ReadyPlanet.com
dot dot
bulletซอกมาเว้าสู่ฟัง




วรรณกรรมอีสาน

 ฮักอมตะบ่าวครูไทย-สาวลาว

ภาษาอีสาน

          อดีตกาลนานมาแล้วรัฐบาลไทยห่าวส่งครูไทยไปสอนนอก  ประเทศลาวคักแท้จำไว้แม่ใหญ่ทอง ครูหนุ่มไทยกะจ้องอยากไปเบิ่งเมืองลาว พากันสมัครมากมายหลายล้น  “ครูคำ ฮงทอง” หม่นจอระดลไปนำหมู่ ครูไทยแตกอู้ๆไปลาวพร้อมอเนกนอง  ลงช่องเม็กเดอพี่น้องเข้าสู่เมืองลาว “จำปาสัก” คักแฮงคุณป้า  มีแต่ภูผาโค้งภูมะโรงซ้งป่า มีดงหนาป่ากว้างขวงไว้บ่อนสิไป   เหงื่อกะไหลแตกหน้าขาหย่างทางเดิน

         ยากเหลือเกินทางฮกวกวนจนย้าน  ฝูงลิงเต้น กะเล็น กระแต แย้ บ่าง ต่างกับไทยเดอพ่อตู้พวกครูย้านสั่นสาย  ลางคนป้ายขึ้นขี่เฮือไป โขงกะไหลวังเวินเติ่นไปยามเช้า ดอนขะเหมาไหลย้อน สีพันดอนไหลหลาก ยากสิจำจื่อได้ไหลล่องหล่องของ

          มวลพี่น้องท้องถิ่นดินลาว สาวกะงามเหลือหลายฝ่ายลาวทางใต้ ใจเธองามเสียด้วย คีงสวยคือฟ้าแต่ง หนุ่มครูไทยมักแฮงขอแต่งเอาอี่น้องประคองไว้จั่งหน่วยตา

   บาดนี่ คือเสียงฟ้าแล้งแดดกะแห่งบ่มีฝน รัฐบาลไทยสั่งครูทุกๆคน

ต่าวคืนเมือบ้าน  สงสารครูเด้ อกสิเพแตกแหล่ง พี่น้องเอย  ลางคนเอาเมียกำลังฮักกำลังแพงข่วมโขงมาฝั่งนี้เฮไห้ใส่แต่กัน

       บ่อนฮิมฝั่งน้ำเมียเอิ้นสั่งยังผัว อ้ายครู อ้ายครูเอย เจ้าไปเถิงเมืองไทยแล้วให้ต่าวคืนมาบ้าง   สิบปีน้องกะสิถ่า ซาวพรรษาน้องสิอยู่ อ้ายครูเอย “คึดเถิงลูกผู้ฮู้อ้ายครูอุ้มบ่อยากวางแหน่เด้อ” พอสั่งแล้วเฮือกะข่วมโขงมา น้ำครูไทยไหลห่วงอาลัยนำน้อง สาธุ สาธุ เด้อ! พระอินทร์อยู่ฟ้าตาทิพย์เห็นประจักษ์ ขอให้มาพิทักษ์ลูกเมียของผู้ข่าให้มีความสุขล้นโพยภัยไกลห่าง ใหญ่เป็นท้าวเป็นนางเด้ออี่หล้า เมืองฟ้าให้เบิ่งแญง

         “ปีล่วงพ้นความหม่นหมองใจ” เกิดเป็นใสฮอง  ฮองดั่งทองในเบ้า “มะณีทอง”นางเข้าเมืองไทยตามหาพ่อ แต่กะหาบ่พ้อ ตายแล้วตั้งแต่นาน นางเลยทำบุญสร้างอานิสงน์ยู้ส่ง

            พ่อคำเอย ให้เจ้าจงดำรงอยู่ชั้นสวรรค์รื่นหมื่นปีพ่อเอย  “มะณีทอง”ผู้นี้สาวลูกกตัญญู หาคนคือเปรียบนางบ่มีได้ นอกจากทำบุญสร้างแทนคุณผู้เป็นพ่อ  เธอกะยังติดต่อให้ไทย-ลาวพี่น้องสองข้างฝั่งโขงมาพบ

พ้อติดต่อสัมพันธ์  “ฮักกันคือหน่วยแตง แพงกันปานหน่วยตา เผิ่งพากันได้” “มธณีทอง” ทำให้ไทยลาวน้องพี่ สามัคคีเลิศล้ำ สองน้ำตะฝั่งโขง

    ตาขออวยพรให้คนดีศรีสง่า การค้าขายให้เจ้าได้กำไรแน่นแก่นถง คึดอี่หยังให้ได้สมดั่งใจปอง คึดเอาเงิน เอาทองหลั่งมาคือน้ำ โรคาฮ้ายอันตรายให้หนีผ่าน ทั้งครอบครัวบริวาร สุขสำราญราบรื่น ยืนมั่นหมื่นปีเด้อ หล่าเอยฯ

                   ครูพรมมา   พลศักดิ์

                  ๒ มกราคม ๒๕๕๖

ตำนานรักขุนลูนางอั้ว

ภาษาอีสาน

         สวัสดีพี่น้อง พ่อแม่อาวอา   คณุพรมมา คนเขียนเหลี่ยนปานวงล้อ

จับดินสอมาแต้มเขียนไปไหว่ๆ   ครูพรมมาคนไค หากผมผิดพลาดบ้าง อภัยข่อยอย่าหว่ากันเด้อพี่น้อง  หากมีดีอยู่บ้างยกให้หมู่ทั้งหลาย 

ลูกละทายทุกคนฮับเอาให้เต็มที่  ผมยินดียอให้บ่เอาเลยนำหมู่ ฟังเดอ เรื่องขุนลูและอั้ว ฟังแล้วแห่งหม่วนแฮง

          อีสานก้ำเมืองภูเขาเก้าหลั่น  สหัสขันธ์ กาฬสินธิ์ถิ่นบ้านภูพานตั้งตระหง่านงาม  แต่ก่อนพุ้นเป็นป่าหนาฮก  บ่มีคนไปถางป่ามุงคุงฟ้า  มีเสือช้างกวางฟานเต้นแหล่น  แดนพงไพรใหญ่ล้ำคนย่ายบ่อยากไป

           ยังมีมานพน้อยนามชื่อ”ขุนลู”  บาคานงามดั่งเทวดาปั้น  เกิดเป็นพงษ์พันธ์เชื้อชายไทยใจใหญ่   ขี่ม้าไปเที่ยวบ้านแถวนั้น เบิ่งผู้สาว

           เลยเหล่าไปพบพ้อสามหนึ่งงามแฮง ปากกะแดงตากะคมผมดกดำดั่งขนกาน้ำ  ยามเมื่อนางเดินย้ายคือหงส์เหมราช  ผิวสะอาดคือหยวกกล้วยสวยแท้แหน่นอน   ชื่อหว่าอั้วงามดั่งสาวสวรรค์ ไผมาเห็นกะเบิ่งนาง

จนตาค้าง   ตั้งแต่คนเมาเหล้ามาเห็นกะยังส่วง  พ่อทิดจวงอ้ายทิดจ้อนเห็นอั้วอยากนบนางพุ้นแหล่ว   บ่าวพ่อฮ้างหนุ่มแห่มามัก   นางบ่หัวซาไผอยู่เดียวนอนแล้ง  พ่อแม่แพงคือแก้วดวงตาคือหว่า  ปรารถนาอยากได้หาให้สู่แนว

         ขุนลู ท้าวมักอั้วตั้งแต่ข่ามาเห็น จักหว่าเวรกรรมหยังจั่งมักนางเหลือล้น  คันบ่เห็นสาวอั้วอำคางามสง่า ย่านชีวามอดม้วยตายแท้แหน่นอน  ขุนลูขี่บักจ้อนแดดอ่อนไปหานาง คิดคะนิงคีงบางห่วงนำแต่นางอั้ว ผูกม้าไว้แคมสวนป่าบักถั่ว  ผูกม้าไว้แคมฮั้วป่าบักเยา  สาวบ่าวเว่าจาต่อรำพัน ต่างกะสัญญากันวหว่าวิตายแทนได้  บ่มีแนวมากั้นสองเฮาไว้ให่ห่าง  ตายกะส่าง ขอให้เฮาฮักมั่นยืนยั้งหมื่นปี เด้ออั้ว

         พ่อแม่ท้าวบาบ่าวขุนหลู    ซังแฮงหลายฝ่ายทางนางอั้ว เถียงกันมั่วหลายคำก้ำเกี่ยง  ยากแต่นำหมากเกลี้ยงเถียงเว่าอยู่บ่เซา  กูกะเว่ามึงกะเว่าตัดขาดสัมพันธ์ เลยเกิดหมองใจกันตั้งแต่ปางหลังพุ้น  ผู้เกิดลุนพลอยซ้ำผลกรรมนำส่ง ย้อนผู้เฒ่าขี้โกง ลูกหลานจั่งได้ม้างวางไว้ได้แค่ตาย

     คึดผู้เดียวหมองตรองผู้เดียวเศร้า น้ำตาไหลลงหย่าวๆ

บ่าวขุนลูเอย   พ่อแม่กีดกันไว้ให้ห่างสอง  อยากไปเห็นหน้าน้องอั้วข่าตาคม....

เด้หล่า   เห็นแต่ลมพานพัดอยากสั่งลมไปหาน้อง    เจ็บกระดองใจล้นทุรนอุกอั่ง เซ้ากะส่างแลงกะส่างขุนลูมีแต่ไห้น้ำตาย้อยใส่แต่หมอน

         บัดนี้ขอกล่าวย้อนกลับกล่าวกลอนแถลง ขุนลูแทงคอตายเพราะมักหลายนางอั้ว เลือดไหลแดงลงพื้นเต็มเฮือนไหลลงป่อง  พวกซุมแซงพี่น้องโฮไห้ใส่กัน

           ส่าลือไปฮอดบ้านอั้วข่าตาคม  นางเป็นลมหลายยกเป่าน้ำคืนมาได้  นางเสียใจนางฮ้องประคองใจไว้บ่อยู่  “ไปก่อนเด้อขุนลู อั้วสิตามพี่แท้ ไปคอยน้องอยู่สวรรค์ เด้ออ้าย”

            แลงค่ำค่อยแดดอ่อนคนเผลอ อั้วบายเอาไหมคอคำแม่นางเข็นไว้  หลบตัวลี้หนีไปเข้าในป่า  เถิงจวงจันทน์ห่มไม้พะนางได้นั่งลง  นางคึดได้จั่งเอิ้นสั่งยังกา สะกุนาเอย ให้เจ้าบินไปหาบอกแม่กูให้พอฮู้  บอกหว่ากูนางอั้วตายบนต้นไม้ใหญ่ ชาตินี้เหมิดอาลัยขอตามไปอยู่คู่อ้ายขุนลูท้าวอยู่สวรรค์

             แม่อั้วนั้นฮู฿ข่าวนำกา พากันมาเอาศพอยู่จวงจันทน์ไม้  เฒ่ากะเฮฮนไห้ดวงใจกะหดหู่   เพราะชุนลูบ่าวท้าว สาวอั้วจั่งค่อยตาย

              พระยาอินทร์อยู่ฟ้าตาทิพย์เห็นประจักษ์ เห็นใจในความฮักหนุ่มขุนลูอั้ว  เลยประทานพรให้สีแดงแสงหุ่ง  เลือดขุนลูแดงอยู่ฟ้าพาให้ขุ่นมัว  ส่วนอั้วน้อยข่าอำ

คาตายไปเป็นมาลากลิ่นหอมซอมพั้ว ตายเป็นดอกนางอั้วคนอีสานเขาหว่า เป็นประหลาดได้ไหมน้อยผูกอยู่คอ เคยพบพ้อเกิดอยู่ตีนเขา เดี๋ยวนี้หาเหมิดปีกะบ่มีคนพ้อ แต่กะพอหาได้ในดงพงป่า  หลายพันปีแล้วนาตั้งแต่มีดอกอั้วเคียงคู่อยู่อีสาน

        ลือไปเจ็ดย่านน้ำในเรื่องรักขุนลู  กับคนงามเขี่ยมคมคุณอั้ว เป็นพยานให้อีสานไทยได้จำจื่อ  พวกซุมสาวบ่าวจ้อยฟังไว้ให้หิ่นตรอง ขุนลูมักอี่น้องอั้วข่าอำคา แหม่นสิมรณาตายกะชื่อยังฝังไว้ ประทับใจคนหลายล้านอีสานเฮาตั้งแต่ปู่  นางอั้วและขุนลู แม้นสิตายมอดม้วยคนย่องทั่วอีสาน.....เด้อพี่น้องฯ

                                                                      ครูพรมมา พลศักดิ์ / ประพันธ์

 

                                                                       ๑๘ มิถุนายน ๒๕๔๕







Copyright © 2010 All Rights Reserved.