุ่นแล้ว ตั้งแต่นางหนีไกลเปลี่ยนใหม่ชายมานอนซ่อน เฮ็ดไห่นอนฝันพ้อยูสูคืนไห่ไหวหวัน คิดเห็นสาวผู้นั้นแฮงกลุ้มปวงบอเซา...สั่นดอกย้าอ้ายเอ่ย#สวัดดียามค่ำๆครับอ้ายซ้าย ม่วนครับวม่วนผญาเขียนมา

                                               ถวิล   แฮดสีทา

                                          29 กรกฎาคม 2564

 

             อ้ายเอ๋ย.หากบ่ติว่าน่อง          ยุหัวไฮ่ปลายนา

           หากินหอยปูปลา        อยู่ดอนนอนแล้ง

           หากินกลอยแทนเข่า    หาขุดมันตามป่า

           ตามผะสาคนยากไฮ้       หาเซ้าขาดแลง.เด้น้อ

                              กรองแก้ว  บุญญา

                            29 กรกฎาคม 2564

 

 

 

 

                                           สุขที่เฮาฮ่วมสร้าง         สะพานทางฮ่วมใต่

                                  พอหลบภัยแดดฮ้อน   ฝนย้อยฮั่วบ่เถิง

                                   กลางคืนมีอี่เกิัง               กั้งห่มให้ลมเย็น

                                   กลางเว็นมีใบบัง           ผ่อนแสกลางเว็น

                                   ยามนอนลมเย็นเยี่ยม      มีเฮียมนางข้างคู่

                                   บ่ต้องหรูดอกบ้าน         พอไว้ได้พักเซา

                                   นกเขาคูขันแต่เซ้า           กะฟ่าวตื่นหุงหา

                                   สาริกางอยคอน           ส่งเสียงจอจั้น

                                   เดือนหกผันมาผ่าย          เตรียมคราดไถไว้ถ้าหว่าน

                                   ฟ้าประทานฝนเม็ดย้อย  พอมีน้ำแซ่นา

                                   ปีนี้ฝนสั่งฟ้า                      ปลากะสั่งลาหนอง

                                   ขาวนาคองคอยฝน      สิหล่นลงฮำข้าว

                                   ถืกแดดเผาจนไหม้           ถ้ามื่อใด๋กะแล้วมั่ง

                                    ชาวนาอ้าปากค้าง        หลูโตนข้าวเหี่ยวตาย

                                                  เฒ่า ซื่อ ซื่อ

 

                                              19 กรกฎาคม 2564

 

 

*ฮีตสิบสอง*

                          ถึงเดือนอ้าย ทำบุญข้าวก่ำ            ฟังหมอลำแอ่วฟ้อน หมอแคน ย้อนม่วนดี

    ตกเดือนยี่ บุญข้าว คูณลาน                       นี่กะงานสำคัญ ซ่อยกันเมิดบ้าน

    เดือนสามนั่น งานบุญข้าวจี่                          ฮอดเดือนสี่ แห่ผเวส ฟังเทศ แม่มัทฑรี

    ยามเดือนห้า พากันม่วน สงกรานต์                ทั้งญาคู ญาซา กะม่วนยิน ญอย้อง

    เสียงฟ้าฮ้อง เดือนหก ออกใหม่                    แห่บั้งไฟ ขึ้นฮ้าน วอนไหว้ พ่อไหญ่แถน

   เดือนเจ็ดแจ้ง บอกต่อ ญอนา                        บุญซำฮะ แฮกคอง ไถคาด

    ออกจากฮั่น เดือนแปด สังฆา                      เข้าพรรษา งานบุญ พุทธัง สังฆเจ้า

    มาเดือนเก้า ประเพณี บ่ให้บิ่น                      ข้าวประดับดิน  สืบไว้ บุญเอื้อ หุ่งเฮือง

    บุญต่อเนื่อง เดือนสิบ ข้าวสาก                     ฝากห่อไว้ เคียมฮั่วไฮ่สวน

    ชวนเอาด้าน วิญญาน ผู้ล่วงลับ                    ให้มาฮับ ห่อข้าว ลูกหลานเจ้า แต่งภาช์

    ตั้งท่าจ่อ ออกแห่กัณหลอน                          ตอน เดือนสิบเอ็ด เฮ็ดบุญคูณไว้

    ไทเปิงบ้าน โฮมกันบุญใหญ่                         ออกพรรษา หม่อใกล้ บุญบ้าน ห่อขนม

    ห่อข้าวต้ม ตามฮีตประเพณี                         ทำควมดี ส่งเสริม พระธรรมไว้

    เลยไปฮอด เดือนสิบสอง ท้องถิ่น                 บุญกฐิน สืบสร้าง อารามกว้าง ให้ฮุ่งเฮือง

     จบครบสิ้น จารีต ประเพณี                          แนวได๋ดี ให้ซ่อยซูเอาไว้

      สรรคำสร้าง จากพญาแม่งหมี่                    เป็นผญา  จารึกไว้  พอให้ ส่องเห็น....ท่านเอ้ย

---คำสารภาพจากผู้เขียน---*ไผอ่านจบแนครับ ยาวคัก 12เดือนพุ่นเนาะ

*ขอควมเอ็นดูจากผู้รุ้ผญา ชี้แนะเอาเด้อครับ  คำได๋ลูกหลานบ่ป่อง ติชมได้ครับ

เจตนาเพียงอยากเป็นส่วนหนึ่ง ในการจารึก วัฒนธรรมประเพณี ไว้ในรูปแบบผญา

บ่มีเจตนาอื่น ขออภัยครูบา อาจารย์ไว้ ณ.ที่นี้ครับ

                                                     #พญาแมงหมี่

                                                         9/ก.ค./64

                                                                    19  กรกฎาคม  2564

 

 

...อ้ายเอ้ย..

น้องบ่เคยแปรปลิ้น      เปลี่ยนแปลงเป็นลายต่าง

ย้อนว่าใจประสงค์สร้าง    จั่งครวญเว้ากล่าวผญา

      ชายลืมนาแล้วบ้ออ้าย       ลืมป่นปลาเข็งเถิ่งแกงอ่อม

ก้อยกะปอมหมากมว่วน้อย     ทางเจ้าข่อยได้อยุ่กิน

ยอดกระถินอยุ่ข้างฮั้ว       กินกับป่นปลานัวเจ้ายังว่

ฮอดยามไฮ่ยามนา       ฝนตกมาน้ำโห่ง

ท่งนาน้อยจั่งสมุทร     เห็ดเผาะผุดพี้ลี้

้เหลียวทางพุ้นทางพี้     จูมจีกระเจียวป่ง

แนมปลายท่งใต้กกหว้า     เห็ดเผิงน้อยออกอยุ่เต็ม

สิแกงเค็มแกงเปรี้ยว       ส่วนกระเจียวลวกจิ้มป่น

ผักกระโดนหมุ่นั้นเข้ากันแท้..แม่นมักหลาย

ผักติ้วนำเก็บมาไว้    ุถ่าใส่แกงเห็ดเผาะออ่น

เถิ่งเห็ดขอนเห็ดปลวก    จักลวกกินเถิ่งสิป่น

อ้ายไปโดนอว่ยบ่ได้       หรือมีไผดึงอ้ายอยุ่

ลองเว้าดูให้บอกน้อง      คนคล้องใจอ้ายบ่ให้มา..ซั่นบ่น้ออ้ายเอ้ย

#ทักทายยามบ่ายอีกรอบจ้าชว่งนี้โรคภัยมันร้ายแรงเบิ่งแงงเจ้าของเด้อจ้า

                    ชมพู่  สุภัสสร

 

                13 กรกฎาคม 2564

 

 

..พี่น้องเอ้ย

..เป็นนักเขียนหากบ่เพียรทางแต้ม

..แนมเบิ่งบ่งามตา

..เก่งผญาหากบ่นำมาขาน

..บ่มวนพานให้ยินย้อง

..ฮีตบ่คองนำมาใช้

..กะไลหายบ่หมายเล่า

..ผญาเฮามันสิเพดอกหมุ่นม้าง

..ทางเว้าบ่เหล่ากัน

..โอน้อ

..เขียนเป็นกลอนวาทเว้า

..มานำเล่าคำขาน

..เอาผลงานทางศิลป์

..มว่นยิลมานำแจ้ง

..คำบ่แฝงเอามาแงงนำใช้

..ภาษาใจให้วาทคล่อง

..เอาทำนองดอกบ้านๆ

..ความสำราญดอกเค้าๆ

..มาเนาว์ต้านให้มว่นใจ

..ชายเอ้ย

..นางกะหมายใจตั้ง

..ทางมว่นมานำขาน

..หากบ่พานทางใจ

..บ่มว่นตาอภัยบ้าง

..หมายแต่ทางนำอ้อน

..อย่าตัดรอนสออนแน่

..เพียงชายแล..ขอเพียงแคร์ใจต้อน

..ออนซอนหล่าบาดกล่าวจา

..อย่าสิว่าโตน้อง

..หมายเกี่ยวแต่ชายหลาย

..เพียงแต่นางหมายจา

..กล่าวผญามานำต้อน

..บ่ออนซอนอภัยหล่า

..คำผญาบ่พามว่น

..คำบ่นวลบ่ฮว่มใกล้

..ใจเจ้าแม่นอภัย

..อภัยหล่าพุกล่าวจา..แน่เด้อ

#ทักทายยามคาวแลงจ้าสำบายดีมีความสุขจ้า

            ชมพู่  สุภัสสร

 

        11 กรกฎาคม 2564

 

....คืนนามาสร้างแปง....

.โรคโควิดพิษมันฮ้าย..กระจายแพร่ไปหลาย

.คนสิตายย้อนหิวโซ..พองโตสุคนพร้อม

.เงินออมมาเหมิดเกลี้ยง..เหลือแต่เพียงถ่งเปล่า

.คิดขึ้นมาอุกอั่งเอ้า..เข่าสารนึ่งกะบ่มี

.หากเป็นอยุ่แบบนี้..ชีวีหมุ่นพังทลาย

.ย้านแต่ตายบ่มีเหลือ..เทือสิหวิดโควิดม้าง

.เบิ่งแนวทางรัฐหาแก้..ปานปัวแผลที่มันเน่า

.พอบรรเทาบ่ซว่งไข้..ทายาไว้ปว่ยปี

.งานการมีทำบ่ได้..โรงงานได๋กะปิดอยุ่

.มีแต่นอนคดกี่กู้..อยุ่ในห้องก่องน้ำตา

.คิดขึ้นมาใจสะท้อน..คราวก่อนเถิ่งความหลัง

.เทือที่ยังอยุ่อิสาน..ถิ่นถานครองเค้า

.ยังมีเข่าอยุ่ในเล้า..นำไหปลาแตกต่อน

.ยอดอ่อนๆผักอยุ่หว้ย..เลี้ยงควายได้ไปเก็บกิน

.พิษโควิดแทบด่าวดิ้น..อยากสิอว่ยคืนหวน

.ชวนกันกลับเฮือนชาน..ถิ่นอิสานที่เคยยั้ง

.กลับคืนฮังหาก่นไง้..เก็บเห็ดไคในป่า

.นำท่งนาขุดปูน้อย..ขัวหอยพร้อมมาอ่อมแกง

.ไข่มดแดงเถิ่งง่าไม้..เก็บเอาใบผักหวานอ่อน

.แกงลงแล้วซดฮ้อนๆ..หานอนเล่นอยุ่ท่งนา

.เถิ่งแม้เมื่อยอิดอ่อนหล้า..กะยังว่ามีความสุข

.อยุ่เมืองหลวงซ่างมาทุกข์..หน่ายแหนงสุแลงเช้า

.กลับคืนเมือวิถีเค้า..ฮีตครองเฮาครั้งพ่อแม่

.อยุ่เมืองหลวงย้านแม่นแย่..หาทางแก้ฮอดบ่ไหว

.คืนไปหาหน่อไม้..เก็บผักไซมากินนำ

.ส่อนเอาแมงระงำ..พร้อมแมงดามาเกลื้อ

.คืนไปหาซุมเชื้อ..คาวงค์บ่อนโค้งต่าว

.ถึงคราวหยุดบ่อนยั้ง..เพียงหน้าพร้อมฮว่มเฮือน..ก่อนเด้อ

#ทักทายยามเที่ยงจ้าทุกท่านมื้อนี้จ่มยาวแน่เด้อจ้าคำได๋ตกเพิ่มเติ่มเอาเด้อจ้า

            ชมพู่  สุภัสสร

 

        11 กรกฎาคม 2564

 

 

หลังจากกินเข่างายแล้ว

เตือนสติให่ฮักกันจ้า

มีหลายคนมากล้น...ทนยอมอยู่เดียวดาย.

..บ่ว่าหญิงหรือชาย...บ่สมหมายคือหวังไว่..

.ความสุขในคราวมื่อ...คือหนทางสิเป็นบาป

บอกให่ทราบเด้อหมู่เจ้า...โตเฮานั่นสิเสื่อมเสีย

เมีย.ผัวเดียวฮักหมั่น...อยู่นำกันจนเฒ่าแก่

อย่า.สะเเวเเวะเล่น...ไผเห็นแล้วแม่นบ่ดี

สองคนเฮาท่อนี่....เด้อคุณพี ฮู่จักใจ

ไผเคยเจอปัญหา...หากค่อยจาคงไปได่

อย่าได่ให่ความโมโห...เฮ็ดให่โตตกต่ำ

หากค่อยทำค่อยสร่าง...ทางไปหน่าหากสิดี

ส.สำลี.น้องหล่า...กะเคยเจอปัญหา...

จั่งได่จามาเป็นเรื่อง...เปลืองน้ำตาอยู่บ่เว้น...

เจอเห็นแล้วจั่งว่ามา...

เอาหล่ะน้อๆจ้า...หว่าไปหลายกะอายหมู่

ไผหากยังมีคู่ให่เบิ่งดู...ให่ซ่อยยู้ซูซ้วนซ่อยกัน

อย่าให่มันเป็นคือเรื่อง...คือนางว่ามาจาขาน

ฮักกันเด้อฮักนานๆ...อย่ารำคาญยามไผเว่า

ฮักกันเด้อ ฮักจนเฒ่า...จนตายป๋าไปข่างหนึ่ง

จั่งสิถึงบ่อนบั้น....เขา..เฮานั่นแม่นคู่กัน...ซั่นดอกจ้า

สวัสดีเซ่าวันอาทิตย์ อากาศสดใส  สำบายเทิงกาย

สำบายเทิงใจ  มีสุขเหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า.

            ส.สำลี  พิมเทพ

         11 กรกฎาคม 2564 

ยินคำเขาจาต้าน..มันสะท้านไปทั่วคิง
จนหลงเซ้อเผลอยืนนิ่ง..คิดในสิ่งที่เขาจา
คำเว้ามาคือบ่สน..หมู่คนจนอย่าไปเว้า
ถึงมักเขากะตามถ่อน..อย่าสะออนให้หมองหม่น
ไปมักกับคนจน...มีแต่ทุกข์ยากไฮ้
สินั้งไห้ยุหยั่งคืน
แม่นผุ้ได๋สิเว้าพื้น...กะตามส่าอย่าหนหวย
ให้เอากับคนรวย..สิส่ำบายดอกหายฮ้อน
อย่าสะออนเด้อฮักแท้...อย่าไปแคร์คนสิว่า
อันฮักแท้บ่มีค่า...มันบ่พาให้อิ่มท้อง
ได้ฟังแล้วล่ะเมื่อยใจ
แนวฮักกินบ่ได้...อยากอายเพิ่นสิไขขาน
คงขึ้นคานแน่นอน...ได้กอดหมอนดอกนอนแล้ง
ตกยามแลงได้นอนเศร้า..ชีวิตเฮาคือต้อยต่ำ
เกิดชาตินี้มีกรรม...คงทำใจในชาตินี้
คนดีหล่าอย่าทุกข์จน..คนงามเอ้ยๆ

 

**ทอง คนเหงา**

 

 

เฮ็ดเกษตรอินทรีย์ครับ

ใซ้อินทรีย์กะดีได้      ข้าวในนาพาเขียวก่อง

เฮ็ดเจ้าของบ่อต้องซื้อ     คือปุ๋ยท้องทั่วไป

ปุ๋ยงัวควายอ่วยใซ้     นํ้าหมักใส่ไปเสริม

เติมลงไปในนา         บ่อหาแพงแบงค์ซื้อ

ถือพอเพียงเลี้ยงชีพ    หยิบคำสอนบ่อนพ่อว่า

เอามาท่องลองแล้ว      แนวนี่ดีคักหลาย

ดินกลับกลายหายด้าน    บ่อนดินดานกะพานอ่วย

ให้ดินสวยอ่วยเค้า      อินทรีย์เจ้าเอาใส่ลง

อย่าได้หลงลืมสิ้น       ปุ๋ยดินดีอินทรีย์ใส่

สัตว์ในนาปูปลานํ้า      กะตามต้องท่องเทียว

ข้าวเขียวกอพอใซ้      บริโภคได้ไร้สาร

จั่งได้ขานไขเอา         เว้าแจงแถลงซี้

ปุ๋ยอินทรีย์ดีลํ้า          พระดำรัสตรัสสั่ง

ยั่งชีพพอเพียงไว้       พอได้อยู่สบาย  พี่น้องเอ้ย

เฮ็ดนาอินทรีย์มาสามปีแล้วครับ..มีความสุขกว่าเก่า

บ่อต้องหาเงินซื้อปุ๋ย..ลดรายจ่าย..ดินคืนสภาพ

ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ..ได้บริโภคข้าวปลอดสาร

ดินดานหาย..ปูปลาหลายหลาก..มากสัตว์นํ้าตามอยู่

หมู่เพลี้ยแมงมีน่อย..หอยกุ้งปูอยู่ม่วน..หวลเอาเก่าคืนเค้า..เด้อเจ้าสิสบาย...เศรษฐกิจพอเพียง....

..เกษตรอินทรีย์..เป็นโครงการจากพระราชดำริฯ

ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.ร.๙

        ทอง เสียน

 

     11 กรกฎาคม 2564

 

ตื่นเช้าถ่าคอยเฝ้าส่องทาง

อรุณเบิกฟ้าท้องถิ่นดินอีสาน ฝูงงัวควายออกหากินเล็มหญ้า ฟ้ามืดคึ้มมัวหมอกควันกุ้ม  ซุมคนเฒ่าคอนคุลงนา พากันเก็บขั่วหอยขุดปูพ้อมบางผ่องต้อมขุดเขี่ยแมงจินูน พอเว็นสายต่าวคืนเมือบ้าน จัดการคั่วแกงกินพอประทังชีพ ฮีบเฮ่งพ้อมเตรียมพ้อมเคื่องของ  จวนสิสงกรานต์แล้วเถิงยามปีใหม่  หลานเหลนลูกเต้าสิมาบ้านหย่องยาม สิได้หยังนอต้อนยามเหมื่อลูกหลานกลับ สิไปหาขุดปูมาคอยถ่าลูกหลาน  จับคานพ้อมเสียมถังออกถ่ง  เลาะเลียบโค้งคันนาแห้งไฮ่ผง  ลงงานนานั้นเดินไปงานอื่นขุดเกิ่งไหง้ขวยปูย้อยเหงื่อไหล  แนมเบิ่งได้พองายแดดแก่  แข็งแก่แด่ซากเขียดน้อยตายค้างถ่งนา  อนิจจาอีสานแห้งแลงงายอึดอยาก  ยากคอบไฮ้ลูกหลานจั่งมาได้อยู่ไกล  ไปเมืองหลวงพุ้นขายแฮงมาเลี้ยงพ่อแม่  ทุกข์ใจแท้ยามบ่ได้อยู่ฮ่วมกัน  มันหากอุกใจแท้พอเถิงยามเจ็บป่วย  หาบ่มีคนส่อยป้อนยาน้ำส่อยแฮง  ตกยามเช้ายามแลงได้คึดฮ่ำ  คึดไปมาแล้วค้อยน้ำตาย้อยหลั่งไหล พี่น้องเอย.

 

               ประสม   บุญป้อง     9 เมษายน 2564

 

ดอกคูณบานสงกรานต์บ้านเฮา

ดอกคูณบานแล้ว.....เห็นดอกคุณบานเหลืองอร่าม ถึงยามตรุษสงกรานต์แล้วพีน้องท้องถิ่นดินอีสาน สุขสำราญปีบโฮโสแซวเพื่อนฝูงโฮมเต้า โอมกินข้าวพาเดียวกันปันแบ่ง ถั่วแตวโมบักพร้าวเอาตุ้มฮ่วมกัน พรรณาเรื่องนานาพากันหม่วน สุขทุกข์สู่เรื่องเอามาเว่าแบ่งกัน นั่นคือเรื่องเก่ากี้ถือว่าประสบการณ์ นำมาสอนสู่กันให้ฟังไว้ ตกมาปีใหม่นี้อีสานหว่าสงกรานต์ เป็นสัญญาณเปลี่ยนแปลงปีเดือนไปศกใหม่ ขอให้ท่านพี่น้องผองอีสานเริ่มใหม่ เฮ็ดแต่สิ่งใดๆหว่าดีอย่าแป้ว แนวได๋บ่ดีนั้นอย่าหันหาเข้าไปใส่ หลีกให้ไกลหมื่นโยชน์แท้หนีเว้นหลีกไกล เดอพี่น้อง.

                  ประสม  บุญป้อง   9 เมษายน  2564 

 

เอาผญามาต้อน

       พ่อแม่เอ้ย.ลูกบ่มีของต้อน..นอกจากกลอนผญาถิ่น    ฝากโบยบินไปนำฟ้า..ให้ลุงป้าคู่สู่คน

    ขอให้สุขลื่นล้น..บัดยามอ่านผญาศิลป์            สู้หากินแนวได๋..ให้ซ่วงใจเบาบ้าง

   ทุกเส้นทางที่เดินก้าว..ทองคนเหงาเอาใจซ่อย       อุปสรรคใหญ่น้อย..อย่ามาใกล้ให้หม่ายหนี

   ฮู้แหน่เด้อตอนนี้..ว่ามีหนึ่งแรงใจ                        จากหลานซายคนหมอง..บ่าวทองส่งหาเจ้า

   บัดฮอดยามกินข้าว..เอาผญามาเปิดอ่าน              ถือว่าเป็นของหวาน..อ่านพอมันสดชื้น

   จั่งบืนสู้ดอกต่องาน                                           ถึงเฮาอยู่ต่างบ้าน..ได้เหินห่างกันไกล

    แต่หัวใจแพงฮัก..ส่งถึงบ่มีเว้น            หลานขอเป็นเมฆดำน้อย..ไหลล่องลอยบังแดดส่อง

    ผญาฮักจากบ่าวทอง..ฝากแฟนๆทุกแดนก้ำ         เวรกรรมต้องอย่าจ่องดึง..เจริญเด้อ.

                                              พ่อแม่เอ้ย..แฟนฟังเอ้ย

                                                                                ทอง   คนเหงา

                                                                           **ทอง     น้องใหม่เมืองขอนแก่น**

                                                                                   13  เมษายน 2564

สู้...ให้เถิงที่สุด 

 

                                          เดินทางให้สุดเส้น   อย่าถอยคืนให้เขาเหยียบ

                        ตายให้ไปตายดาบหน้าพุ้น   เขาจั่งเอิ้นว่ายอดคน

                        เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว     ให้ลักษณะนามปลวก

                        มันหมั่นขุดหมั่นอุ้ม      คูนโพนได้ใหญ่สูง

                        อย่าเป็นคนมีแต่เว้า          ติหมู่ซิงซัง

                        เขาเฮ็ดหยังทำหยัง         บ่ถืกตาพอดี้

                        เขาเฮ็ดดีหรือฮ้าย           มีตายตั่งแต่จ่ม

                        บาดผุโตเว้านั้น              บ่เห็นได้เวียกหยัง                  

                        มนุษย์ในโลกนี้           บ่ฮ่อนติตนเอง

                        มีแต่ติทางเขา            ว่าบ่ดีทั้งนั้น

                        คิดว่าตัวดีแล้ว           อย่านินทาคนอื่น

                        ชั่วดีคนเบิ่งฮู้             อย่าหาเว้าใส่กัน

                        คนเฮาทุกมื่อนี้           อวดแต่ความฮั่งมี

                        ยามเมื่อเฮาทุกข์จน         เพิ่งไผบ่มีได้

                        ฮอดบ่เหลียวเบิ่งหน้า      บ่ถามหาจักเทื่อ

                        บาดเฮามีเพรียบพร้อม    รุมล้อมแห่แหน.

                                             ##อิทธิเดช##

                                             ๑๒/เม.ย/๖๔.

                                                   ขออนุญาตเจ้าของผู้เขียนด้วยนะครับ

                                       สงกรานต์.... เมือยามบ้านอีสาน

ฟังเอาเด้อเพื่อนพ้อง..น้องหนุ่งสหายเกลอ..พากั่นเมือคืนเนา..บ่อนพักเซาแต่เก่ากี้..พากันหนีไกลบ้าน..ไกลสถานบ้านเคยอยู่...พากันมาต่อสู่..หาเงินใช้ใส่กระเป๋า..เทศกาลนานเค้า..สงกรานต์เวียนมาฮอด..พากั่นกอดก่ายก้ำ..เมือเล่นน้ำ..ให่ฉ่ำใจ..กลับเมือนบกราบไหว่..พ่อแล่ะแม่อ่าวอา..ปู่แล่ะย่าตายาย..ผู่เพิ่นบ่ายข้าวป้อน..เมือหนุนนอนตักเถ่า..เกาพุงถุงก่ะเต่ง..นมเต่งเหล่งของยายเถ่า..เคยเอาเจ้าเข้าอู่นอน..สอนนิทานนานกี้..ผีกระสือผีก็องก่อย..อย่าได้หลอยออกเที่ยวเหล่น..ตะเว็นค้อยค่อยหลับนอน..เด้อหล่าเอ้ย...ได้มาอ๋อออดอ้อน..อ้อนแอ่วปีละหน..นี่ล่ะหนอชีวิตคน..สร่างมาจนไกลบ้าน..วันสงกรานต์มาถึงแล้ว..แถวอีสานบ้านถิ่นเก่า..กลับลำเนาบ้านเกิดก้ำ..ลำนำหย่อต่อผญา..กลับเมือสาอ้ายเอื้อยน้องหนุ่งผุทุมมาน..กลับเฮือนซานพักเซา..เทศกาลสงกรานต์ล้ำ..วัฒนธรรมสูงค่า..รักษาให่ตลอด..ให่ซอดมื้อด่าวดิ้น..อย่าลืมสิ้นกลิ่นอีสาน..เทศกาลมาฮอดแล้ว..มีวันหยุดให่กลับต่าว..อย่าให่เถ่าตาและยาย..ได้นั่งคอยงอยเก้อ..เด้อไทเฮาาเอ้ยยย....

                Prasit Charatphaew

 

13 เมษายน 2564  ขออนุญาตเจ้าของผู้แต่งด้วยครับ

....เกึ้ยว....

คึดต่ออ้อย   อ้อยกะเกิดเป็นเลา

คึดต่อหนองนาคำ  กะกายเป็นทะเลแล้ง

คึดต่อแตงพันค้าง  ทาวเคียหมากผึผ่วน

คึดต่อนาท่งค้อย  ทางนั้นเพิ่นกะชิง

บ่ใด้เจ้าชาตินึ้   สิไปบวชเป็นเถร

อยู่กับเณร  ผ่ำเดึยวนอนแล้ง

แหม่นว่าใจเหี่ยวแห้ง   พอแต่ตกคราวแลง

สิเอาน้ำมาหม่า

จนกอหญ้าเหล่านั้น  สูงขึ้นจนส่ำขาง  พุ้นแหล่ว

Vicial Meepholnh

      13 เมษายน  2564

 

ฟังคำเว้าเป็นตาเอาคักแหน่พออยากแวนั่งเฝ้าฟังเว้าเข่าหู ระวังแหน่แต่ซู้บ่ฮู้ว่าสิหล่อยหลังพอฟังไปเฟลอย้านฆ้อนวีใส่หลังตุ้ม..ซุ้มมผุแนวนกคุ้มบ่อคือกันกับห่านอ้ายมันจารย์แท้ๆใจแว้เข่าแต่วัดวาหล่าเอ่ย

              ป๋าปุ่น ชินวงค์ 

        13 เมษายน 2564

 

ขออนุญาตเจ้าของผู้แต่งทั้งสองคนด้วยครับ  

 

บ่เห็นหน่า....กะคึดฮอด

          กำลังมาแต่ใส่บาตร     จักหน่อย  คึดฮอดคนในกลุ่ม

     พีน้องเอย  คนบ่เคยเห็นหน่า  มีแต่เพียงคำจา

มาปลอบใจพอคลายหม่น  คึดฮอดคนผู่เผิ่นเว่า

แลงเซ่าดอกอ่อนหวาน  คำที่มาจาต้าน

ขานไขไห่ใจอุ่น   ถือหว่าบุญอีน้อง

ขอจองไว่หว่าก่อนไผ  ซาตินี่บ่ได่ซ้อน

นอนเฮียงเคียงก่าย   นางกะหมายอ้ายไว่

ไปพบพ้อซาติสิมา   คันผลานางยู้ บุญซูนางส่ง

อ้ายอย่าหลงถิ่มไว่  ขอโตอ้ายอย่าหน่ายนาง

นางกะเขียนขึ่นมาจากใจของนาง  อีหลีซาตินี่

เฮากะเป็นพีน้องกัน มีอีหยังกะคุยกันเด้อจ้า  ฮักกัน

ไว่ดีกั่วซังกัน  คึดฮอดเหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า.

            ส.สำลี พิมเทพ

 

         13 เมษายน  2564 

หลังจากมาแต่รดน้ำขอพร เอื้อยและพีน้องในบ้าน

พีน้องเอย  สุขส่ำได๋ไผกะฮู่

หากได่อยู่บ้านเกิดเฮา  ภูมิลำเนาเฮาเคยนอน

บ่อนเกิดมาแต่คราวกี้  มีไฮ่นาพาทำส่าง

เลี้ยงงัวควายไว่สืบต่อ  พ่อแม่เฮาเผิ่นแบ่งไห่

มูลมังเค้าตั้งเเต่เดิม

มีเฮือนซานหลังส่ำฟ้า  ปานปราสาทราชวัง

มีเงินคำเป็นถุงถัง   กะยังคงคึดเห็นบ้าน

เถิงสิมีเงินล้าน  สนุกอยู่สนุกกิน

กะถวิลคืนมา  อยู่เฮือนคือเค้า. ซั่นดอกว้า

อันนี่นางเขียนไห่พีสาวคนที่เลี้ยงนางแทนคุณแม่

ผู่ที่นางไห่ควมฮักเสมอเปรียบคือแม่แท้ๆของนาง

ถึงเผิ่นสิไปร่ำรวยอยู่ทางได๋เผิ่นกะบ่เคยลืมบ้านเกิด

บ่ลืมพีลืมน้องผู่อยู่บ้าน. นางกะขออวยพรไห่

ครอบครัวของเผิ่นไห่อยู่ดีมีแฮง ค้าขายทุเรียน

กะร่ำๆรวยๆ  เจริญๆเด้อจ้า

สำบายดีมีแฺฮงเหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า.

 ส. สำลี  พิมเทพ

13  เมษายน  2564

.......เพิ่นว่า......

แมนจากเฮียนจากบ้านไปทำงานยุไกลถิ่น

ใจถวิลอ่าวโอ้โงโค้งอวยคืนมา

บ่ลืมนาลืมบ้านสถานที่เคยอาศัย

แมนสิอยู่ทางใด๋กะหวลคืนมายามบ้าน

แมนสินานหลายโอ้บ่ลืมโตลืมถิ่น

พากันกินป่นจ้ำยังจำใด้แม่นบ่อลืม

กลับมาชืมชับเข้าเอาหัวใจมาแน่นแก่น

สายสะแนนยีงบ่สิ้นยังเป็นเค้าอยู่ดั่งเดิม

........สั่นแหล่ง......

.....สำลีเอ้ยๆๆๆๆ.....

ซุ้มประกายเพชร  ซุ้มประกายเพชร

 

 13 เมษายน 2564

ขอขอบคุณ  ส.สำลี  พิมเทพ และ ซุ้มประกายเพชร  ซุ้มประกายเพชร  นะครับ

 

             ส่งสาส์นจากห้องบ่มีคู่

สารน์นี้เขียนจากห้อง  สถานเนาว์บ่มีคู่

ใจผะสงค์ต่อซู้   จังยอแต้มแต่งควม

ควมในนั่นขั่นบ่ไขออกเอย  ย่านแต่ใจแตกม้าง

ขังข่ออังทรวง

อ้ายเอ้ย

จากหัวใจดวงน้อย  คอยถ่าพี่คนดี

บ่เคยหนีไปไส   ย่อนวาใจฮักล้น

แสนสิมีคนเอิ้น   สายตานางบ่หล่ำ

หลงคึดนำแต่อ้าย   ชายเจ้าพุหล่อเหลา

เอาความจริงมาเว้า  สำเนามวนนวลหู

ให้เอ็นดูแนเด้อชาย   ด้วยใจหมายมาใกล้

เอาหัวใจมาเกินร้อย  อย่าให้คอยเหมิดท่า

บุญผลาย่านบ่ฮอด   คงจอดป้ายได้แค่ฝัน#ซั้นแหลว

ฮักแพงเบิ่งแงงไว้ในใจคือเก่าเนาะไทเฮาสำบายดีมีความสุขทุกคนจ้า

 ติยาพร  มุกดาหาร    ผู้เขียน

 

      21 เมษายน 2564

             ลมลวง

ลมเอ๋ยลม    เป็นหยังมาพัดต้อง

ในหัวใจให้ไหวสั่น   ฮู้บ่มันแสบจ้าว

มโนเนื้อสิแตกพัง    เป็นอีหยังบ่ไปต้อง

พัดใบตองให้ไหวสั่น   เป็นหยังมันบ่ไปน้าว

พัดใบพร้าวให้ก่องลง

ลมเอ๋ยลม    เพิ่นว่าลมเป็นบ้า

มันพัดพาให้โลกหมุ่น   เป็นลมหมุนพายุฮ้าย

พัดมาใกล้ยังอาจหนี   แต่ว่าลมปากนี่

สิหลีกหนีบ่มีป่อง    พ่นออกจากปากอ้าย

มาตั๋วให้น้องคึดนำ

คนเอ๋ยคน    ซางมาตั๋วหลอกให้

ฮักเหมิดใจแล้วกะแป   คือหมาหยอกไก่แจ้

ให้หลงแล้วเพิ่นกะหนี    หทัยดีมันกะช้ำ

ใจเคยงามมันกะหมุ่น    ย่อนคำลวงของคุณ

ผู้ใจดำปานหมื่อ    ได้ฮื่อฮ้องบาดเพิ่นลวง

ซังหลายเด้     ซังสายลมพัดมาใกล้

น้ำตาไหลปานฝนห่า   บ่แมนไหลใส่นา

แต่ไหลลงท่วมใจน้อง    สิตายถิ่มกะซางเป็นแท่น้อ#

ฮักแพงเบิ่งแงงไว้ในใจคือเก่าหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์จ้า

         ติยาพร  มุกดาหาร

         19 เมษายน 2564

ฝากลมเถิงน้อง

ลมเฮ้ยลม..คือจั่งพัดช้า..ห่างไปบอก.ให้สาวช่า..คำสัญญา..บ่อเคยหล่าย.จำจนฮอดมื้อตาย..คำที่เคยบอกน้อง..จำมั่นบ่อลืม.มื้อฝนตกฟ้าจั่งคึ้ม.ใจแห่งตื่ม..นำนาง.คิดเบิ่งทางมันไกล..ว่าสิมาหย่ามเยี่ยม.เตรียมของเทิ้งผ้า.ฝนผัดตก.ฟ้าฮ้องส่งฟังเสียงฟ้าฮ้องโป้งๆ..ใจชายนั้นกะดั่งกัน..อย่าปันใจเด้อหล่าบ่อเคยลืมดอกสัญญายังจำได้คือเก่าสาวคนอื่นบ่อหวังเอา..ฮักผู้เดียวเจ้าท่อนั้น..อยากฝันพ้ออยู่สู่คืนสั่นดอกวา...

       บุญชู  หลักคำ  ตอบติยาพร  มุกดาหาร

เพินวาใจหญิงนี้คือยุงยางไม้เอนใบไหวค่องลมมาต้องกะหักป่องไปตามลม

ใจผุชายคือจั่งเครี อหญ้าป้องลมต้องกะบ่เพสั่นดอกวา555

         ทองดี  แพงวัน   ตอบ ติยาพร  มุกดาหาร

ลมพานต้องใบไผ่โวกวิโวลมพานต้องใบโพธ์โวกวิเวกโจกเจกน้ำล้นต้อนแนวได้แม่นอิปูยุงยางไม้ถืกลมผั่นหักท่อนบาดเทื่อเคลือหญ้าป้ล้องลมต้องหากบ่เพ อ้าวลมลมลมลมหัวกุด สุดจ้อยเทื่อหน้าค่อยว่ากันสารพันพญาอีสาน...

 

           เกษม  ผาดี  ตอบ  ติยาพร  มุกดาหาร

คือมาเว้าเป็นฮ้าย.คำพี่ชายบ่เคยล่วง.บ่หวังลวงหลอกเจ้า.ทุกคำเว้าพี่บ่เคย.อยากสิเผยให้ฮู้ใจขู๋ลงแล้วกะล่น..ปนกับคำว่าฮักเจ้า.แลงและเซ่าบ่แม่นลวง.เจ้าผู่พวงดอกอ้มอย่าสิจ่มไปคือหลาย.ใจของชายมีแต่นาง.อย่าระแวงให้มันฮ้อน.ให้เจ้าถอนคำเว้า.เซาสาเรื่องบ่เซื่อ.เหลือแต่คำว่าฮักหมั่น.สองเฮานั่นแม่นอย่าลืมเดอ....เขียนกลอนม่วนหลาย.จนอดเว้านำบ่ได้คับ

 

         ทอง เสียน  ตอบ ติยาพร มุกดาหาร

   ฝากคำเว้าสั้นๆ...ส่งหัวใจให้กัน...ตอนฝนฟ้ามันฮ้องส่ง..ว่าใจของพี่ยังคง...รักคิดถึงท่อนั้น...คันลมต้องสิส่งไป..ถ้าหากบ้านอยู่ใกล้..สิเทียวท่องน้อไปหา...ขอเวลาได้เชาพัก..ส่อยนางยามเธอท้อ...สิเป็นถือข้อจุงแขนยามน้องเมื่อย..อ้ายสิถามอยู่เรื่อย..คันน้องบ่อสบาย..สิคอยคำตรงให้..ยามหนาวหาผ้าห่ม..นางเอ้ยนาง..หอมบ่อหอมอ้ายกะสิก้มดมน้องอยู่หย่างคืนสั่นดอกวา...

 

         ทอง เสียน

 

เห็นหายไปหลายมื้อ

ซ่งคือเป็นลายต่าง

ย่านมาฝากฮักไว้

ไปแล้วบ่สั่งนาง

ย่านคำหวานที่เคยเว้า

สิขันเอานางเป็นคู่

 

ย่านพ้อซู้ต่างบ้าน

คำหวานเว้าผัดเลาลืม......กลอนพาไปจ้าม่วนๆนำกัน

         ติยาพร มุกดาหาร  ตอบ ทอง  เสียน

แม่นใผน้อมาตั๋วต้มติยาพรแก้วอีแม่ มาสงสารแท้ๆได้ยินเว้าอ้ายคิดนำ เมืองกะสินฝ่ายก้ำหนุ่มน้ำก่ำยังหวลหาเด้อนางเด้อ ท่าคันโทอยู่ปลายนาอ้ายนั่งคอยทุกแลงเซ้า คันตัดใจจากเขากะให้มาทางอ้ายขอรับรองสิบ่ปล่อย ถึงเฮือนอ้ายหลังน้อยกะพอซ้นบ่หม่นหมองดอกหล่าเอ้ย

 

     สุรเดช  ทิพเลิศ  ตอบ  ติยาพร มุกดาหาร

คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก

จักหน่อยก่อนสินอน

พีน้องเอย

คับที่นั่นบ่เป็นสิ่งสำคัญ   คับใจมันพอตาย

เด้พีซายนางขอเว่า   คันเฮาเข่าใจกัน

มันหากหม่วน  คนเฮาควรจื่อไว่

พอได่แหม่นไต่ตรอง  แหม่นสิมีเฮือนห่อง

หลังใหญ่ตระการตา  หากบ่จานำกัน

บ่มีวันนอสุขได่   ใจฮนฮ้อนนอนอยู่บ่เป็นสุข

ทุกข์ในใจของคน   บ่หว่าจนหรือรวยล้น

คนปลงได่กะทำใจได่แหน่  แต่หากปลงบ่ได่

ใจฮนฮ้อนอยู่บ่เซา .ซั่นแหล่ว

มาส่งพีน้องในกลุ่มเข่านอน  สินอนตอนได๋กะนอน

หลับฝันดีเด้อจ้า ปลงสาดอกถามหาผู่ลังคนกะบ่เห็น

น้อจ้า  เอาแต่สิเป็นไปน้อ คึดฺฺฮอดเหมิดสู่ผู่สู่คนจ้า

           ส.สำลี   พิมพเทพ

 

          24 เมษายน 2564

ก่อนสิลุก

รำพึงอยู่ผู่เดียว

ดวงชะตาเกิดได่   จนใหญ่เจริญมา

ลูกชาวนาคนจน   หากบ่สนคำคนเว่า

เฮากินเข่า(ข้าว)เทือละคำ  คือกันพี

สาวนานางผู่นี่  ยังคือกี้บ่ต่างหลัง

ใจต่อตั้ง ตั้งต่อ  ขออาสา สิมาจาสืบสาน

คำจาขานเเทนพ่อเจ้า  คันไผเข่ามาดู มากดเบิ่ง

อีกเทิงผู่มักเว่า   ไห่โตเจ้าแหมนกล่าวมา

ส..สำลีลูกผู่หล่า   จิตอาสาสิสานต่อ

ขอวอนพ่อและพีน้อง  ลองมาเว่าดอกต่อกัน

คันวันได๋ว่างๆ   บ่ได่หย่างไปไส

กะวนไปวนมา  เทียวมาจาถามหาเพื่อน

เหมือนกับมีเเนวข่อง   อยากไขป่องทางวาจา

บ่เเหมนมาหาแฟน   ไผควงแขนบ่เอาจ้า

คำนางจานางต้าน   คำบ่หวานอภัยแหน่

ขอนำแม่เเละพีน้อง   นางขอร้องหว่าอภัย แหน่เด้อจ้า

อรุณสวัสดิ์พีน้องผองมิตรแฟนผญา มื่อนี่มาทักทายแต่เดิก แหน่ เป็นจั่งได๋นอตื่นเเล้วไป๋น้อ

คึดฮอดคือเก่า  สำบายดีมีเเฮงสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า

        ส.สำลี   พิมพเทพ

 

           6  พฤษภาคม 2564

ว่าง นั่งเล่น อยู่กระท่อม

พีน้องเอย

คันเฮาทำดีเเล้ว   ไผบ่เห็นกะตามส่าง

คันเฮาทำถืกต้อง   ไผบ่ย่องกะส่างตาม

ถามใจโตอยู่สู่มื่อ   คือบ่หน่ายลืมหลง

คือยังคงเเต่เทียว   เข่ามาถามหาเพื่อน

บ่เเชเชือนคำเว่า    ยังคือเก่าและคงเดิม

มีคนเติมแรงใจ    บ่วาไกลหรือไกล้

เลยทำไห่ใจของนาง   บ่วางปล่อย

จั่งได่คอยออยเว่า    แลงเซ่าบ่เลาลืม

มื่อได๋ฟ้าครึ้มๆ    แห่งตื่มต่อนอทางใจ

ไผที่เคยฟังนาง   หากบ่จางยังคือเค้า

ควมเหงาล้า  มาแต่นา  ฟ้าวมาเบิ่ง

เทิงผ่องหัว ผ่องยิ้ม   แนมเห็นแล้วกะซืนใจ

ขอบพระคุณเอื้อยอ้าย   เทิงหญิงซาย ที่ได่ฮ่วม

ที่ได่ร่วมปากเว่า    ยามเเลงเซ่าดอกสู่คน

เว่ามาดน นานเเล้ว   สิลาลงดอกสาก่อน

คำกล่าว วอนมื่อนี่    สำลีหล่าได่กล่าวมา

ขอบพระคุณเด้อจ้า    สิไปนาดอกสาก่อน

เอาไม่ตอนค่ำพุ้น   เด้อคุณท่าน ค่อยวากัน

มาทักทายรอบนี่ก่อน สิไปปล่อยงัวกินหญ่า

ผิดตก กะขออภัยแหน่เด้อจ้า สำบายดีมีเเฮงเด้อจ้า

                                    ส.สำลี   พิมพเทพ

 

                                    16 พฤษภาคม 2564

 

มาแต่ใส่บาตร ก่อนสิไปนา

พีน้องเอย  

อันวาซาติหน่านั่น  บ่มีไผยืนยัน วามีจริงแท้

คันเฮาหวังดีแล้ว   กะทำดีไว้สาก่อน

ประกันความเดือดฮ้อน   ดีกั่วแก้บัดเทือลุน

บุญกุศลสร่าง   อย่าได้วางป๋าปล่อย

บุญสิพลอยส่งให้   เฮาใด้ดอก อยู่เย็น

บ่มีเวรมาต้อง   บ่หมองหม่นมัวศรี

บ่ทีแนวอันได๋   มาเฮ็ดให้ใจวายวุ่น

บุญมีนั่น  บุญยังหลาย ไผมีแม่

แต่วาโตหล่านี่    บ่มีแม่ดอกสิเห็น

จำเป็นแล้ว มีแนวได๋   ใ่ห้สอนสั่ง

อยากฝากฝังบอกให้   ซุมลูกได้ไห้คิดทวน

ให้คิดเห็น หวนฮู่   บุญคุณ พ่อกับแม่

ยามเผิ่นแก่ เผิ่นเฒ่า   ให้สองเจ้าอยู่สบาย ซั่นดอกจ้า

สวัสดีจ้า มื่อนี่นางไปใส่บาตรอยู่วัด กะบ่เเมน วานาง

อยากสอน ดอกน้อจ้า  แต่นางกะิยากฝากไว้ คัน

ผู่ได๋ยังมีแม่ กะให้ ดูแลเผิ่นดีๆ เด้อจ้า ดีกั่ว สิถ่าไป

ใส่บาตร ยามเผิ่นบ่อยู่นำ เด้อจ้า คึดฮอดคือเก่า

สำบายดี มีแฮง เหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า

      ส,สำลี  พิมเทพ

 26  พฤษภาคม  2564

       หล่านางเอย อ้ายเห็นดีนำน้องการทำบุญหนุนส่ง ใจประสงค์ต่อตั้งหวังบุญได้ส่อยชู ตู่หลูหล่าสังมาเฮ็ดแหม่น แก่นในการทำบุญหนุนหลักธรรมแต่เค้ามาเว่าสู่ฟัง นางเอย ดีดีแท้พ่อแม่เคยสอน ขอให้ให้นำหลักธรรมสู่การงานส่าง หากหวังสำเร็จสิ้นกับงานการทุกอย่าง อิทธิบาทสี่มีให้ตั้งทำได้สิฮุ่งเฮือง ฉันทะ ความพอใจตั้งในงานคักแหน่ วิริยะ ความเพียรเที่ยงแท้สิพาได้เปลี่ยนไป จิตตะ มีใจน้อมในงานตั้งต่อ วิมังสา จอจ่องานครบถ้วนทวนซ้ำ นำใช้บาดห่าลุน พร้อมทั้งพัฒนาไว้ในการเสริมต่อ กะสิลุล่วงได้ดีแท้แน่นอน หิริโอตัปปะ พร้อมธรรมแห่งการคุ้มครอง หากจิตใจเฮามีความชั่วสิไกลหนีเว้น หิริ นั้นคือความละอายในกรรมชั่ว เรื่องชั่วทุกด้านละอายแท้บ่ทำ โอตัปปะ นั่น ความละอายในการทำชั่ว มั่วอเวจี อบายมุข สิ่งนำทุกข์มากั้ว ละอายใจแท้อย่าทำ ค้นอยากงามกะนำใช้ธรรมแห่งความงามมาตื่ม ขันติ โสรัจจะ ขันติ ความอดกลั้น โกธา อารมณ์โกรธ เฮ้ดจิตบ่ส่วงเศร้าใจเจ้าบ่สบาย โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม เตรียมเพรียบพร้อม จาต้านอ่อนหวาน คุมอารมณ์เอาบ่ให้ไผได้เห็นทั่ว ความโกรธเกรี้ยวเก็บไว้อยู่ใน แท้แล่ว การทำบุญสร้างแทนคุณพ่อแม่ กตัญญูกตเวที เที่ยงแท้สิพาเจ้วฮุ่งเฮือง หล่า ส.สำลี พิมเทพเอย

           ประสม  บุญป้อง

 

 26  พฤษภาคม  2564

น้องนี่คึดฮอดอ้าย..เซ้าค่ำคนิงหา..สอดสายตานำซาย..ส่องทางคอยจ้อง..จอบเบิ่งคองทางเค้า..บ่เห็นเงาโค้งต่าว..หือลืมคราวบ่อ้าย..หายจ้อยข่าวบ่มี..คือบ่จำแต่กี้..วอนหว่านคำหวาน..ปานน้ำตาลเมืองเพชร..ป่อนมาแลงเซ้า..เทียวถามเฮาจนล้า..ฮักหลายเทิงห่วง..เฮ็ดคือหวงเอาแท่..จอบจ้องส่องนำ..คำอ้ายเคยเอ่ยอ้าง..ฮักห่วงเทิงหวง..คำอ้ายขอควงนาง..หย่างเคียงนำอ้าย..คำฮักหลายหายสิ้น..ตกดินถิ่มเหี่ย..ละบ้อ..คำว่ามีแต่น้อง..เต็มห้องหว่างใจ..สังบ่ปักใส่ไว้..ฝังจอมเป็นจ่อม..สังคือมาลืมไว..ห่างไปบ่มาใกล้..สังคือใจดำแท่..เคยแว่บ่มาแว..ไสหล่ะคำว่าฮักแท่..คือฮ้างเหี่ยลง..น้องผะสงค์ต่ออ้าย..หมายฮวมเฮียงสอง..ใจนางปองนำซาย..ก่องเกี่ยวเคียนเกี้ยว..มีคนเดียวคืออ้าย..คึดนำหลายซุบาดหย่าง..สังคือเป็นต่างฮ้าย..ไกลหน้าข่าวบ่มีแท่น้อ..

         ติยาพร   มุกดาหาร

       26  พฤษภาคม  2564

อ้ายเอ๋ย

ครั่นอ้ายเป็นกกไม้ น้องสิไต่ทาวเครือ

สินำเฟียหง่าแหนง จ่องใบนำซ้น

สินำวนพันเกี้ยว เคียนคองคือตานั่ง

ฮอดสิฝังฮากซ้อน ลงพื้นบ่อนเดียว

ใจผะสงค์กอดเกี้ยว กวมก่ายนอนกก

สุดสิพรรนายก เอ่ยเขยความอ้าง

คิดอยากนอนหนุนข้าง ขานางค้างขาบ่าว

บุญสิสมซมซ้อน อวนอ้ายแนบ่น้อ....

#ต้องขออภัยหลายๆเดัอจ้าคำใด๋ที่เห็นว่าบ่สมควรย่อนคึดฮอดคึดถึงจังได้แวมาเว้าสำบายดีซุผู้ซุคนจ้า

    ติยาพร   มุกดาหาร

 26  พฤษภาคม  2564

น้องหล่าเอย ฟังคำเว่าคือหันมาปานหมากหลิ่น แท้นอ แต่พออวนอ้ายหลงมักแล้วสิบ่ป๋ะถิ่มเคิ่งทาง บ้อนอ ฟังคำเว่าปานลมห่าใหญ่ ไผหลงยืนกลางถ่งกว้างย่านหยุมหญ้าไว้บ่ท้นพุ้นแล่ว ฟังหวานหูจ้อยๆว่าคองเอาเป็นคู่ บาดอ้ายบุป่าสิซ้น ย่านโตน้องบ่เหลียว ซั้นดอกหวา.

      ประสม  บุญป้อง

26 พฤษภาคม 2564

กะลองบู๋มาเบิ่งอ้าย

 ติยาพร   มุกดาหาร

26 พฤษภาคม 2564

หล่านางเอย คันบ่จริงน้องอย่าท้ามันสิเหล่าเสียเซิงได๋นาง ทางอ้ายคันตัดสินใจแล้วเมืองแกวกะดั้นฮอดได๋ คันอ้ายไปฮอดแล้วสิบุซ้นบ่แหม่นหนี แหม่นหว่าหาคนฒาฆ่ามาตีอ้ายบ่หวั่น คันมาฮอดแล้วสิหมายม้วนกระดูกดอมพุ้นแล่ว มันสิเต็มทีน้องบ่พอใจยากสิไล่ได๋หล่า หว่ามาให้เกลี้ยงๆคำที่นางหว่านั้นจริงแท้ส่ำได๋ หล่าเอย คันพอใจอ้ายสิบุไปมื่ออื่น เขียวคืนย่างฮ้อยมื่อตนอ้ายกะสิไปนางเอย.ใจบ่นอน้องติยาพร มุกดาหารเอย.

    ประสม  บุญป้อง

26 พฤษภาคม 2564

เผิ่นประสม บุญป้องกะฮักแฮงคันแมนทันอ่านวานนี้คงบ่ได้นอนไปจังหันบ่ทันแน่ โธ!!!คันใจได้ฮักประสงค์แล้วเมืองแกวสิเดินฮอด บ่ได้กอดยอดแก้วสาแล้วสิบ่เซา ความฮักมากลุ้มๆปานซุมงุ้มหัวความฮักมาพอๆปานกะท้องุ้มไว้แท้ๆ ความฮักทำให่คนตางฝบอดตั้วเนาะอิอิ

     บระกอบ  ดรชัย

 26 พฤษภาคม 2564

ย่านแต่ฮอดนางแปเป็นอื่น ตั๋วให้ยืนแยงแย้แนมหาน้องกะบ่เห็น เพิ่นไปนำผุบ่าวแล้ว555

     ประสม  บุญป้อง

 

 26  พฤษภาคม 2564

คาดแต่แถนแต่งปั้น  ดึงอ่วยเวิ่นหนี

คาดแต่สายแนนเฮา  แบ่งทางขนานกั้น

บุญบ่พอเทียมข้าง นั่งเฮียงซ้อนเสื่อ

บุญบ่พอฮวมสร้าง ในฮั่วหว่างสวน

บุญบ่สมคู่ซ้อน ฝั่นเกียวสายแนน

แถนบ่ดันนำพา ก่ายดอมคีงอ้าย

จังบ่หมายเฮียงน้อง เมินทางไกลห่าง

บุญบ่เคยฮ่วมสร้าง เพม้างห่างไล

ได้แต่ซาวมือค้าง ทางพี่บ่งินเสียง

ได้แต่เพียงคำฮัก หล่อฝันวันมื้อ

ได้แต่ฮือ ฮือไห้ ยามชายบ่หล่ำ

ได้แต่ฮำ ฮำ ฮ้อง ยามอ้ายหน่ายซัง#

ทักทายสำบายดีทุกๆคนจ้า

 กิยาพร  มุกดาหาร

26 พฤษภาคม 2564

โอน้อ น้องเอ๊ย อ้ายประสงค์ต่อน้อง คือกระต่ายมองดาว

ได้แต่แนมคอยหา ทุกวันบ่มีเว้น ..อย่ามาตั๋วอ้ายถ่อนเวลานอน ย่านอ้ายจ่อย..นอนกะนอนบ่หลับ ..จับกะจับบ่ได้บางมื้อแฮงคิดหลาย..ย้านอ้ายตายย่อนอิหล่า..อย่ามาตั๋วให้อ้ายชื่น..ยืนกะยืนทุกมื้อ..รอแต่เจ้าให้ข่าวหา..สั้นแหล่ว..5555

     นายรัศมี  ธนูชาญ

 26 พฤษภาคม 2564

หล่าเอ่่ย... คาดแต่แถนแนนแต่ฟ้าเพิ่นส่งมาให้เฮาเกิด... กอ่นสิออกจากชั้นแถนนั้นใด้สั่งความ... ไปนำกันเดอ้หล่าสองคนใหัฮักยิ่งหญิงและชายให้ฮักมั่น... จนเท่าฮอดมื่อตายพอว่าแล้วสองเฮากะลอยรอ่ง... เฮ้าทั้งสองลอยเข่าสู่แดนสิตอ้งหรากทั้งลมฝนพัดตอ้งลมนั้นกะพัดแฮง... สุดปัญญานอ้งอา้ยสุดความหมายสิกอดยุ่.. ลมมิดตอกพัดไปคนแกลมีดแถพัดไปคนกลํ้า... ลมมาชํ้าสองเฮากะหนํ่าใหญ่ถึงได้ไกลจากนอ้งตราบฟ้ากะบ่เห็นหล่า... ครันได้มาเห็นแล้วยังมีแนวสิพลัดพราก... ฝากคาวมหลังมาสั่งนอ้งสุดจอ่งสองเบิ่งกันหล่า.... ผญาพาไปสบายดีบา่ยๆๆครับ

 บูลสกาย  สายชล

 

26 พฤษภาคม 2564

บ่ได่เว่า ย่านนอนบ่หลับ

ควมห่างไกลเฮ็ดให่ท้อ  คำหว่ารอเฮ็ดให่ป่วง

บ่แหม่นหึง แต่กะห่วง  ควงกะควงบ่ได่

อยู่ไกลอ้ายดอกห่างกัน   อยากบอกอ้ายสั้นๆ

หว่าน้องนั่น คึดนำหลาย    หว่าน้องฮักแต่เพียงซาย

ย่าน แต่ตายย้อนคึดฮอด    อยากไปหาอยากไปกอด

อยากนอนเฮียงอยากเคียงคู่    อยากสิบอกให่อ้ายฮู่

หว่านางน้อง นั่นฮักแพง    คือจั่งฟ้ากลั่นแกล้ง

เเสนแพงฮัก บ่มีหวัง   จั่งได่เขียนมาวอน

 ก่อนนอนดอกเด้จ้า ยามนอนหลับให่อ้ายฝันเห็นหน่า

สาวนานาง แหน่เด้อพี    ให่นอนหลับฝันดี

ส.สำลีน้องหล่าผู่จาเว่า  ก่อน สินอน ซั่นดอกจ้า

สวัสดีก่อน นอน มาซ้าแหน่เแต่กะย้อน

 หว่าคึดฮอด  กะเลยมา คึดฮอดเหมิดสู่ผู่ สู่คนเด้อจ้า

นอนตอนได๋ กะขอให่ นอน หลับฝันดีจ้า

      ส.สำลึ พิมเทพ

    9 มิถุนายน 2564

 

 

ก่อน สิ ลงท่งนา

พีน้องเอย  อย่าสิไลลืมถิ่ม   มูลมังอีสานเก่า

ให่พากันทาวสืบเหง่า   แนวเนื้อเผ่าอีสาน

คำผญาพื้นบ้าน    ให่สานต่อดอกดำรง

อย่าสิหลงจาขาน    คู่เมืองอีสานไว่

อย่าสิไลป๋าถิ่ม    เป็นสนิม ให่ล้างเป่า

ให่ใสเงาคือจั่งแก้ว   อย่ามีมื่อ เเมนขุ่นมัว

อย่าสิกลัวคำเว่า     นำคน คันเว่าหม่วน

ขอเชิญชวนหมู่เจ้า   มาฟังเว่า กล่าวผญา

แมน สิวา บ่ได่   ขอให่ใส่ใจตาม

ถามข่าวคราว แต่ละวัน   จานำกัน ฉันท ์พีน้อง

หากไผหมองหรือเศร่า   กะเว่า วาพอระบาย

บ่ต้องอายดอกเด้อคุณ  บุญเฮามี จั่งพานพ้อ

ขอเพียงนี่ สำลีนาง   สิลาลงดอกสาก่อน

เอาไว่ตอนมื่อหน่า    สิจาเว่า ดอกสู่ฟัง

สวัสดียามสวยเติบ   เป็นจั่งได๋น้อ ฝนฟ้า คือมะเป็น

แนวนี่น้อ สิตก แต่กะ บ่ตก  จักเทือ  ฮ้อนคักพีน้อง

เอย   คึดฮอดคือเก่า สำบายดีมีแฮงเด้อจ้า

     ส.สำลี  พิมเทพ

 

   9 มิถุนายน  2564

ฝนตกรินฮำย้อย..คิดฮอดฮอยอดีตเก่า

คิดฮอดปู่ย่าเฒ่า..ผุ้เคยเว้ากล่าวสอน

พากันจำเด้อคำก้อน..จำเอาบ่อนที่มันดี

ประเพณีอีสานเฮา..ให้จื่อเอาจำไว้

ไปทางได้อย่าหลงซ่น..ให้ทุกคนนั้นคิดฮ่ำ

วัฒนธรรมอีสานพื้น..ให้บืนสู้แม่นรักษา

ไปอยู่ไสใต้ฮ่มฟ้า..เตือนตนว่าคนอีสาน

อีกบ่นานปู่ย่ายาย..กะเล่าตายเบิดสิ้น

เหลือแต่ศิลป์อีสานเค้า..ให้จำเอาจากปู่ย่า

บทผญากาพย์สร้อย...ให้หลานน้อยซ่อยเบิ่งแงง

ฝนสิตกฟ้าสิแล้ง..กะเขียนแต่งมาเป็นกลอน

นำอักษรมาบรรยาย..เล่าไปบ่มีสิ้น

ทุกข์นำดินทุกข์หญ้า..ทุกข์นำนานำน้ำแก่ง

ฝนสิตกฟ้าสิแล้ง...จนข้าวแห้งกะแต่งกลอน

เอาความทุกข์มาโฮมท้อน..ลงกลอนแต่งผญาศิลป์

สุขอยู่ในแดนดิน..กะแต่งกลอนวอนเว้า

ให้จำเอาเด้อหลานหล่า...บทผญาจากย่าปู่

สอนลูกหลานให้ได้ฮู้..ครองเค้าเผ่าอีสาน

คำผุ้เฒ่ากล่าวนั้น...หลานบ่เล่าลืมหลง

หลานยังคงบ่ลืมลา..จับปากกามาเขียนแต้ม

แต่หลานแนมบ่เห็นส่น..บ่เห็นคนสิมาอ่าน

ผญาเก่าชาวอีสาน...ปิดตำนานปู่ย่าไว้

อาลัยแท้อีแม่เอ้ย...คน  ฟังเอ้ย

   **ทอง     น้องใหม่เมืองขอนแก่น**

           10 มิถุนายน  2564

มาแปลงสร้าง

..ทางดอนบ่อนน้องอยู่ ขันอาสาเป็นหมู่

..เป็นคู่เคียงเฮียงสร้าง ทางอ้ายให้ฟ้าวมา

...ตอนนี้...

..ไกล้สิพอลกกล้า ไถคาดนาดำ

..ฝนตกฮวยฮำลง ท่งนากะมีน้ำ

..ฮอดยามแลงยามเช้า คอยจาเป็นหมู่

..เป็นคู่คิดคู่สร้าง ทางน้องต้องขยัน

..ให้อดทนอดกลั้น บากบั่นทำกิน

..ให้ยินดีนำนาง หากฮ่วมทางกันแล้ว

..อ้ายคนเฮ็ดคนสร้าง ทางนางสิเก็บก่อ

..เป็นแม่พ่อเมือหน้า ให้หลานลูกได้ชื่นชม..เฮาเด้อ..พ่อมึงเอ๋ย😁😁😁

🌹สุขสวัสดีพ่อแม่เอื้อยอ้ายสุคนจ้า

🌧️บ้านนางฝนตกติดต่อกัน มาสี่มื้อแล้วจ้า

พอได้น้ำดำนาแล้ว..

      กะยอมป่า   โคกนาดอน

   13  มิถุนายน  2564  

เลิกกันสานอเฮา..มันเข้ากันบ่มีได้

หลายเหตุผลหยิบมาอ้าง..อ้ายนั้งฟังบ่จาต่อ

น้ำตาคลอบ่ปากเว้า..ฟังเจ้าดอกเล่ามา

หยดน้ำตานางไหลย้อย..เว้าค่อยๆปล่อยนางสา

หลายปัญหานางหยิบยก..เอาขึ้นมาดอกจาเว้า

ฟังอ้ายบ่าวบ้างเด้อหล่า..เช็ดน้ำตาสาน้องพี่

อ้ายฮักน้องอีหลี..มันหลายปีที่ซาบซึ้ง

คนึงน้องแต่ผุ้เดียว

มีผุ้สาวมาก่ายเกี้ยว..บ่เหลียวล่ำดอกแลหา

ในอุรามันคิด..ย้านผิดต่อคำเว้า

คอยถนอมเพียรเฝ้า..ฮักของเฮาทุกบาดย่าง

บัดได้ฟังนางเว้า..มาอุกเอ้าอั่งมโน

ใจโมโหพออยากฆ่า..เอาปืนผายิงให้ซ่วง

ใจหนึ่งห่วงย้อนฮักเจ้า..ฟังอ้ายเว้าก่อนสิไป.คำเอ้ย

คันเบิดใจจากอ้าย..แม่นรั้งไว้กะไร้ค่า

ขอให้น้องไปสา..อย่าหัวซาบักอ้าย

คันใจเจ้านั้นเปลี่ยนแปลง

ฮักกับอ้ายมันแล้ง...แห้งเหี่ยวอับเฉา

ฮักกับเขาคงมีสุข..บ่ทุกข์ใจคืออ้าย

ขออวยชัยให้เจ้า..ฮักกับเขามีสุขลื่น

ความระทมขมขื่น..กะต้องเป็นบักอ้าย

คนพ่ายสิรับเอา..เศร้าใจเด๋..

คนงามเอ้ย..แฟนพี่เอ้ย

      **ทอง      น้องใหม่เมืองขอนแก่น**

            20 มิถุนายน 2564

 

คึด ซือๆ...ก่อนนอน

วาสนาของนางหล่า...ผลานางบ่สูงส่ง

คงบ่พอสิได่...ไผมาซ้อนแม่นอยู่นำ

ได่แต่ทำงานสร่าง...สิ่งต่างๆตามลำพัง

บ่คิดหวังสิมีไผ...มาใส่ใจดอกจริงแท้

มีแต่แวคุยเล่น...หว่าเห็นใจนางซูอย่าง

บ่มีไผเคียงข่าง...วางใจได่แม่นบ่มี

หากหว่าเป็นจั่งซี่...สิขออยู่โตคนเดียว

แม่นมีไผมาเทียว...หว่าอยู่เดียวบ่ดีหล่า

โตสาวนาสิบ่จาโต้ตอบ...ชอบ ฮัก มี หนีบ่พ้น

คนเฮาพ้อดอกซูคน...สิอดทนทำสู่...สิขออยู่ตามลำพัง

สิขอลืมความหลังที่พังเพ...สิเอาเทลงในน้ำ

สิขอจำเอาไว่ใจของชาย...มันบ่เเน่

กับคำหว่าฮักแท้...บ่มีแน่สิจื่อจำ..ซั่นดอกจ้า

สวัสดีก่อนนอน..เป็นจั่งได๋น้อพีน้อง...วันหวยออก

พอได่อยากได่กินบ่น้อจ้า ...คึดฮอดคือเก่า

นอนหลับฝันดี เหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า

      ส.สำลีพิมเทพ

     5 กรกฎาคม 2564

สสำลีเอ้ยอ้ายบ่อเคยลื่มถิ่มสสำลีแม่นจักทื่ออ้ายคิดนำอยู่สุ่มื้อคนที่อ้ายฮักจริงบ่อประวิงเด้หล้ายอดสง่าคนขยันแต่นี้เรื่องสำคัญไปสู่กันบ่อมีได้โรคโควิตมันร้ายทำให้ชายได้เหินห่างนางเอ้ยบ่อสเบยคิดเห็นน้องคงจอบส่องวันเวลาในอุราทนททุกข์หม่นใจในครานี้มาเต็มทีแต่ทางอ้ายอยากไปหาเป็นบ้าป่วงเรื่องโควิตเทื่อนี้สำลีหล้าอย่าสิไลอ้ายเด้อ

       สุพล   หมายดี

     5 กรกฎาคม 2564

หล่านางเอ้ย..อ้ายนี้คิดฮอดเจ้า..จั่งได้เล่าถามหา

ฝากผญาแทนใจ...ส่งไปให้ถึงน้อง

ใจบ่าวทองหมองเศร้า..คึดฮอดเจ้าบ่ลืมหล่าย

คึดฮอดหลายแทบสิบ้า..อยากเห็นหน้าหม่อมพะนาง

ให้คิดฮอดอ้ายบ้าง..ยามเฮาห่างไกลหนี

ผลามียามได๋...สองหัวใจคงสุขล้น

เฮาสองคนให้ฮักมั่น..สายสัมพันธ์ให้มั่นแก่น

อนาคตเปลี่ยนจากแฟน..ในอ้อมแขนสิกอดเจ้า

สิจาเว้าเอิ้นว่าเมีย

ยามที่ใจอ่อนเปลี้ย..ผัวเมียฮักคอยถนอม

เติมแรงใจให้กัน..อยู่สุวันอย่าลาร้าง

แต่หนทางที่จาเว้า..ใจเหงาๆฝันเอาก่อน

ล้มหัวนอนกอดหมอนข้าง..แทนนางน้องผุ้อยู่ไกล

ขอน้องรับรู้ไว้..หัวใจพี่มีคนเดียว

ฮักเพียวๆคือเธอ...ฮักเสมอนั้นคือเจ้า

คืนนี้เฮาสิไปพ้อ...รอในฝันยุหม่องเก่า

อ้ายสิไปรอเจ้า...ฝ่าวกินข้าวแล้วเล่านอน

ออนซอนเด๋..คนงามเอ้ยๆ

    **ทอง       คนเหงา**

 

     5 กรกฎาคม 2564

ว่าโอ้น้อพี่ชายเอ้ย

นั่งอยู่เถียงนาน้อย

 ได้แต่คอยถ้าอ้ายอยู่

ตัวอิน้องกะอยากฮู้

หรือมีซู้ผู้ใหม่ซอน

อ้ายเอ้ย มีละบ้อผู้อยู่ซ้อน

นอนฮ่วมเคียงหมอน

คือสินอนมีความสุข

ขั่นได้นอนเฮียงอ้าย

สาวทางดั๋ยเด้อ้ายสิมีบุญมาได้ห่วม

คนก่ำกวมผู้ฮ้าย

คือน้องอ้ายบ่อมอง

อีกทังเป็นคนไฮ้

เฮ้ดแต่ไฮ่นาสวน

ตื่นขึ้นมาหาเลาะแต่คันแทน้อย

อยากหลอยเด้

น้องอยากหลอน

ไปยามอ้าย

ย้านหลายเด้

ย้านอ้ายอ้าปากไล่

ย้านได้แล่นที่ลี่หนีค้อน

 เมีย บักอ้าย เกือบบ่อทัน

สาแล้วอ้ายเอ้ย อ้ายเอย

        นำ  ทวีสุข

    7  กรกฎาคม 2564 

 

โยมแม่เอ้ย คำโบราณเพิ่นว่าไว้ว่าฟ้าวบวชฟ้าวสึก เป็นสามัญให้สำนึกอ่านดูสิเห็นเค้า คำว่าสึกๆนั้นวิจารณ์ดูสิรู้ค่า เพิ่นให้ฟ้าวศึกษาอ่านตำราให้แจ้งแทงฮู้ป่องไข ฟ้าวศึกษาให้ได้ในประเภทคันธุระอีกวิปัสสนาแยกขันธ์ให้มันแจ้ง แม่นสิมาแปงเว้าโดยตรงๆกะคือแม่น ถ้าสิดูแปนๆมีความหมายลึกซึ้งคติข้อที่เพิ่นจา ลูกมาลาพ่อแม่เจ้าหันเข้าป่าตระเวนดง เพื่อประสงค์หาโมกขธรรมทางพ้น แผ่กุศลกูลเกื้อท่านสองเขือให้อบอุ่นลูกเป็นเชื้อนาบุญ สิปล่อยนาให้ว่างลือสิได้พืชผล โยมพ่อเอ้ยโยมแม่เอ้ย

                 พ.พินิจ พิมพ์สวัสดิ์

 

                7 กรกฎาคม 2564

หลังจากกินเข่าเทียงแล้ว

หน่าบ่ขาวบ่แม่นสาวในห้าง...เฮ็ดซูอย่างในครัวเฮือน

บ่เคยเบือนหย่างกาย...บ่เคยอายคำคนเย้ย

แนวเฮาเคยทำ เคยส่าง...เฮ็ดทุกอย่างบ่เคยขีน

ปีนป่ายเหล็ก กะเฮ็ดมา บ่เคยย่าน

นานๆเข่าสังขารเฮา...เริ่มล้าหล่อย

คึดเห็นหน่าลูกผู่น้อย...พลอยใจชื่น ยามตื่นมา

เถิงสิเมื่อยสิล้า... สิอดสาดอกสู่ต่อ

ขอแต่ลูกอ่อนน้อย...ฟังควมข่อย กะอุ่นใจ ซั่นดอกจ้า

หลังจากมาแต่ธุระ อยู่ ธ.ก.ส.  มาทักทายพีน้อง

ยามเทียง ฝนกะบ่ตก. เป็นอึมครึมอยู่ เอ้าคักมื่อนี่

สำบายดีมีแฮงเหมิดสู่ผู่สู่คนเด้อจ้า

     ส.สำลี  พิมเทพ

   8 กรกฎาคม 2564

 

 



ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์
อีเมล
หัวข้อ
รายละเอียด







Copyright © 2010 All Rights Reserved.