คำสูตรขวัญคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงาน
ตามประเพณีอีสาน
เมื่อหนุ่มสาวพอใจรักใคร่ตกลงปลงใจที่จะร่วมเริ่มชีวิตคู่ ตามประเพณีอีสานฝ่ายชายก็จะให้เถ้าแก่ไปสู่ขอกับเถ้าแก่ญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงตกลงเรื่องสินสอดทองมั่นและตกลงในวันจัดงานแต่งงานให้คู่บ่าวสาว ซึ่งเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ก่อร่างสร้างครอบครัวใหม่ ซึ่งการจัดงานแต่งงานก็มีจุดประสงค์ที่สำคัญก็คือเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับคู่บ่าวสาว เป็นการอบรมสั่งสอน และเป็นการแนะนำให้คู่บ่าวได้รู้จักกับญาติพี่น้องของแต่ฝ่ายเพื่อจะได้รู้ว่ามีความเกี่ยวดองเป็นญาติพี่น้อง ตลอดจนเป็นการอบรมสั่งสอนให้ข้อคิดกับคู่บ่าวให้รู้จักแนวปฏิบัติตนเกี่ยวกับการดำรงชีวิตคู่เพื่อให้มีความมั่นคงในชีวิตไม่ให้มีการหย่าร้าง ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม
พอตกลงกำหนดวันได้เรียบร้อยพอถึงวันงานก็จะเชิญญาติพี่น้องมาร่วมงาน มีการเลี้ยงต้อนรับญาติและพิธีที่ถือว่าสำคัญก็คือพิธีสู่ขวัญหรือพิธีบายศรีให้กับคู่บ่าวสาว ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็จะมีก็จะทำพานบายศรี ที่เรียกว่า “พาขวัญ” เจ้าบ่าวก็จะทำพานบายศรีและทำพิธีสู่ขวัญที่บ้านของตนเองก่อนซึ่งเรียกกันว่าสู่ขวัญน้อย ซึ่งมีจุดประสงค์ก็คือญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวจะได้แนะนำพิธีการดำรงตนให้มีภาวะผู้นำเพราะจะไปเป็นผู้นำของครอบครัวจะต้องแยกครอบครัวออกจากพ่อแม่ของตนไปอยู่กับฝ่ายภรรยา และเป็นครอบครัวของตนเองในที่สุดซึ่งถือว่าฝ่ายชายเป็นหลักของครอบครัวจึงมีการอบรมสั่งสอนเพื่อเตรียมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ส่วนฝ่ายหญิงจะไม่มีการสู่ขวัญน้อยจะรอสู่ขวัญพร้อมกับเจ้าบ่าวที่จะแห่นำเจ้าบ่าวมาบ้านเจ้าสาว พอถึงบ้านเจ้าสาวญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวก็จะนำฝ้ายไปคล้องข้อมือซึ่งเป็นการรับขวัญเข้ามาในบ้านของเจ้าสาวซึ่งได้เตรียมสถานที่ไว้เพื่อจะทำพิธีสู่ขวัญซึ่งจะมีพาขวัญวางไว้รอและมีญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวเตรียมรอรับอยู่
พอนำเจ้าบ่าวมาถึงก็จะนำพาขวัญฝ่ายเจ้ามาตั้งเคียงคู่กัน จากนั้นฝ่ายญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวก็จะนำเอาฝ้ายไปผูกข้อมือเจ้าสาวซึ่งจะรออยู่ในห้องหอที่เตรียมไว้ให้กับคู่บ่าวสาวนั่นเอง ซึ่งชาวอีสานเรียกห้องนี้ว่า “ส่วม” ออกมานั่งเคียงคู่กับเจ้าบ่าว ฝ่ายญาติของฝ่ายชายก็จะนำขันดอกไม้ ขันหมาก ขันเงินสินสอดเข้าไปมอบให้กับเจ้าโคตรก็คือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เพื่อตรวจนับให้เป็นไปตามข้อตกลงกันเอาไว้ เมื่อเจ้าโคตรฝ่ายหญิงตรวจนับเห็นว่าเรียบร้อยดีทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลง บางแห่งก็จะมีการให้เจ้าบ่าวสวมสร้อยคอสวมแหวนให้กับเจ้าสาว ส่วนเงินสินสอดนั้นเจ้าโคตรเมื่อตรวจเสร็จก็จะมอบให้กับแม่ของเจ้าสาวให้นำไปเก็บไว้ก่อนที่จะนำคู่บ่าวสาวเข้าพิธีการสู่ขวัญซึ่งจะเป็นหน้าที่ของหมอสูตรขวัญที่เรียกว่า”พราหมณ์”เพื่อกระทำพิธีในลำดับต่อไป ส่วนจะให้คู่บ่าวสาวนั่งหันหน้าไปทางทิศใดนั้นแล้วฤกษ์ยามที่พราหมณ์เป็นผู้กำหนด เมื่อเจ้าบ่าวคู่เจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเข้านั่งเคียงคู่กันหันหน้าเข้าพาขวัญหมอสูตรขวัญก็จะเริ่มพิธีกรรม มีการจุดเทียน กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย ตามขั้นตอนของแต่ละท้องถิ่นและสุดท้ายก็จะมีการสูตรขวัญให้กับคู่บ่าวสาว
หลังจากนั้นก็จะพิธีผูกแขนให้กับคู่บ่าวสาวโดยพราหมณ์จะเป็นคนผูกแขนคู่บ่าวสาวให้ก่อนคนอื่นๆและพิธีการป้อนไข่ของคู่บ่าวสาวตามด้วยมีพิธีขอขมาหรทอสมมาญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวเพื่อเป็นการแนะนำให้เจ้าบ่าวได้รู้จักญาติพี่น้อง ต่อจากนั้นก็จะมีญาติผู้ใหญ่นำคู่บ่าวสาวเข้าสู่ห้องหอลำดับต่อไป
คำสูตรขวัญ (ออกเสียงทำนองอีสานในการร่าย)
ศรีศรีสิทธิพระพร บวรวิเศษ อดุลเดชเตโช อาวาหะวิวาโห มหาชโยมังคลาดิเรก อเนกด้วยราศี วันนี้แหม่นวันดี วันดิถีอุตตะโชค โตกอันนี้แหม่นโตกไม้จันทน์ ขันอันนี้แหม่นขันไม้แก้ว เฒ่าแก่ปูนแต่งแล้วจึงให้แต่งพาขวัญ อยู่เป็นถันสอนลอนส้ายหล้าย มีทั้งฝ้ายผูกแขน มีทั้งแหวนใสก้อย ปัดน้อยสร้องสังวาล อาหารหลายเหลือมาก สัพพะภาพพร้อมทุกอัน มีทั้งพลูพันแลหมากจีบ พร้าวรางฮีบเดาดา มาลาหอมฮ่วงเฮ้า เหล้าก้องน้อยใส่พาขวัญ ส่อยกันมามวลเต้า ข้าวต้มก้วยบาศรี มีทั้งไข่หน่วยดีเกลี้ยงปลอด พระยอดไท้ราชา พระองค์เสด็จมาแต่เมืองฟ้า มาก่อหน้าชื่อขุนศรี ขุนพันโฉมศรีงามสะอาด
เผิ่นจึ่งมีราชอาญา ประกาศิตพระพรบวรวิเศษ อดิเรกเตโชว่าชะยะตุภะวัง ชะยะมังคะลังดังนี้เป็นเค้า ปรากฏเค้าเป็นปี สมฤทธีชัยยะโชค ยศะโยศเป็นหมิ่งเมียขวัญ ตามกระบวนโบราณแต่งไว้ ขันดอกไม้ยอขึ้นเพียงตา ขันสมมาลุงตาเจ้าโคตร โผดใส่ไว้เงินขาว ลูกสาวกกสาวกลางแลสาวหล้า เผิ่นคาดว่ามวลมีมากบ่ยากแค้นดีหลี ปุนแปลงดีพ่อแม่ ทั้งเฒ่าแก่และตายาย ฝนฮวยฮำปีใหม่ ฟ้าฮ้องฮ่ำเดือนสาม ฝูงบ่าวฮามมาโฮมนางงามค่ากว้าง บ่ให้ฮ้างเป็นสอง ขอเป็นดองฮักหยิ่ง ลูกแก้วกิ่งยังประสงค์ ฝูงวงศาตายายเบื้อปู่ เจ้าฮู้แล้วตกแต่งปุนแปลง แพงคำฮักลูกแก้ว ปุนแต่งแล้วจึ่งยอมา มีทั้งหมากอัมพาฮ่วงเฮ้า เครื่องฮับเจ้าเหลือหลาย ทั้งตายายแม่พ่อ เฒ่าแก่พร้อมสวาวบ่าวนงฮาม มาส่อยยอยพาขวัญเบื้อซ้ายอยู่ลีเลียน เวียนซ้ายแลเวียนขวา นั้นแหม่นซายโถงแจกเหล้า ฝูงผู้เฒ่านั่งอยู่ทางบน บัดนี้ข้าจักเชิญเอาขวัญยัวเจ้า ให้มาเข้าเนื้อมาอยู่เอื้อในคีง ขวัญจักเชิญเอาขวัญนางงามให้เข้มาเทียมคู่ ทั้งขวัญเจ้าผู้เป็นผัว มาเยอขวัญเอย......(ทุกคนในพิเรียกเรียกขวัยพร้อมกันว่า “มาเด้อขวัญเอย” คนเฒ่าคนแก่คนนหึ่งนำฝ้ายออกมาจากพาขวัญนำไปวางพาดที่แขนคู่บาวสาวและเพื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยู่ในพาขวัญโดยใช้มือขวาจับพาขวัญ) ..... ให้เจ้าเชชมขวัญคู่แก้ว มาฮอดแล้วทัดดอกขุมพูม บานจูมแหม่นดอกคัดเค้า ทัดดอกไม้เข้ากล่อมตา เกศางามตั้งไหล่ เทียมท้าวใหม่วันดี ขวัญโฉมศรีสองเจ้าขอให้มาอยู่เต้าในคีง มื้อนี้วันนี้ ขวัญแข่งมาอยู่แข่งลีลา ขวัญขาให้เข้ามาอยู่ขาลีล้าย
เจ้าอยู่ค่ายไสยา ยามคนมาหาญห้าว แหนแห่ท้าวบาคาน ในวันวาระชมชื่น แห่เจ้าขึ้นหานาง ตีนหัวหางครุฑนาค หลาวเหล็กหลากผีหลวง ในคลองคุณกล่าวไว้ ที่นั่งให้สมควร บรบวรณ์นำแต่งไว้ แปงให้เป็นคู่มานำลูกแก้ว พ่อเฒ่าแก่เข้าผูกแล้วให้เป็นคู่เทียมสอง ให้เจ้าปุนปองเป็นลูกพ่อ ปลูกไว้เป็นหน่อแทนเฮือน สองบุญเฮืองลูกหล้า ฮักเกิ่งหน้าเทียมกัน ข่อยจักเอิ้นเอาบาคานเข้ามาเทียมไหล่ละใหม่เนื้อผิวบาง สมนางงามอยู่ถ้า(รอ) อินทร์ฟากฟ้าปุนแปลง ให้เจ้มาถือเมียแพงเถิ่งเฒ่า ฮ้อยขวบเข้ามั่นยิ่งเทียระฆา ให้เจ้ามีบุตราหญิงชายอย่าน้อย ข้อยช่วงใช้พอแสน ของกับแนนให้เจ้ามีทุกสิ่ง ช้างม้าหมิ่งเงินคำ พระยาธรรมตนองอาจ อำนาจเดชกล้าลือชา ตามตำรากล่าวไว้ อินทร์ท้าวไท้ถวายพร เป็นคำสอนสั่งโลก โตกขันแก้วฮับพาขวัญ คือดั่งสาวสวรรค์มาตั้งแต่ง อินทร์ท้างแบ่งไกสร ดอกไม้ซอนแซมเกล้า ข้อยจักเชิญเอาขวัญเจ้าทั้งสอง มาเยอขวัญเอย (คนที่อยู่ในพิธีร้องเรียกขวัญว่า “มาเด้อขวัญเอย” คนเฒ่าคนแก่นำฝ้ายวางแขนเช่นเดิม)
ยามเมื่อตะวันคำลงลับป่าแซง ยามเมื่อตะวันแดงลงลับป่าไม้ ให้ขวัญนางมาเทียมนางอย่าช้า แม่เจ้าแอ้มถ้า(รอ)คอยหา นางธิดาบ้านเหนือมาคอยเบลิ่งหน้า เผิ้นส่าเจ้าบุญกว้างสู่ภาย ให้เจ้าเสวยงายพาขวัญแต่งไว้ ให้ได้ป้อนไข่พาขวัญเจ้าทั้งสอง ตามทำนองบูฮานแต่งไว้ หมอบอกไว้ว่ามื้อนี้วันนี้
ข้อยจักเอาสองศรีเฮียงหมอนซ้อนเสื่อ ให้เจ้าสืบเชื้อพ่อแม่แทนเฮือน เถิงวันปีเดือนฝนฮวยฮ้องฮ่ำ วันแปดค่ำให้เจ้าอยู่จำศีล สิบสี่สิบห้าค่ำให้เจ้ายินดีตักบาตร อย่าให้ขาเวลา ขวัญคิ้วให้มาอยู่คิ้วลีลา ขวัญตาให้มาอยู่ตายีแย้ม ขวัญแก้มแลขวัญคาง ขวัญแอวบางขวัญนมพร่ำพร้อม ขอให้มานั่งอ้อมอยู่พาขวัญ มาเยอขวัญเอย ( คนที่ร่วมพิธีร้องเรียกขวัญพร้อมกันเหมือนที่ผ่านมา คนที่นำฝ้ายพาดแขนก็ทำเหมือนเดิม) มื้อนี้แหม่นมื้อดี วันนี้แหม่นวันเฮ้า ผู้เฒ่าเกิดเป็นสาว ก็ว่ามื้อนี้วันนี้ นอนหลับได้เงินหมื่น ก็ว่ามื้อนี้วันนี้ นอนตื่นได้เงินแสน ก็ว่ามื้อนี้วันนี้ แขนท้าวก่ายแขนนาง ก็ว่ามื้อนี้วันนี้ ข้าวเต็มฉางล้นขื่อ ก็ว่ามื้อนี้วันนี้ สามวันให้แก้วมงคลมาถ้า(รอ) เจ้าเนอ ห้ามื้อให้เสื้อผ้าแผ่นผืนคำ มาหาเจ้าเนอ ทั้งสองโสภสจงอยู่สุขสบายพร่ำพร้อม ให้เจ้าอ่อนน้อยตั้งต่อเชยชม เจ้าเป็นเขยให้เจ้าทำใจกว้าง อย่าได้กล่าวอ้างสรรพสิ่งอันใด ไล่ไก่ให้ว่าโซ ไล่หมาให้เจ้าว่าเส๊ะ ไล่ควายให้เจ้าว่าฮือ เจ้าอย่าเตะเตี่ยวซุยซายต่อหน้าเจ้าโคตร อย่าปากโพดพางาม ให้มีใจเลื่อมใสต่อนางนงคราญแก่นไท้ เจ้าเป็นลูกสะใภ้ให้ฮักแม่ผัว อย่าได้เว้านัวนัวขวัญผัวเชิงชู้ เจ้าผู้ฮู้นักปราชญ์?ฟังธรรม เถิงคราวแลงอย่าได้เถี่ยวเล่นยามค่ำ เฮือนหลังต่ำนั่นแหม่นฮ์อนอาว ชายคาสูงหลังใหญ่ คอนถอดใส่ป้านลมหลังกลมนั้นแหม่นเฮือนพ่อ เกยหลังต่อหลังสูง นั้นแหม่นเฮือนลุงเฮือนป้า หลังหน้ากว้างดั้งใส่แขนนางลายลวงกลางฮูปนาค แป้นพื้นฮาบมุงดินขอ มีหอเย็นหลังสูงพร้อมพาด โฮงม้าอาดแขวนหิ่งอาชาไนย ไหในเฮือนแอ่งน้ำบ่แก้ว หลังนั้นแหล่วพ่อแม่มอบให้ลูกทั้งสอง ให้เจ้าปุนปองกินทานอย่าไฮ้ ให้เจ้าสืบส้างยิ่งเทียระฆา ได้กินซิ้นให้ส่งฮือนอา ได้กินปลาให้ส่งเฮือนย่า คุณย่าเผิ่นส่งเจ้าบุญกว้างสู่ภาย มีลูกชายให้ได้ผู้ประเสริฐ ให้เจ้าได้ลูกแก้วเกิดฮ่วมอุทร ให้เจ้าฟังคำสอนตายายพ่อแม่ ให้เจ้าแผ่กว้างพี่น้องวงศา ตาเบื้อซ้ายเจ้าอย่าหล่ำดูชาย ตาเบื้องขวาเจ้าอย่าแลดูชู้ เถิงยามแลงให้เจ้าหาพาข้าว เถิงยามเช้าให้เจ้าแต่งพางาย อย่าได้นอนหลับดื่นสายผิดฮีต ให้เจ้าจีบหมากไว้พร้อมกอกยาพัน เจ้ามีผัวให้ถิ้มใจเก่า เหล้าไฮน้อยให้ยายไพร่ เหล้าไฮใหญ่ให้ยายขุน มื้อมุงคลของเจ้านางแก้ว หมอกล่างแล้วซ้ำตื่มอวยพร เป็นคำสอนพระอินทร์สั่งโลก เจ้ามีโชคแล้วให้เจ้าค่อยเพียรเอา มาเยอขวัญเอย....(คนในพิธีปฏิบัติเหมือนเดิม เรียกขวัญพร้อมกัน) ขวัญผัวให้มาชมเมียนีหน่ำ เถิงยามค่ำให้เจ้าเข้าบ่อนนอน หัวเคียงหมอนให้เจ้าฮักห่อ ให้เจ้าตั้งใจต่อกระทำความดี ความสุขมีเพียงพอบ่น้อย แลงค่ำค้อยจงอยู่สวัสดี ก็ข้าเทอญ ชะยะตุ ภะวัง ชะยะมังคะลัง ชะยะมหามุงคุล จัตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลังฯ
คำสูตรขวัญน้อย
การสู่ขวัญน้อยเป็นการสู่ขวัญให้กับเจ้าบ่าวที่บ้านของเจ้าบ่าว ก่อนที่จะแห่เจ้าบ่าวยังบ้านเจ้าสาวเพื่อทำพิธีสู่ขวัญร่วมกันระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่อไป
คำสูตรขวัญ
ศรีศรีสวันนี้เป็นวันดี วันนี้วันดิถีอมุตตมะโชค โตกอันนี้แหม่นโตกไม้จันทน์ ขันอันนี้แหม่นขันไม้แก้ว ขุนนางเผิ่นตกแต่งแล้ว จึงให้ข้อยยกมาเอาขวัญว่า เอหิ ตาตะ ปิยะ ปุตตะ ปูเรถะ ปาระมิง หะทะยัง เม ภิสัญเจถะ กะโรถะ วะจะนัง มะมะ อาคัจฉาหิ ดังนี้เป็นเค้า ขวัยเจ้าเข้ามาวันนี้
ข้จักเว้าภาคพื้นดารา แต่คราวแม่ถทอพาปฏิสนธิฮ่วมห้อง ลงสู่ท้องแม่มารดา ครั้นนานมาได้สืบเดือนล่วงล้ำ แม่เจ้าซ้ำสะเทือนว่าเจ็บปวดท้อง ฝูงพี่น้แองจึ่งได้แล่นมาหา ทังตายายเผิ่นกะขึ้นมาหล่ำ แม่แจ่มเจ็บอยู่ฮีฮักฮีฮ่อน นอนแล้วซ้ำพัดลุก แม่เจ้าก็เจ็บซีซุกซีเซื่อม ฮ้องไห้แล้วกลิ้งเกลือกไปมา เหมือนดังชีวาจักขาด เป็นดังจักมรณาตายไป แม่เจ้าทนบ่ได้ จึงม่อยไปหน่อยหนึ่ง บ่มีนานแม่เจ้าประสูติเจ้าหม้มอุทร แหม่นผู้หญิงเจ้าก็นอนหงาย แหม่นผู้ชายเจ้าก็นอนคว่ำ แม่เจ้าซ้ำเป็นบ้าอยู่งมงัว บางผ่องมือควาหาสายแห่ บ้างก็แผ่สายบือ เอามือโจมลูกล้างแล้วจึงโจมเข้าใส่ด้งกว้าง ไปผอกผีพายไปผายผีป่า นกเค้ามันฮ้องกู่หูก กูกเอาขวัญว่า กู่ฮูกกู กู่ฮูกกู ถ้าแหม่นลูกสูเอาสามื้อนี้ กลายมื้อนี้วันหน้าแหม่นลูกกู แม่เจ้าจึ่งเลี้ยงแลดู แม่เจ้าจึ่งอุ้มชูใส่อู่ แม่เจ้าจึ่ง
อยู่ในไฟ ไกวแกว่งไปมาอยู่ติ่งต้อยติ่งต้อย แม่เจ้ากินน้ำฮ้อนปากเปื่อยโพงสุก ไฟแฮ่งลุกแม่เจ้าแฮ่งหนหวย อรทวยหัวใจไกลได้ด่าป้อย ขวัญอ่อนน้อยคำหล้าอย่าได้วอน เจ้าจึ่งนอนอยู่อู่สายฝ้าย เจ้าจึ่งยักย้ายสู่อู่สายไหม พ่อแม่ยังจงใจฮักห่อ อันนี้หากแหม่นธรรมขาติพ่อบิดาเจ้าแล้ว อันหากแหม่นธรรมชาติแม่คีงมารดาเจ้าแล้ว นมแม่เจ้าฮ้อยแม่คอยให้เต้ากินขนม ผ้าทั้งผืนแม่เจ้าห่มเจ้าไว้ เดิ้กซักไซ้เจ้าจึ่งตื่นกินนม แม่ยังชมบ่เปิด แม่กำเนิดจึงหน่ายจึงชัง เฮ็ดลังตังเขาจึ่งได้ไล่ฆ่าเจ้ามาแล้ว
บัดนี้ จึ่งได้มาเกิดเป็นลูกแก้ว เจ้าพ่อแม่บุญเฮืองทองเหลืองสีละไหม่หน้า คนเก่ากล้าแหม่นหนุมาน คนกล้าหาญแหม่นสังคีพ ให้มาคูณมายอเจ้าเดอ ให้ฮีบนำเอาขวัญมาอย่าได้เที่ยว พ่อแม่เจ้ายังเหนี่ยววอนหา ทั้งตายายและปู่ย่า พร้อมกันเอิ้นซีซว่าเอาขวัญ ว่า เอหิ ขวัยเจ้าจงมา ตาตะ ดูราลูกฮักแม่ อัชชะในวันนี้แหม่นวันดี วันมีศรีเค้าครึ่น เป็นวันหลื่นผาบแพ้ศัตรู หมอฮูฮาว่าสเป็นวันโชค วันหายโศกสัพพะโรคา ขวัญจงมาเจริญศรีสมบัติ ตราบต่อเท่าเถิงชั่วชีวัน พุ้นเยอ .....ฝนตกเจ้าอย่าได้กืนน้ำฮอยกระฮอก แดดออกเจ้าอย่าได้กินน้ำฮอยงัวฮอยควย(ควาย) พ่อแม่เจ้ายังขวนขวายมักใคร่ ใหญ่มาแล้วพ่อแม่จักสอน ให้เจ้านอนเจ้าก็นอน พ่อแม่เจ้าสอนให้ฮู้เจ้าก็ฮู้ อย่าได้เสียแฮงแม่เจ้าเลี้ยง นอนแคงขดคีคู้ ให้เจ้าได้ฮู้ดูดกินนม คีงเจ้ากลมไผเห็นก็คอยส่อง เนื้อเจ้าผ่องไผเห็นก็อยากแยง เถิงยามแลงไผก็อยากพ้อหน้า เถิงฤดูฟ้าเฮ้าฮ้องสังขารปีใหม่มาแล้ว เดือนยี่ดอกฮังบาน ตระการงามช่วงโชติ มีทังดอกแก้วโกฏิยางหลวง ทังดอกจวงจันทร์สะภู่ ทังหมู่สารพี จำปีจำปาการเกด มีทังดอกยางเทศพร้อมอาฮวน ลำดวยทังดอกแก้ว บานบ่แล้วแหม่นดอกสามปี บานมีสีเม็งมาส สะพาดพร้อมนานา แม่เจ้าจึ่งชวนสาวฮามมาฮอดฮ้อย ฝูงหมู่บ่าวสาวส่ำน้อยแล่นอยู่แซวแซว แล้วจึ่งเอามายายเป็นแถวเป็นถ่อง เอามาใส่กระหย่องสู่ขวัญน้อย ทั้งเสื้อลายผอกผ่อยแม่เจ้าห่มเอาขวัญ ว่า เอหิ ตาตะ ปิยะ ปุตตะ อาคัจฉาหิ.....เจ้าจงมาอยู่ดีในบุรีแลปราสาท เป็นเจ้าอาจพันปี ความชั่วจงให้หนีคลาดแคล้ว หายโศกแล้วเทียระฆา ความเจ็บตาแลปวดท้อง โพพยาธิ์ข้องอย่าได้มี จงให้นอนหลับดีอยู่ในห้อง ประเทศท้องที่เฮือนซาน ในเบิกบานเท่าเฒ่า ตราบต่อเท่าเถิงพันปี สมบัติหลั่งไหลเข้า ให้เจ้ามีเฮิอนซาน แปลงสถานใหญ่กว้าง ทั้งปวงญาติมาโฮม ซื่นซมแซวเสียงหม่วน เจ้าอย่าด่วนนอนใจ ทำอันได๋ให้คึดฮ่ำ หน่ำหน่ำพร้อมพิจารณ์ศีลทานทำอย่าขาด ตักบาตรพร้อมจังหัน เถิงวันศีลให้ฮ่ำฮู้ ให้อุตส่ห์สู่หมั่นภาวนา จัตตาโรธัมมา วุฒิธรรมทั้งสี่ประการ คือ ยวัณณะสุขะพละ ขอให้อายุโสดยืยยาว วัณณะพราวผิวผ่อง สีเนื้อค่องเหลือหลาย มีความสุขสบายบ่เศร้า พละเข้ากำลังแฮง ความแข็งแฮงอย่าแก่เฒ่า ตราบต่อเท่าชั่วชีวา พันวัสสาเฮือฮอด ญาณยอดแก้วไตรสิกขา อโรคาเฮืองฮาบ ผายผาบแพ้(ชนะ)หมู่มายา ขอให้มียศบรรดาศักดิ์อันล้ำเลิศ สมบัติเกิดอนันตัง สักโกสักยังองอาจ อย่าคลาดแคล้วราศี จงให้อย่สวัสดีเถิงเฒ่า ตราบต่อเท่านีรพานเป็นสถานอันวิเศษ ด้วยเดชพระรัตนตนัย สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สทาโสถตี ภวันตุเต .ฯ
คัดจาก ประมวลคำสู่ขวัญ รวบรวมชำระโดย พระธรรมราชานุวัตร (แก้ว อุทุมมาลา)
อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครพนม
สูตรขวนหลุ่มสูตรขวนเทิง
สูตรขวนหลุ่ม สูตรขวนเทิง (สู่ขวัญลุ่ม สู่ขวัญเทิง) แท้จริงคือสูตรขวนน้อยนั่นเอง เป็น ธรรมเนียมที่ปฏิบัติไม่เหมือนกัน บางท้องที่ทำ บางท้องที่ไม่ทำ แท้จริงสูตรขวนหลุ่มสูตรขวนเทิงนี้ นิยมทำกันก่อนสู่ขวัญจริง (อาจใช้การทำวิดฟายทดแทนได้) ส่วนความหมายในการทำมีดังนี้
สูตรขวนหลุ่ม เป็นความเข้าใจของนักปราชญ์โบราณที่ต้องการอยากจะเรียกขวัญจาก จุดกำเนิดของผู้ที่มาจากสัตว์ดิรัจฉาน หรือมนุษย์มาเกิด ให้มาส่งเสริมอุปถัมภ์ให้มีความอยู่เย็น เป็นสุข อีกอย่างหนึ่งก็เป็นการอัญเชิญเทพเบื้องล่างมีแม่เจ้าธรณี ท้าวจตุโลกบาล และภุมเทวดา เป็นต้น มาให้พรแก่ผู้รับการสู่ขวัญ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเสริมขวัญเบื้องล่างด้วย ที่ว่า "ขวัญ แข่งและขวัญขา ขวัญฝ่าตีนและตุ่มฆ้อง ฯลฯ" นั้น
สูตรขวนเทิง เป็นการเรียกขวัญจากจุดกำเนิดของผู้รับการสู่ขวัญ ผู้ที่มาจากสวรรค์ เบื้องบนมาเกิดเป็นมนุษย์ ให้มาส่งเสริมอุปถัมภ์ ให้ผู้รับการสู่ขวัญนั้นอยู่เย็นเป็นสุข อีกอย่างหนึ่ง ก็เป็นการอัญเชิญเทพเจ้าเบื้องบนมาอวยชัยให้พรผู้รับการสู่ขวัญ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเสริม ขวัญเบื้องบนด้วย ที่ว่า "ขวัญหูและขวัญตา ขวัญจอมผมและขวัญคิ้ว ฯลฯ" นั้น
ให้พราหมณ์สวดคาถาสูตรขวนเทิง (บน) ตอนสั่งให้ผู้รับการสู่ขวัญจุดเทียนบนยอด พาขวัญ และพราหมณ์สวดคาถาสูตรขวนหลุ่ม (ล่าง) ตอนตนเอง (พราหมณ์) จุดธูปและเทียน ก่อนสูตรขวน จากนั้นจึงสูตรขวนหลุ่มเทิง (ล่างบน) และสูตรขวนจริงต่อไป
คาถาสูตรขวัญเทิง (บน)
นะโม เม พุทธะเตชะสา ระตะนัตตะยะธัมมิกา เตชะปะสิทธิปะสีเทวา ณารายะณะ ปะระเมศะวะรา สิทธิพรัมหมา จะ อินทา จะตุโลกา คัมภีระรักขะกา พรัมหมะ โลกะเทวา สัคคะ เทวา อากาสะเทวา สะทา รักขันตุ โว สัพพะโสตถี จะ ภะวันตุ โว
คาถาสูตรขวัญลุ่ม (ล่าง)
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะ โรคะ โสกุปัททะวะทุกขะ โทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะ สังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา อากาสะ ปัพพะตะวะนะภูมิคังคา มะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ
บทสูตรขวัญลุ่มเทิง
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี ศรี ศรี วันนี้แม่นวันเฮ้าหมอเฒ่าว่าวันดี วันสิทธิ อะมุตตะโชค ตกแต่งพาขวัญ แล้วจึงได้สูตรเชิญขวัญว่า มาเยอ ขวัญเอย ขวัญ 32 ขวัญ ให้เจ้ามาเฮ้า 92 ขวัญ ให้เจ้ามาโฮมมาสู่สมในเนื้อ มาสืบเชื้อในคีง ผ้าผืนลายเฝือเจ้าก็มี เสื่อหลากเหลื่อมลายคำก็มี ของ กินนำคือไข่ต้มก็มี หมากส้มผลผลาก็มี เหล้ายาสุราและกล้วยอ้อยก็มี สังวาลสร้อยเครื่องธะรงก็มี แหวนธำมะโฮงสุดสอดก้อยก็มี ของเพิงใจมีหลายหลาก ทั้งเหมี่ยงหมากเคี้ยวแดง ๆ ทั้งมันแซง และมันอ้อน กล้วยอ้อยก้อนวางเป็นถัน น้ำมันจันทร์หอมลูบไล้ มีทั้งฮวดดอกไม้สุบเกล้าเกศา มีทั้ง ดวงมาลาหอมห่วงเฮ้า มีทั้งดอกคัดเค้าบานจูมจี ตกแต่งดีจึงได้เชิญขวัญเจ้า
หมอเฒ่าเอิ้นจ้อย ๆ ขวัญน้อยให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหัวให้มาอยู่หัวอย่าละ ขวัญตาให้มาอยู่ตาอย่าพราก ขวัญปากให้มาอยู่ปากอย่าหนี ขวัญเกศีเกษเกล้า ตั้งแต่เท้าฮอด จอมผม จงมาชมของใหม่ ขวัญไหล่และตากลม มาเชยชมอยู่ในเนื้อ มาอยู่เฮื้อในคีง ทั้งขวัญตีน และขวัญมือ ขวัญสายบือ (สะดือ) และท้องน้อย อย่าคลาดคล้อยให้มาอยู่ประจำโต ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญนมให้มาอยู่นมสองเต้า ขวัญเกล้าให้มาอยู่เกล้าเกศา ขวัญขาให้มาอยู่ขาแหล่ง แหง่ง ขวัญแข่งให้มาอยู่แข่งละงอ ขวัญคอให้มาอยู่คอกลมป้อง ขวัญท้องและขวัญคาง ขวัญแอว บางคิ้วก่อง ขวัญทุกห้องในตนว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาอยู่ในสกลกายตราบต่อเท่า อายุเจ้าได้ 5 พันวัสสา ก็ข้าเทอญฯ สะตะวัสสา จะ อายุ จะ ชีวะ สิทธิ ภะวันตุ เต
สูตรขวัญลุ่มเทิง (ล่างบน) นี้ ถ้ามีเวลาน้อย ไม่ต้องสูตรขวัญเฉพาะอย่าง (ในอีก 20 ประเภท) ต่อก็ได้ เพราะนี้คือสูตรเหมือนกัน แต่เรียกว่า สูตรขวัญน้อย หรือสูตรขวัญย่อ หรือใน บางท้องถิ่นเรียกว่า สูตรขวัญลุ่มเทิง (ล่างบน) นั่นเอง ดังนั้น เมื่อจบสูตรขวัญนี้ ถ้ามีเวลาน้อย จะผูกแขนเลยก็ได้ แต่ถ้ามีเวลามากพอจะสูตรขวัญเฉพาะอย่าง ตรงกับลักษณะที่ต้องการในอีก 21 ประเภทต่อไป
สู่ขวัญแต่งงาน
รายละเอียดของการสู่ขวัญและคำสูตรขวัญ(สวดขวัญ)ประเภ ทต่างๆ
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีอะมุตตะโชค โตกใบนี้แหม่นโตกไม้จันทน์ ขันอันนี้ แหม่นขันวิเศษ ผู้เหนือเกษป่อนลงมา เทวดาเอามาสู่ เอามาอยู่ในเคหา สองสามีภรรยาจักได้เกิด พระอินทรเปิดส่องพระแจ พระพรหมแลเผยพระโอษฐ์ ว่ามื้อนี้หายโทษทั้งมวล บรบวรทุกอย่าง ผู้เป็นช่างแต่งพาขวัญ มีทั้งมวนหมากเหมี่ยง พาขวัญเที่ยงใบศรี งามแสนดีเจ็ดชั้น แถนพ่อปั้น แต่งมานำ มีเงินคำพันไถ่ เอามาใส่พาขวัญ บรบวรถ่วนถี่ งามเอาหนี่จั่งเมืองแมน
ฝ้ายผูกแขนห้อยระย้า มาจากฟ้าเมืองพรหม มาเชยชมสององค์อ่อน เข้าบ่อนนอนหมูน หมอน สองเนานอนแขนก่าย ทั้งสองฝ่ายตกลง สองอนงค์ลูกของแม่ มาแหนแห่เฮือนหอ โคตรวงศ์ ยอขันโตก ถึกโฉลกเหลือตา ยกลงมาตั้งใส่ ขันโตกใหญ่ทองคำ เพชรมานำพลอยต่อ นิลมาก่อ ประดับนำ เงินและคำเต็มถาด หลายแสนบาทสินดอง เอามาฮองตกแต่ง บ่ได้แบ่งปันไผ สองหัวใจ มาอยู่ฮ่วม มาอยู่ร่วมเป็นหนึ่งแผ่นทอง คนทั้งสองสมเผ่า เป็นคู่เก่านำมา สองขวัญตามาพบพ้อ จั่งให้พ่อมาขอ จั่งได้ยอขันหมาก ไขคำปากว่าตกลง สมประสงค์ทั้งสองฝ่าย เอาขาก่ายเมียแพง
ผู้เป็นผัวอย่าแข็งคำเว้า เห็นพ่อเฒ่าแม่เฒ่าให้ยำเกรง ผู้เป็นเขยอย่าเสงเสียงปาก อย่า ไปถากคำจา คันไปไฮ่กะให้มา คันไปนากะให้ต่าว ฝั้นเชือกข่าวงัวควาย อยาตื่นสายลุกยาก อย่าได้ ปากเกินตัว ผู้เป็นผัวให้ฮักเมียจนแก่ ให้คือแม่ของโต อย่าพาโลเลาะบ้าน อย่าขี้คร้านนอนเว็น อย่า ไปเห็นสาวแก่ อย่าไปแก่กว่าวงศ์ อย่าไปโกงใส่โคตร อย่าเว้าโพดคันเห็น เฮ็ดบ่เป็นให้ถามไถ่ อย่า ไปใหญ่กว่าลุง อย่าไปสูงกว่าป้า อย่าไปด่าวงศ์วาน อย่าไปพาลพี่น้อง อย่าไปฟ้องซุมแซง
ผู้เป็นเมียอย่าแข็งปากเว้า ตื่นแต่เช้าก่อนผัวโต อย่าเสียงโวสุยเสียด อย่าไปเคียดไววา คันไปไฮ่กะ ฮีบมา คันไปนากะฮีบต่าว เห็นผู้บ่าวอย่าแซนแลน แซนแลน ยินเสียงแคนอย่าไปฟ้อน อย่าไปย้อนใส่เสียง กลอง อย่าจองหองใส่ปู่ย่า อย่าไปด่าอาวอา คันไปมาให้คมเขี่ยม อย่าให้เสื่อม ซุมแซง อย่าไปแฮงฟืดฟาด อย่า ประมาทปู่ย่าโต อย่าไปโสความเก่า อย่าไปเล่าความเดิม อย่าไป เสริมผู้อื่น อย่าไปตื่นเสียงคน อย่าไปวนของ เผิ่น คันเผิ่นเอิ้นจั่งขาน คันเผิ่นวานจั่งส่อย
ให้ไปค่อยมาค่อย เห็นโคตรเห็นวงศ์ อย่าไปโกงเถียงพ่อเถียงแม่ เห็นคนแก่ปากเว้าจาไข อย่าจัญไร ป้อยผีป้อยห่า อย่าไปด่าพี่น้องทั้งผัว อย่าเมามัวสุราเบี้ยโบก ยามขึ้นโคกหาฟืนหาตอง อย่าเสียงหองร้องเพลง แอ๋นแอ่น อย่าได้แล่นป๋าหมู่ป๋าฝูง คันเห็นลุงให้ว่ากะบาด อย่าได้ขาดความ เว้าขานไข ไปทางได๋อย่าได้ช้า คันเห็นป้าให้ว่าคือลุง อย่าหัวสูงไปหมอบมาหมอบ อย่าว่าปอบผีห่า ผีภู อย่าซูลูเอาของบ่อบอก อย่ากลับกลอกปู่ ย่าวงศา ยามไปมาให้วนเวียนแว่ ฮักคือพ่อคือแม่ปู่ย่า ของโต อย่าพาโลต๋อแหลหลอนหลอก อย่าไปบอกใช้สิ่งเอาของ ผิดูธรรมนองครองของลูกใภ้ กว่าสิได้ลูกเผิ่นมาแยง อย่าเว้าแข็งคำหวานโอนอ่อน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองเจ้าให้มาถ่อนมาอยู่นำกัน อย่าไปปนคนธรรพ์ในป่า อย่าไป ท่าน้ำหลากไหลแฮง อย่าไปแยงผาชันพันยอด ว่ามาเยอขวัญเอย สองเจ้าจ่งมากอดเป็นมิ่งสาย แนน เอาสองแขนจับกันไว้แน่น ขวัญเจ้าแล่นไปไกล ขวัญเจ้าไปในป่า ขวัญเจ้าหนีลงท่าไปเฮือ ขวัญเจ้าไปเมืองเหนือและเมืองลุ่ม ขวัยเจ้าไปอยู่พุ่มเฟือยหนาม ขวัญเจ้าไปนาทามนาฮ่อง ขวัญ เจ้าไปหลงป่องทางมา ขวัญเจ้าไปตามหาสาวบ่าว ขวัญบ่ต่าวคืนมา ขวัญไปคาอยู่ในเงื้อม อยู่ใน เหลื่อมผาชัน กะให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปอยู่ลี้เมืองหงสา ขวัญบ่มาอยู่พม่า ขวัญไปค้าอยู่เมาะลำเลิง ขวัญไปเหิงบ่ต่าว กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปอยู่ถ้ำเมืองแกวไม้ล้มแบ่ง ขวัญเจ้าไปแห่งแห้งทางก้ำฝ่ายเขมร กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปทางก้ำเมืองเชียงตุงจีนตาด ขวัญเจ้าไปชมตลาดกว้างกวางตุ้ง ให้ดุ่งมา ขวัญเจ้าไปหาค้นแพรลาย ๆ พายถงย่าม เห็นงาม ๆ อย่าได้ใกล้ไปแล้วให้ต่าวมา ว่ามา เยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางใต้เมืองสุไหงตัดท่ง เมืองเบตงอยู่หย่อน ๆ อย่านอนค้างให้ต่าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งให้เจ้าย่างลีลา ขวัญขาให้เจ้ามาลีล้าย ๆ มานอนนำอ้าย ผู้เป็นผัว มากินนัวจ้ำป่น ผัวพาก่นขุดตอ ผัวพายอเงินล้าน มาอยู่บ้านดอมกัน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองเจ้าเฮ็วพะลันมาด่วน พากันชวนฮ่วมห้องนอนซ้อนหน่วยหมอน มาอยู่ซ้อนซอนห่มลม หนาว ว่ามาเยอขวัญเอย เมียนอนต่ำ ผัวให้นอนสูง เตียงไม้ยูงพ่อแม่แต่งไว้ เผิ่นแต่งให้ม่านใส่ทั้ง สอง หมอนมาฮองเฮียงกันเป็นคู่ เผิ่นให้อยู่นำกันอย่าหนี หลายนานปีจนแก่จนเฒ่า ขวัญหมู่เจ้าให้ แล่นมาเยอ
ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่เฮือนหลังใหญ่ เผิ่นปลูกใส่เป็นเฮือนหอ เผิ่นปลูกยอเป็นของ อ่อน ปลูกไว้ก่อนคอยบุตตา พากันมาอย่าชักช้า มาอยู่ห่มเฮือนงาม มาอยู่ผามหลังอาจ แม่ปูสาด ทั้งหมอนลาย ของกินหลายเหลือหลาก บ่อึดอยากแนวใด๋ ว่ามาเยอขวัญเอย มาไว ๆ มาหาพ่อ มาหาแม่ พวกเฒ่าแก่อาวอาเผิ่นกะมาคอยอยู่ มาฮอดปู่คอยหลาน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป อย่าอยู่นาน อย่าไปพาลกับหมู่ จงมาอยู่ดอมกัน จวงจันท์หอมตกแต่ง กาบบัวแบ่งอยู่ซอนลอน ตาออนซอนเตียงตั่ง มีบ่อนนั่งเซามีแฮง คอยจอมแพงสองหน่อ ปานแถนหล่อแถนลอ มาโฮงหอ อย่าได้ช้า ทั้งช้างม้าแลงัวควาย ตาเว็นสวยมันสิฮ้อน ให้มาก่อนอย่าไปไกล อย่าไปใสตาเว็นค่ำ ตกใต้ต่ำมัวเมา
ว่ามาเยอขวัญเอย จงมาเซานำพ่อ จงมาก่อแบ่งสาน มาอยู่ซานอย่าห่าง อยู่ตะหล่าง เฮือนโต ว่ามาเยอขวัญเอย มาเชยชมในห้องเตียงทองบ่อนเผิ่นแต่ง สองจอมแพงให้ต่าวโค้ง มา ถ่อนอย่าสุนาน จงสำราญด้วยคาถาว่า อเนกเตโช ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะลัง สุขังพะลัง อาวาหะ วิวาโห สุมังคะโล โหตุ สาธุฯ
คำผูกแขนแต่งงาน
ผูกแขนฝ่ายชาย ศรี ศรี วันเดือนปีข้ามล่วงแล้ว จนลูกแก้วใหญ่สูง ฝูงป้าลุงและพ่อแม่ ทั้งเฒ่าแก่และตายาย มากันหลายพร่ำพร้อม มาโอบอ้อมจัดแต่งงาน ตามกาลเวลาแถน กำหนดไว้ แต่งแล้วให้ประพฤติธรรม จั่งสินำครอบครัวไปม้มฝั่ง ให้มีใจดุจดังแม่น้ำในนที อันมีคุณสมบัติ 4 ข้อ
ข้อ 1. นั้น น้ำสะอาดบริสุทธิ์ คันแม่นเฮาลงมุด สะอาดดีโดยแท้
ข้อ 2. นั้น น้ำหากปรับโตได้ เป็นหยังได้ทุกอย่าง ฮูเล็ก ๆ น้อย ๆ ไหลเข้าได้สู่แจ
ข้อ 3. นั้น น้ำหากเย็นแท้ แก้หอดหิวกระหาย กินลงไปหอดหิวหายจ้อย
ข้อ 4. นั้น น้ำหากสามัคคีแท้รวมกันโดยง่าย เอามีดตัดซ๊วบแล้วประสานเข้าได้ ง่ายดาย
ทั้ง 4 ข้อ ดีงามยอดยิ่ง ขอให้ใจพวกเจ้าคือน้ำจั่งแม่นครอง อุ อะ มุ มะ มูล มา มหา มูลมัง สะวาหุมฯ
ผูกแขนฝ่ายหญิง โอมแม่คนดียอดแก้ว ผู้เลิศแล้วชื่อว่าแม่ธรณี เป็นผู้มีฤทธีอานุภาพ แม่ หากปราบพญามาร ได้ร่วมบุญสมภารของพระพุทธเจ้า มื้อพระเจ้าตรัสส่องสรญาณ ฮีดผม เป็นน้ำท่วมพญามารจมจุ่ม น้ำทุ่มท่วมมารล้มท่าวตาย
อันหนึ่งนั้นแม่หากมีใจกว้างเปรียบแผ่นธรณี แม่นสิมีผู้ขี้ผู้ขุดผู้ก่น เหยี่ยวใส่พร้อม น้ำลายซ้ำถ่มแถม แม่บ่ได้เคียดคล้อยชังเกลียดคนใด ขอให้เจ้าคือแม่ธรณี จั่งสิเป็นคนดี ครอบครองสมบัติได้ จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลังฯ สาธุ
คำผูกแขนบ่าว ขันติโก เมตะวา ลาภี ยะสะสี สุขะสีละวาปิโย เทวะมะนุสสานัง มะนาโป โหติ ขันติโก ฝ้ายอันนี้บ่อแม่นฝ้ายเมืองคน พระอินทร์โยนมาแต่ฟากฟ้า เผิ่นบอกว่าผูก แขนชาย ผู้เป็นนายของหมู่ ทุกคนอยู่ในครอบครัว หวังเผิ่งผัวผู้ออกหน้า เจ้าอย่าได้ตามหลังเมีย เฮ็ดเอียเคีย เอียเคียคือผู้แม่ ชายบ่แท้ครอบครัวจน ให้เจ้าเป็นคนชายแท้ ให้ผาบแพ้ทุกประการ ใจห้าวหาญคือจอมปราชญ์ สร้างเคหาสน์ให้ฮุ่งเฮือง สิบหัวเมืองมาช่วยค้ำ ทุกค่ำเช้าให้เจ้าอยู่ สวัสดี เป็นเศรษฐีบ่ไฮ้ ให้เจ้าได้ดังคำปรารถนา ชะยะสิทธิ ชะยะสิทธิ ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง อุ อะ มุ มะ มูลมา มะหามูลมัง สะวาหุมฯ
คำผูกแขนสาว สะขี ภะริยา สะทา โหตุ สัพพะ โภคา จะระตะนา สัพพะทา ภะวันตุ โว ฝ้ายอันนี้แม่นฝ้ายอินทร์แปลง เผิ่นแบ่งมาแต่ภูเขากาด เอามาพาดแขนเจ้าทั้งสอง สมบัตินองไหลมาบ่อขาด อย่าประมาทชายที่เป็นผัว ให้เกรงกลัวคือพ่อคือแม่ อย่าข้องแหว่ชายอื่น บ่ดี หน้าที่มีให้เจ้าตกให้แต่ง ให้เจ้าแต่งภาชน์แลงภาชน์งาย อย่าเบิ่งดายนิสัยขี้คร้าน ให้ชาวบ้าน ติฉินนินทา สมบัติมาหนีไปเหมิดจ้อย ให้เจ้าค่อยสู้อดสู้ทน อยู่บ่ดนเจ้าสิเฮืองสิฮุ่ง ให้เจ้าเฮืองฮุ่ง คือแสงตาเว็น เคราะห์อย่าได้เห็น เข็ญอย่าได้พ้อ ให้มีอายุมั่นขวัญยืน ฮ้อยขวบ
สู่ขวัญบ่าวสาว
รายละเอียดของการสู่ขวัญและคำสูตรขวัญ(สวดขวัญ)ประเภ ทต่างๆ
ศรี ศรี มื้อนี่แม่นมื้อดี เป็นดิถีก่อเกิด ว่าประเสริฐมุงคุล ว่าเป็นบุญน้อยหน่อ ใหญ่ถ่อ พ่อพอแฮ นุ่งผ้าแพรตกแต่ง หวีผมแบ่งกุมาร มีเฮือนซานให้ได้อยู่ ม้มจากอู่สายไหม เป็นทรามวัย อวนอ่อน แก้มใสส่อนนารี สาวผู้ดีไผอยากฮ่วม คนอยากร่วมเฮือนนอน คนออนซอนเหลือหลาก งามหน้าผากหูตา กิริยาโอนอ่อน งามทั้งง่อนเลาคิง สมเป็นหญิงคุณค่า ไผกะว่าเป็นนางแมน มา แต่แถนสมสู่ งามทั้งคู่ชายหญิง งามชายอิงมาแอบ งามหญิงแนบทั้งสอง มากินดองสมเผ่า พี่น้อง เล่าทั้งสองทาง ทั้งสาวนางและเจ้าบ่าว พี่น้องป่าวมาโฮม คุณมาชมพอหมื่น คนแตกตื่นมาโฮมงัน มารวมกันพอล้าน ไปกล่าวต้านโอมเอา ทั้งสองเฮาสมเผ่า เป็นบุญเก่าเฮาทั้งสอง จั่งมาครองเป็นคู่ ได้มาอยู่โฮมกันอยู่หลายวันตกแต่ง แก้มแป่งแส่งนางแมน พระยาแถนจากฟ้า ส่งหน่อหล้าลงมา สอง ขวัญตามาพบพ้อ สองน้อยหน่ออินทร์แปลงไผ ได้แยงงามหยาดย้อย เป็นหน่อน้อยลูกพระพรหม พระบรมเผิ่นตกแต่ง เกิดคนแห่งมาเห็นกัน สายสัมพันธ์บุพเพสันนิวาส ลงมาจากเครือเขากาด พระอินทรา จ่องลงมา แท้แล แท้แล ลมมีดโกนให้พัดแว ลมมีดแถให้ฟัดห่าง ใบคนระหว่างทางไป ผู้หนึ่งได้ไปไกล อุดรขอนแก่น ผู้หนึ่งแล่นไปเถิงเมืองเป็งจาน ไปอยู่นานจนน้อยหนุ่ม โตเป็นพุ่ม ดกหนา มีปัญญางามสะอาด เครือเขากาดเลยเอาหนี ดนหลายปีสองอวนอ่อน เลยกลับบ่อนหวน มา ถืกซาตาหนีบ่ได้ จั่งได้ให้ผู้เฒ่ามาขอ จั่งได้ยอพาขวัญตกแต่ง แก้มแป่งแส่งจั่งได้นั่งอยู่สอนลอน -สอนลอน สองงามงอนจั่งได้คู่ สิได้อยู่เคียงหมอน สิได้นอนเตียงฮ่วม
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวค้าแพรวาทั้งสิ้นหมี่ สาวผู้ดีอยู่ฝ่ายใต้ไทยลื้อให้แล่น มา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปชมชู้ทั้งภูเขียวภูเวียงฟ้าหย่อน ๆ อย่าไปนอนอยู่ค้างทางพุ้นให้ ด่วนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปแดนแม้ว เมืองแกวไม้ล้มแบ่ง บ่อนสีโคตรไล่ฆ่าช้างถือฆ้อน แก่ดึง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปชมช้อนนอนไพรป่าไม่ใหญ่ ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นนะทีน้ำอยู่ อ่าวไทย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นเกาะกวมบ่อนน้ำถั่ง บ่อนฝรั่งต่อสู้บู๋ม้างไล่ยิง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าอย่าได้อยู่นำเขา ขวัญเจ้าอย่าได้ไปนำเผิ่น ขวัญเจ้าอย่าได้เปิ่นป๋าหนี ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าไปทางก้ำพนมเปญเขมรต่ำ อย่าไปนำหมู่แม้วแถวพุ้นให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป ทางก้ำเวียงจันทน์สัตนาค ขวัญเจ้าจากแม่เลี้ยงเฮียงซ้อนหมู่มอญ
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำเชียงตุงแม้วน่าน ขวัญเจ้าไปสู่บ้านชาวม้งให้ส่งมา ขวัญเจ้าไปอยู่พุ้นเสียมราฐนครทม ขวัญไปชมนครวัดอย่าดนให้โงโค้ง ขวัญเจ้าลงไปก้ำแดนกุลา พายย่าม เมืองหงสาฝ่ายกุ้งให้มาถ้อนอย่าอยู่นาน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปยิงเนื้อเสือสาง องมั่ง ขวัญเจ้าไปไล่เก้งพานพร้อมให้ต่าวคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นอินโดให้โงต่าว ไปเห็นบ่าวไปเห็นสาวปาเต๊ะพุ้นเซาถ่อนให้ด่วนมา ขวัญเจ้าไปทางพุ้นลังกาทวีปใหม่ เกาะสิงหล อยู่ใกล้ ๆ ไปแล้วให้ต่าวคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหิมาลัยป่าไม้ใหญ่ อย่าได้ไปผ่าน ด้าวดงพุ้นให้ด่วนมา ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหนองกระแสสนหย่าน บ่อนจีนตาดไล่ฆ่าไทลื้อให้ต่าวคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำเชียงคานบ้านมันห่าง อย่าได้ไปอยู่ค้างทางก้ำด่านไกล ขวัญ เจ้าไปอยู่พุ้นให้เจ้าด่วนคืนมา ขวัญเจ้าไปหาปลาล่องทะเลอวนซ้อน ขวัญเจ้าไปนอนค้างกลางดง พงป่า ขวัญเจ้าไปเลาะเล่นเห็นแม้วกะเหรี่ยงดอย
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปแดนพุ้นภูซุนภูส่อง ขวัญเจ้าไปล่องน้ำทะเลกว้างอ่าว กระแส ขวัญเจ้าไปอยู่พุ้นเมืองท่าสิงคโปร์ กะให้โงมาเฮือนอย่าหนีวันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้า ไปชมห้องวิมานทองหิมวาส เห็นปราสาทใหญ่กว้างให้มาถ่อนอย่าสินอน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าไปทางก้ำบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ขวัญไปชมประเทศพุ้นทางก้ำฝ่ายเขมร ขวัญเจ้าไปเห็นแล้วทั้งสอง คนให้กลับต่าว ให้เจ้ากลับฝั่งฟ้าวอาวป้าเพิ่นนั่งคอย ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ก้ำเมืองใหญ่ เวียงพิงค์ ขวัญไปอิงชมสาวบ่าวฮามทางนั้น ให้เจ้าผันผวนย้านไว ๆ อย่าสิอยู่ ขวัยเจ้าไปชมหมู่ไม้ ไทยใต้ผ่านไกล ไปฝ่ายใต้ให้กลับต่าวคืนมา ลุงอาวอาย่ายายทั้งน้ำ หลานเหลนหล่อนออนซอนมา แห่ ขวัญอย่าแลเปลี่ยนท้างทางดั้นให้ด่วนมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นเบตงลงใส่ ขวัญเจ้าไปเที่ยวค้าทางใต้ฝ่ายไกล เจ้า อย่าได้หลงอยู่สวนยาง อย่าหลงทางมาเฮือนบ่อนเชยชมช้อน ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้าตั้งเฮือน ใหญ่มุงหนา แม่เจ้าตั้งมุงหลังคาหลังใหม่ พ่อเจ้าไปเที่ยวซื้อเฮือนย้าวแต่งนำ ว่ามาเยอขวัญเอย พาขวัญตั้งจวงจันทน์ขันหมาก มีหลากล้นเหลือไว้ใส่พา เงินคำแก้วเต็มถังทั้งไถ่ ตกแต่งให้สองเจ้า คู่เคียง เตียงทองตั้งหมอนลายมัดหมี่ มีสู่เบื้องนาพร้อมสู่อัน ขันตักน้ำทั้งกระบวยค้างแอ่ง พ่อกับแม่ แต่งให้สองเจ้าบ่ไล เผิ่นแต่งไว้ถ้วยบ่วงโอขัน เงินคำมีสิ่งใด๋หาไว้ เชิญขวัญเจ้ามาเซาแนมส่อง มาสู่ ห้องเฮือนกว้างบ่อนเซา ให้หมู่เจ้าทุกอย่างของกิน ฟืนตองหลัวสู่แนวหาไว้ ไซหลังหล่าทำนาไถ คลาด สาดเสื่อพร้อมหมอนมุ้งสู่อัน ให้บ่ได้ตะวันส่องเดือนดาว มือซาวเถิงสิจ่องมาถวายเจ้า
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งให้มาอยู่แข่งลีลา ขวัญขาให้มาอยู่ขาลีล้าย ขาซ้ายก่ายขา ขวา ผัวเมียกันฮักห่อ คือผัวถ่อเมียพาย ไปทางใด๋ให้เจ้าบอก ให้เจ้าออกทางประตู อย่าซูลูเขยสะใภ้ ให้เจ้าได้บุตตรา คนตามมาบุตตรีออก คำสอนบอกจงจดจำ เอาพระธรรมมาซูส่อย ให้เจ้าค่อย ๆ อย่าเว้าแฮง สองจอมแพงให้ฮักเลิศ ให้ลูกเกิดมาชม ให้ได้สมใจว่า ให้มีค่าพอกือ ให้คนถือพอโกฏิ โทษฮ้ายอย่ามาพาน โทษหาญอย่ามาใกล้ ให้เจ้าได้เป็นเศรษฐี สองสามีภรรยาควรคู่ ให้เจ้าอยู่ ฮ้อยเอ็ดพันวัสสา ขออวยพรด้วยบาทพระคาถาว่า อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุ
คำผูกแขนบ่าว ขันติโก เมตะวา ลาภี ยะสะสี สุขะสีละวาปิโย เทวะมะนุสสานัง มะนาโป โหติ ขันติโก ฝ้ายอันนี้บ่อแม่นฝ้ายเมืองคน พระอินทร์โยนมาแต่ฟากฟ้า เผิ่นบอกว่าผูก แขนชาย ผู้เป็นนายของหมู่ ทุกคนอยู่ในครอบครัว หวังเผิ่งผัวผู้ออกหน้า เจ้าอย่าได้ตามหลังเมีย เฮ็ดเอียเคีย เอียเคียคือผู้แม่ ชายบ่แท้ครอบครัวจน ให้เจ้าเป็นคนชายแท้ ให้ผาบแพ้ทุกประการ ใจห้าวหาญคือจอมปราชญ์ สร้างเคหาสน์ให้ฮุ่งเฮือง สิบหัวเมืองมาช่วยค้ำ ทุกค่ำเช้าให้เจ้าอยู่ สวัสดี เป็นเศรษฐีบ่ไฮ้ ให้เจ้าได้ดังคำปรารถนา ชะยะสิทธิ ชะยะสิทธิ ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง อุ อะ มุ มะ มูลมา มะหามูลมัง สะวาหุมฯ
คำผูกแขนสาว สะขี ภะริยา สะทา โหตุ สัพพะ โภคา จะระตะนา สัพพะทา ภะวันตุ โว ฝ้ายอันนี้แม่นฝ้ายอินทร์แปลง เผิ่นแบ่งมาแต่ภูเขากาด เอามาพาดแขนเจ้าทั้งสอง สมบัตินองไหลมาบ่อขาด อย่าประมาทชายที่เป็นผัว ให้เกรงกลัวคือพ่อคือแม่ อย่าข้องแหว่ชายอื่น บ่ดี หน้าที่มีให้เจ้าตกให้แต่ง ให้เจ้าแต่งภาชน์แลงภาชน์งาย อย่าเบิ่งดายนิสัยขี้คร้าน ให้ชาวบ้าน ติฉินนินทา สมบัติมาหนีไปเหมิดจ้อย ให้เจ้าค่อยสู้อดสู้ทน อยู่บ่ดนเจ้าสิเฮืองสิฮุ่ง ให้เจ้าเฮืองฮุ่ง คือแสงตาเว็น เคราะห์อย่าได้เห็น เข็ญอย่าได้พ้อ ให้มีอายุมั่นขวัญยืน ฮ้อยขวบ
สู่ขวัญข้าว
รายละเอียดของการสู่ขวัญและคำสูตรขวัญ(สวดขวัญ)ประเภ ทต่างๆ
รายละเอียดของการสู่ขวัญและคำสูตรขวัญ(สวดขวัญ)ประเภ ทต่างๆ
ศรี ศรี วันนี้แม่นวันดี วันเศรษฐีอมุตโชค วันชาวโลกชื่นชม วันพระบรมกุกุสันโธทนะ ลงมาเกิด ลงมาเปิดโลกา พระสัตถาผู้ก่อ ตั้งแต่หน่ออรหันต์ มารวมกันอยู่ในโลก จั่งเป็นโชคปฐพี ท่านเศรษฐีปลูกข้าว เอาใส่เล้าในฉาง ยังมีนางหน่อนารถ ผู้ฉลาดเมืองคน ชื่อว่าสาวหน้ามนคิ้วก่อง คิงกลมค่องนางแมน เป็นลูกแถนลงป่อน มาอยู่บ่อนพาราณสี เป็นนารีผุดผาด อยู่ปราสาทสามหลัง ไผได้ฟังชมชื่น ดีล้นหลื่นคนทั้งหลาย ปานเดือนหงายผิวผ่อง คิงกะค่องงามงอน ตาออนซอนนวย นาด ผิวพรรณคาดเครื่องไพฑูรย์ คนมีบุญมาสู่ มีนามอยู่ว่าโภสพ คอคางจบคิ่วก่อง แขนขาค่อง ปานมะที สาวเศรษฐีหยาดย้อย คิดค้อยๆ อยู่ในใจ ไผสิไปนำเอาข้าว พระพ่อเจ้าโกรธา ตามไปหา บ่พ้อ จั่งให้น้อยหน่อนารี ไปขอพรพระฤาษีอยู่ในถ้ำ จั่งลุก้ามในผา จั่งได้มาเมล็ดข้าว จั่งได้เว้าต่อ กันมา มีผญาปัญญาล้ำเลิศ คนจั่งเกิดมาหลาย คนบ่ตายเพราะมีข้าว จั่งได้เป็นพระพุทะเจ้ากุกุ เพราะบุญชูถวายบาท จั่งฉลาดคนเฮา
ว่ามาเยอขวัญเอย ทั้งข้าวจ้าวและข้าวเหนียว เจ้าอย่าเหลียวไปทางอื่น เจ้าอย่าตื่นไปไส อย่าไปไกลจากต่า เจ้าอย่าว่าคนมายี เจ้าอย่าว่าคนมาสีมาตำมาเหยียบ เจ้าอย่าเปรียบเป็นดิน ดอน คนออนซอนบ่อึดอยาก คนเหลือหลากในโลกา เชิญเจ้ามาอยู่ในเล้า คนกินเจ้าโภชนา แม่น มีผลากะบ่แล้ว แม่นมีแก้วกะบ่เอา คนมาเซาช้องส่อ ออนซอนหน่อโภชนัง กินอี่หยังบ่ท่อเจ้า บ่ท่อ ข้าวขาวๆ ใหญ่เป็นสาวและเป็นบ่าว เขาบอกกล่าวกันมา ข้าวอยู่นาเอาใส่เล้า เขาเอาเจ้ามานอน เฮือน เป็นปีเดือนได้เลี้ยงลูก เอาข้าวปลูกฮอดข้าวปัดลาน เป็นข้าวสารอยู่ในต่า เอามาหม่านึ่งหวด ลายสอง หอมฮองๆ หื่นเฮ้า จั่งเอาเจ้าเลี้ยงพระเถรา จั่งเอามาทำบุญตักบาตร บ่ได้ขาดพระตะถา คะตา มีปัญญาคนได้กินข้าว คุณของเจ้าเหลือแผ่นสุธา เหลือธาราสมุทรแม่น้ำ
คนทุกก้ำจึงแข็งแรง คนมีแฮงกินข้าวท่านบอก ของอยู่นอกบ่แม่นคนเฮา เขากะเอาหมู หมาเป็ดไก่ เขาเอาใส่ฮำแกลบโฮยดิน สัตว์เก็บกินตามมีตามเกิด แสนประเสริฐกว่าสิ่งทั้งปวง ยาม เป็นฮวงเขาเก็บเขาเกี่ยว ยามเจ้าเหี่ยวเป็นเฟืองใบเหลือง เอามาเถียงมัดไว้บ่แตก บ่ได้แจกไปใส มาใส คือดั่งใจมุงเฮือนกะได้ เถียงหลังใหญ่มุงเฟืองเกินหนา อยู่เถียงนาอาศัยบ่ขาด บ่ประมาท คุณโภชะนัง เอามาวางใส่เล้าเต็มอั่ง จั่งได้นั่งว่ามุมะมูลมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้านอนอยู่ท่ง นำเขียดจานา ขวัญบ่มาไปนำเขียดโม้ อย่าอ้าวโอ่นำหมู่ปูทาม ว่ามาเยอขวัญเอย นางข้าวจ้าวทั้ง นางข้าวเหนียว ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ต้นเขียวๆ ข้าวก่ำต้นบ่ต่ำข้าวดอ เกินงามนอนั้นเป็นข้าวงวง ช้าง ดำสับหว่างนั้นแม่นข้าวมันปู งามปูลูนั้นแม่นข้าวใหญ่ เขาดำใส่นาทาม เกินเผิ่นงามดำเลาะ ฮ่อง ฮวงเผิ่นก่องเป็นพวง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้านอนอยู่ท่งนำฮู นอนนำปูทั้งจี่หล่อ เชิญน้อยหน่อมาอยู่ฉาง เชิญคำนางมาอยู่เล้า เจ้าอย่าเศร้าเสียศรี ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าตกอยู่น้ำในตม ขวัญเจ้าชม อยู่ไฮ่ ขวัญข้าวใหญ่ข้าวปลาเข็ง อย่าไปเส็งนำหมู่ อย่าไปอยู่นำปลา อย่าอยู่นาแดดฮ้อน ให้เจ้า ย้อนโงมา ให้เจ้าหวิดปากปลา ให้เจ้ามาไวว่อง อย่าอยู่ฮ่องนำทาม ให้เจ้างามมาอยู่ มารวมหมู่ นำกัน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำดินดำน้ำก่ำ ขวัญเจ้านำหมู่ม้า กุลาพุ้นให้ต่าวมา ว่า มาเยอขวัญเอย นกกะจิบเขาสิตอด พวกนกขอดสิคาบหนี ถึงเดือนปีจั่งออกจากเล้า สิเอาเจ้าหว่าน นาทาม เจ้าสิงามกว่าเก่า เอาไปไว้นาเหล่าดงดอน คนออนซอนต้นก่อง เอาไปใส่นาฮ่องปลายทาง เอาเจ้ามาเป็นข้าวเปลือก ให้เจ้าได้เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ได้กินทานสืบต่อ เป็นน้อยหน่อศาสนา ให้ เจ้ามามื้อนี้วันนี้ มาอยู่ในฉางมาอยู่ทางเล้าใหญ่ เบิ่งคางไก่สูตรแล้วงามหลาย คางไก่หวายโตลาย โค้งโน้ง คางมันก่งคือเกี่ยวเหล็กแหลม ตาเฮาแนมฝนดีปีหน้า หมอสูตรว่าพราหมณ์สวดขวัญมา เป็นราคาข้าวเหนียวข้าวจ้าว จั่งบอก กล่าว อุอะ มูล มา โภชะนา พิชาคะมัง สาธุ
เสกน้ำประพรมข้าวหลังสู่ขวัญ
อมแม่เจ้าโภสพผู้เป็นขวัญข้าว เก็บมาใส่เล้าใส่เยีย ลูกหลานกินทานเสียบ่ขาด บ่ได้ ประมาทคุณแม่โภสพ เผิ่นเสกมนต์เรียกข้าว เผิ่นเอิ้นแม่เจ้าไปอยู่เล้าอยู่เยีย ให้แม่เจ้าอุดหูไว้ อย่าฟังเสียง อย่าได้ฟังสำเนียงของโจรลักข้าว ให้แม่เจ้าขับไล่มันหนี ขอให้ข้าวเฮาอยู่สวัสดี กินอย่าได้บก จกบ่ให้ลง ด้วยบาทพระคาถาว่า มา ขะโย มา วะโย สัพพะกาลัง นะขียันติ สาธุ
สู่ขวัญนา
ว่า ศรี ศรี วันนี้เป็นวันดี วันเศรษฐีเฒ่านกเอี้ยง เผิ่นได้เสี่ยงทำนายฝัน อยู่หลายวันเผิ่น ฝันหลาก เผิ่นจั่งฝากแม่ธรณี เผิ่นฝันดีบ่ตกยาก บ่ลำบากการทำนา พสุธาเก้าพันไฮ่ เผิ่นได้ใส่ข้าว สาลี ธรณีให้เลี้ยงโลก ให้มีโชคการทำนา แต่เดิมดากกเค้า คราวพระเจ้าพุทธโคดม พระบรมได้ ห้ามญาติ เผิ่นประกาศแบ่งเป็นตอน ตาออนซอนให้ถึกต้อง พวกพี่น้องนาหลุ่มและนาบ๋า พากันมา ยาดเอาน้ำ สองฝ่ายก้ำเมืองกบิล พอได้ยินเผยพระโอษฐ์ ให้ละโกรธและความหลง พระภุชงค์จึงได้ เทศน์ จั่งแบ่งเขตเป็นคันนา แบ่งกันมาขุดเป็นฮ่อง ให้เป็นป่องวารี ให้ได้มีทั้งสองฝ่าย น้ำไหลก่าย ไปเนืองนอง จั่งจับจองแบ่งกันใหม่ ป้านคันใหญ่เป็นไฮ่นา จั่งถือมาฮอดมื้อนี้ พระจั่งซี้ตาออนซอน ผ้าจีวรครองบ่า ตำราว่าคือตานา องค์พระศาสดาตรัสบอก ให้แบ่งออกเป็นตา เป็นไฮ่นาทั่วผืนผ้า ฮอดสังฆาฏิพาดบ่าภิกษุสงฆ์ พุทธองค์บัญญัติบอก ห้ามตัดอกพระวินัย เอาไปไสกะให้อยู่ ให้คือ หมู่พุทธา
ท่านจั่งว่าเป็นไฮ่นา บาดนี้มาสิไถหว่าน สิได้ผ่านคองไถ มาเร็วไวกราบบาท บ่ได้ขาดฟ้า ใหม่ลงหนอง เสียงเนืองนองอึ่งอ่าง อยู่ใต้หล่างควายบักคูณ เบิ่งเผิ่นสูนฟืนฟาด เคาบ่ขาดสนดัง ปานสิพังเผิ่นห่าว ฟ้าวฝั่นข่าวเตรียมไถ ฝนตกไหลน้ำอั่ง ฝนไหลหลั่งตกลงมา เต็มไฮ่นาน้ำใหม่ กบเขียดไข่ปูปลา น้ำไฮ่นาล้นหลาก หลายเหลือมากเนืองนอง แสงกะบองออกจับเขียด ท่วมนา เอือดและนาทาม นาไผงามได้ใส่ฝุ่น ได้หลกฮุ่นฝักพีพวย ยามฝนฮวยเดือนหกออกใหม่ จับเอาใกล้ เฮือนไผเฮือนมัน ใบรวมโฮมกันเลี้ยงเจ้าปู่ เฒ่าจ้ำอยู่พิจารณา คางไก่มาแก๋ออก จั่งได้บอกลูก หลาน คางไก่ยานยาวโค้ง ฝนสิส่งปลายปี ฝนสิดีหลากหล้า น้ำอยู่ฟ้าเหลือหลาย แล้วระบายคางไก่ อีก เอามือฉีกออกมานำ จ่มมำๆ ชี้แก่แด่ เบิ่งหั่นแน่ดีคือกัน พอฮอดวันว่าตาแฮก เขากะแบกเอาไถ เอาลงไปเขยใหม่ เอาใจใส่ไถนาดี เอาแส่ตีควายบักด่อน ย่างออกก่อนว่าฮือ-ฮือ มือหนึ่งถือกำเชือก มือหนึ่งเถือกกำคันไถ ควายย่างไปว่าฮือฮ่อง-ฮือฮ่อง ดันหลังก่องก้อนขี้ไถ
ขออภัยนำแม่เจ้า สิเฮ็ดข้าวทำนา ขอขะมาพระแม่ ยามลูกแก่ไถไป ยามไถไวอย่าได้ พลาด ยามหลานคลาดอย่าโกรธา หลานทำนาหมายตักบาตร บ่ได้ขาดกินทาน ขอสมภารแก่กล้า พวกตูข้าทำนากิน ยามฝนรินบ่ได้อยู่ ทำเป็นหมู่นาดี มาหลายปีแต่พร้อมโลก นับว่าโชคได้นาหนอง ปานได้ทองสามเส้า ปานได้ข้าวพันเล่มเกวียน เฮ็ดหมุนเวียนบ่ได้ขาด ขอพระบาทแม่เจ้าธรณี อย่าได้มีใจตื่น อย่าแตกตื่นไปใส ขออภัยนำเจ้าแม่ ให้ได้แต่โภชนา ให้ได้มาทั้งข้าวเหนียวและข้าว จ้าว ข้าวช้างน้าว ทั้งข้าวขาว ข้างต้นยาวหอมอ่อน ให้ได้ป่อนทานัง ให้ได้ฝังข้าวบักหม่วย งามป่วย ล่วยข้าวงาช้างแลข้าวดอ เต็มในทอนั่นแม่นข้าวอีก่ำ ได้กินหน่ำนั่นแม่นข้าวสามเดือน ให้เต็มเฮือน อย่าเขินขาด สายน้ำไหลหลากเนืองนอง เดือนสิบสองให้ได้กินได้เกี่ยว ฮวงอย่าเหี่ยวสุกงอม ทั้งข้าว หอมเฮ็ดข้าวเม่า ให้เต็มเล้าสิได้กินได้ทาน เป็นข้าวสารเต็มไถ่ เลี้ยงคนใหญ่ทั้งโลกา มีนาเหนือ และนาใต้ นาท่งใหญ่มีหนอง ปลาเนืองนองดุกค่อ นามูลพ่อนาเซและนาห้วย ให้ได้ช่วยชูนำ พระ จอมธรรม์ฉันยามเช้า ถวายข้าวสังฆทาน เลี้ยงลูกหลานบ่ได้ขาด เม็ดข้าวอาจงามหลาย เหลือกิน ขายเงินอั่ง บ่ได้นั่งงอมือ เอาเกี่ยวถือก๋อเกี่ยว ข้าวบ่เหี่ยวงามดี ข้าวนาปีได้หลายหาบ
ผู้ข้าขาบแม่ธรณี อยู่ในน้ำให้มีปลา อยู่ในนาให้มีข้าว ขอแม่เจ้าจงอิดู ลูกหลานดู๋บนแม่ บาท เอาใส่ถาดเมี่ยงหมากและพาหวาน ของกินทานทั้งตาแฮก เอามาแจกผู้รักษา เจ้าจงมารับเอา สามื้อนี้วันนี้ ให้กอถี่ลำงาม อยู่นาทามและนาโคก ให้มีโชคเหลือตา ข้าวเต็มนาเหลืองอร่าม ว่ามา เยอขวัญเอย ให้เจ้ามาทั้งขวัญนาและขวัญข้าว ขวัญแม่เจ้าธรณี เจ้าจงมารวมอยู่ มาเป็นหมู่ให้ลูก ให้หลาน ให้ได้กินได้ทานอย่าให้ขาด อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง อย่าได้พังเพห่าง อย่า ได้ว่างเว้นหนี ให้ข้าวฮวงยาวพอศอก ให้ต้นข้าวสูงออกพอวา ให้เต็มนาท่งใหญ่ สัตว์น้อยใหญ่อย่า ได้มาราวี นกตัวดีอย่าบินผ่าน นกจาบปากก่านอย่ามาวน ขอให้ได้เลี้ยงลูกหลาน ตราบต่อเท่าอายุ เข้าห้าพันวัสสาก็ข้าเทอญฯ ภะ สะ ภะ โภชะนัง มะหาลาภัง สุขัง โหตุ สาธุ
คาถาเสกน้ำรดนา
หลังจากสูตรขวัญนาแล้ว ให้ทำน้ำมนต์รดนา คาถาว่า ดังนี้
1. ว่า นะโม ตัสสะ ฯลฯ สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ
2. ว่า ไตรสรณะคม พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯลฯ ตะติยัมปิฯลฯ ว่าเหมือนเดิม
3. นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
สักกัตตะวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
4. สักกัตตะวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
สักกัตตะวา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
กก กอ ดอ ดก ท่านว่า ข้าวบ่มีโรค บ่เป็นบั่ว หมากดกดั้วงามดี
สู่ขวัญงัวควาย
ศรี ศรี มื้อนี้เป็นวันดี วันเศรษฐี วันขัติยะราช มีอำนาจพลังเหลือหลาย มีความหมาย เหลือหลาก บ่ทุกข์ยากอันใด สมดังใจมวลหมู่ จั่งได้สู่เอาขวัญ จั่งได้ชวนทั้งทวยเทพเมืองแมน พระยาแถนผู้ปั้นหล่อ ผู้เค้าก่อไถนา จั่งเอามายังมหิงสาตัวอาจ ตัวสามารถมีพลัง เอามายังเคหา มาอยู่นาบักเขาแก้ว ให้ชื่อแล้วว่าบักคูณ เอามาหนุนเกื้อก่อ มาเป็นหน่อทองคำ ไถนาดำแลนา หว่าน ตัวเคยผ่านไถนา เป็นพระยาฤทธิ์เดช อยู่ในเขตปฐพี เป็นควายดีมีอำนาจ งามองอาจกว่า มหิงสา จั่งเอามาผูกเชือก จั่งได้เลือกเอามา อยู่ชายคาหลังใหญ่ โตมันไล่พาลี โตมันตีสังครีบ โตมันถีบทรพี มันบ่หนีบักเขาแก้ว เอามาแล้วทรัพย์มาโฮม เสียงทมๆ เขาโล้งโค้ง ปล่อยลงท่งอยู่ กลางนา งามแต่หางฮอดส้นหน่อง เกินงานค่องเจ้ามหิงสา ยามไถนาบ่มีขาด ยามเฮาคลาดมีกำลัง บ่ถอยหลังตกต่ำ ฮอดยามค่ำขี่เข้าไปเฮือน ไถเป็นเดือนกะบ่จ่อย เก่งบ่ค่อยกาสร
สองเขางอนงามยิ่ง แขวนกระดิ่งอยู่ในคอ ฟังเสียงขอดังสนั่น เกินกล้ากลั่นอ้ายทุยทอง สีบ่หมองเหลืองหล่า ไล่ลงท่าไปนอนซำ เจ้าของนำดึงเชือก นอนดมเกลือกเซามีแฮง บึกบึนแข็ง องอาจ พอปานนาคราชดึงเขาพระสุเมรุ ผู้ใด๋เห็นกะอยากได้ โตเจ้าใหญ่เพียงตา ยาวเป็นวาหลัง บ่แอ่น ไถนาแก่นแห่งข้าวงาม ไถนาทามและนาโคก เจ้าถึกโสกกาสร คนออนซอนอย่างอาดๆ เจ้าฉลาดไถนาดี บ่เคยตีไปตามห่อง ไปตามป่องบ่สับสน พอปานคนเจ้าองอาจ เอาใส่คราดบ่มี ถอย ย่างตามฮอยฮู้ฮ่อม ไปหล่อมๆ ทำนา มีปูปลามาอยู่ดีกว่าหมู่นาทาม ข้าวกะงามแตกหน่อ นามูลพ่อต้นข้าวสีเขียว เฮ็ดข้าวเหนียวและข้าวจ้าว พันลาวอ้าวฮวงดียามเฮาตีฟาดตุ้ม ข้าวขึ้น กุ้มเต็มลาน เฮ็ดนาหมานคูณค้ำ พอเฒ่าจ้ำว่าบ่ขาย ราคาหลายเป็นหมื่น เจ้าดีหลื่นมาอยู่นำ ปานทองคำฮักห่อ
ลูกของพ่อกาสร ตาออนซอนเจ้าไถคราด เจ้าฉลาดพอปานคน เจ้าอดทนเหลือหลาก หญ้าเต็มปากนำคันนา ไปเอามาให้เจ้าอยู่ เอามาสู่เต็มกะทอ กินให้พออย่าอึดหยาก มีหลายหลาก ในนามหิงสา ลากแก่ข้าวกะแผ่เป็นฮวง ท่วมหลังกวางและช้างม้า อยู่นาท่าข้าวกะงาม อยู่นาทาม ข้าวแตกหน่อ ปานคนก่อแบ่งเอา เขียวปานเทาบ่อเหลืองหล่า ได้พันต่าแสนกระบุง กินเต็มพุงบ่ อึดอยาก บ่ทุกข์ยากอันใด๋ ปลดจากไถเจ้าพักผ่อน หยุดก่อนหมดเวลา เจ้าไถนาเหนือและนาใต้ ทั้งนาใกล้และนาไกล อย่าไปใสให้เจ้าอยู่ ไปนำหมู่หาเล็ม
ว่ามาเยอขวัญเอย ถึงยามค่ำให้เจ้าเข้ามาเฮือน เดือนดำตกมืดซ้าวล้าว ให้เจ้าฟ้าวมา เฮือนหา เข้าชายคาอยู่ในคอก ฟังข่อยบอกจื่อจำเสียง ฟังสำเนียงให้เจ้าแหล่น ให้เจ้าแก่นนอน เฮือน อย่าได้เหมือนกะฮอก ผู้ใด๋บอกให้จำเอา อย่ามัวเมานำโตแม่ อย่าไปแว่สวนมอน อย่าไปซอน สวนเผิ่น เจ้าอย่าเปิ่นหลงทาง ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มาอยู่ที่ตะหล่างเฮือนสูง เขาบ่ จูงเจ้าไปฆ่า เขาบ่ดเจ้าโตดี เขาบ่ตีเอาเชือกถาบ เขาบ่หาบมังสัง เขาบ่ซังกดขี่ ให้เจ้ามาอยู่ที่เคย นอน บ่มีหมอนให้เอาโล้งโค้ง คือกะด้งมาหมูน ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้าคูณเจ้าค้ำ ยามมืดค่ำให้ โงมา ยามไปนาให้เจ้าต่าว อย่ากินข่าวเชือกไถ อย่าจัญไรชนฮั้ว อย่าไปกั้วสวนแตง เจ้าของฮักฮ่อ ลูกของพ่อคูณเฮือน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปวังน้ำ นอนตมบ่อนมันหล่ม ขวัญเจ้าไปเที่ยวพ้อกาสร โตแม่ เจ้าอย่าแวส่องเล่นเห็นแล้วให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย มาตั้งขวัญเขาพร้อมขวัญหูทั้งคู่ จตุบาทอย่าได้ช้าให้มาพร้อมพร่ำกัน ว่ามาเยอขวัญเอย นังคัลพั่วฟอยหางกวัดแกว่ง ให้เจ้ามาไล่ ฮิ้นยุงพร้อมเหลือบนำ ขวัญตาก้ำทั้งสองมองอยู่ ขวัญปากคิ้วหัวพ้อมสู่แนว มาฮอดแล้วหลักเก่า เสาเฮือน นอนสีคีงฮ่มเย็นหายฮ้อน อย่าไปเชยซมซ้อนหนีไปนอนเฮือนเผิ่น ให้เจ้ามาตะหล่าง กว้างๆ เฮาพี้อย่าสิหนี เอหิ มะหิส สะกะฆะเร ปะติฏฐาหิ สาธุ
คำผูกเขาควาย
ศรี สรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายดี ฝ้ายอันมีฤทธี ส่งมาแต่เมืองฟ้า พระนารายณ์เป็นเจ้าส่งลง มา ให้ผูกเขามหิงสาตัวประเสริฐ เพื่อให้เกิดค้ำคูณ ขวัญผิดที่ก็ให้หาย ขวัญจัญไรก็ให้จืด มีแต่ที่ ประเสริฐทั่วตัวควาย โรคปากเปื่อยอย่าให้มี โรคบ่ดีอย่าให้พ้อ ให้เจ้าเป็นตั้งต่อคูณเฮือน ทุกปี เดือนอย่าให้เจ้าของอึดอยาก ให้ได้ดังคำมักคำปรารถนา ว่า อุ อะ มุ มะ มุนมา มะหามูลมัง สวาหุมฯ
สู่ขวัญเล้า
ศรี ศรี ปฐพีแผ่นฮาบ ผู้ข้าขาบสามที ได้เล้าข้าวดีหลังใหญ่ เอาข้าวใส่อาศัย มาแต่ใส เล้าหลังนี้ ตั้งแต่กี้มาบ่เห็น แม่นไผเข็นมาแหว่ แม่นไผแก่มาหา จั่งได้มาคูณค่า ข้าวพันตาใส่บ่เต็ม ตอกเสาเข็ญขวัญแฮก เศรษฐีแทกตงขาง จั่งเอาวางมาก่อ เล้าข้าวพ่อพระยาอินทร์ ไผได้กินข้าวใน เล้า ฮอดพระเจ้าทรงธรรม เผิ่นมานำสอดส่อง บ่มีป่องแปวหนู บ่มีฮูฮอยปวก ปลายบ่กวกเป็นโกน ฮูลิงโทนและนกเค้า เป็นไม้เก่าอินทร์ทรง จั่งเอาลงมาตัดใส่ ไม้แต้ใหญ่ลำแข็ง ทั้งกกแดงและกกดู่ ไปเอาอยู่หิมาลัย บ่มีไผเอาได้ เผิ่นให้ข่อยผู้เดียว อยู่ภูเขียวบ่ได้เผี่ยง อยู่ภูเวียงบ่ได้ท่อเอาไป เสาอยู่ ในเผิ่นให้ปลอก เส้นอยู่นอกเผิ่นให้ฟัน มารวมกันเป็นเสาเล้า ใส่ข้าวจ้าวและข้าวเหนียวไผเหลียวมาว่าแม่นปราสาท งามอาดหลาดปานโฮงหลวง บ่เข็ดขวางคูณค้ำ ใส่ข้าวก่ำ ได้พอซาว ใส่ข้าวขาวได้แสนหาบ ยกมือกราบสามหน เทพอยู่บนจงมาส่อง เฮ็ดนาฮ่องได้ร้อย เกวียน แก่มาเฮือนคนบอกเว้า ขึ้นใส่เล้าหลังสูง ป้ากับลุงเผิ่นมาส่อย เอาฆ้อนต่อยตีขาง ตีแขนนาง และกะทอด เอามาฮอดตงขาง เอามาวางแป้นพาด เอามากาดวางตงใส่ ข้าวเปลือกใส่ตั้งแต่วาน เอาจากลานเกวียนแก่ บ่ได้แหว่ไปใส ไปทางใด๋อย่าได้ห่าง อย่าได้ว่างเติมมา ข้าวอยู่นามาสู่ แม่ โภสพอยู่เชยชม ไม้แป้นลมเอามาแต่ฟ้า พระหน่อหล้าเอามาแฝง ไม้ละแนงข่าวขื่อ ไม้อันชื่อจันทัน มารวมกันหน้าต่าง อยู่บ่ห่างปักกะตู อัดปูลูทอข้าวปลูก
แบ่งให้ลูกสาวใหญ่เก้าลำเกวียน แก่เมือเฮือนแต่เช้า บ่บกเล้าเต็มปอลอ อยู่ในทอแนว ข้าวป้อง อยู่ในห้องข้าวปลาเข็ง เสียงคื่นเค็งเกวียนแก่ พ่อค้าแหว่มาเซา หอมเป็นเลาข้าวแม่ฮ้าง เต็มใต้ล่างเหลือหลาย แม่นสิขายกะบ่เบิ๊ดบ่บกบ่เสียง ยังพอเลี้ยงอยู่เต็มตัน ตักเบิ๊ดวันกะบ่เบิ๊ด บ่เปล่า ยังคือเก่าเล้าหลังคูณ ยังเต็มพูนสวดโจ้โก้ สูงพ้นโผล่ข้าวเต็มฉาง เหลียวเห็นขางจนแอ่น นี้จั่งแม่นเล้าข้าวดี เล้าข้าวมีอำนาจ แม่นบ่ขาดอึดหาย มีอยู่หลายคือเก่า จั่งได้เล่าเอาขวัญ จั่งได้ ชวนเอานารถ ไม้แป้นกาดฮองตง มาแต่โฮงอุปราช เอามาพาดแทนทองคำ เอามานำแต่พระเจ้า จั่งได้เว้าว่า มาเยอขวัญเอย ขวัญไม้ใหญ่ลำสูง ขวัญไม้ยูงลำสื่อ มาเป็นขื่อตงขาง ขวัญไม้ยางและ ไม้แต้ เอาเกวียนแก่มาแต่ภูเงินภูทอง เอามาฮองใส่ข้าว มาเฮ็ดเล้าหลังงาม ไผมาถามว่าปราสาท ยาวอาดหลาดมุงดี สังกะสีบ่ฮั่ว ลูกหลานคั่วไปหา จั่งได้มาปลูกไว้ เป็นหลังใหญ่ถาวร ปานเฮือน นอนพระยาเวส อยู่ในเขตสีพี เป็นหลังดีสีส่อง ข้าวนาฮ่องและนาทาม เขาได้หามทั้งได้หาบ ผู้ข้า กราบสามหน อย่าสิจนทางข้าว ขอเผิ่งเจ้าเล้าหลังดี เป็นเศรษฐีมีมั่ง ให้ได้นั่งนอนกิน ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญไม่ดู่อย่าได้หนี ไม้แสนดีทั้งไม้แดงและไม้แต่ อย่าได้แหว่หนีไปไกล อย่าไปใสให้มา อยู่ มาเป็นหมู่ขวัญไม้ยูง เสาหลังสูงไม้พันชาติ งามองอาจสมศรี
ว่ามาเยอขวัญเอย เจ้าอย่าไปอยู่ไพรสณฑ์ เจ้าอย่าไปอยู่ปนในเถื่อน กับทั้งไม้ตะเคียน แป้นแอ้ม หัวแย้มๆ นางตะเคียน มาเป็นเฮือนอย่าได้เศร้า มาเป็นเล้าคนดี เป็นศักดิ์ศรีเล้าใหญ่ เฮียกข้าวใส่เต็มฉาง คนกายทางเหลียวเบิ่งเล้า เหลียวเบิ่งเจ้าผู้รักษา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้า อย่าได้ด่วนไปอยู่ไกล ไปอยู่ไพรบ่อนเก่า ไปอยู่เหล่าเขาสิฟัน ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่บ้านจักได้ เป็นเศรษฐี อยู่เป็นปีจักเก้าร้อย มีลูกหลานน้อยพอกัน เขาตำข้าวสักกะลันคกมองข้างเจ้า ผู้เป็น เล้าอย่าสะเทือน ตำเป็นเดือนตำเป็นปีทั้งซ้อมต่าว อย่าโอ้อ่าวซังสาว ข้าวขาวๆ เอาจากเล้า ขอ บอกเจ้าเฮ็ดกินทาน พระภูบาลหน่อฟ้า ใต้แหล่งหล้าได้อาศัย ทั้งฟืนไฟอยู่ตะหล่าง อยู่กะส่างอย่า หัวซา พวกชาวนาอาศัยเจ้า อาศัยเล้าข้าวจั่งยัง ขอจงฟังผู้ข้าบอก ยามสงฆ์ออกภิกขาจาร เตรียม จังหันและตักบาตร ตักบ่ขาดหยาดน้ำหา เอาเจ้ามาจากกลางป่า เผิ่นจั่งว่าสู่ขวัญเอา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหม่อมเจ้า ผู้เป็นเล้ารักษา แม่โภสพมานองอั่ง ให้สมดั่งมะโน หมาย ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมัง คะลัง อุ อะ มุ มะ มูล มา มะหา มูลมัง สะวาหุมฯ สาธุฯ
ความทำน้ำมนต์รดเล้าเข้า
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว ธัญญะ ธะมานิ ปะวัสสันตุ ธะนัญชะ ยัสสะ ยะถาฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญา จะ สัพพะโภคา จะ ระตะนา ปะวัส สันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิ กัสสะ โชติกะสุงมังคะลัสสะ จะ มันธาตุเวสสันตะรัสสะ จะปะ วัสสันติ ยะถา ฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะ สิทธิ ภะวันตุ เมฯ
บทนี้ทำน้ำมนต์รดเล้าข้าวดีนักแล ฯ
สู่ขวัญลาน
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อแม่ธรณีแจ่มเจ้า แม่ได้เว้าต่อฝูงคน หมดหน้าฝนลมเป่า เบิด เดือนเก้าวนมา ออกพรรษาลมหวี่ๆ ลมของปี่ข้าวดอและข้าวใหม่ เกี่ยวมาใส่ในลาน บ่ทันเป็นข้าว- สารบ่ทันฟาด ฮวงอาดหลาดมัดเป็นกำ ชาวนาทำทุกหมู่ เอามาสู่ปวงชน ของคนกินแม่นข้าว แม่ แจ่มเจ้าจั่งให้อนุญาโต องค์พุทโธก่อนสิฮู้ ก่อนสิตรัสรู้เห็นธรรม กะกินข้าวเป็นคำมะธุปายาส จั่ง ฉลาดเป็นมา สุชาดาถวายบาท เอาใส่ถาดทองคำ จั่งเห็นธรรมตรัสส่อง จั่งเห็นป่องอริยสัจสี่ จั่งได้ ออกจากที่สอนศาสนา มีปัญญาล้ำเลิศ จั่งได้เกิดเป็นคำสอน พระบวรองค์ประเสริฐ แม่ธรณีจั่งได้ เกิดส่อยนำมา พสุธาพื้นแผ่น ใสปานแว่นพสุธา พวกชาวนาจั่งได้ขุด พวกชาวนาจั่งได้ก่น แม่บ่บ่น จักคำ ชาวนาทำปัดกวาด สิได้นวดได้ตี สิได้วีข้าวสะนุ ดังก้องกว่าเสียงพุเสียงปืน ตีกลางคืนฟาด ข้าว ฟาดข้าวจ้าวและข้าวเหนียว ย่างเที่ยวไปและเที่ยวมา เอาตีนขาเหยียบย้ำตั้งแต่เช้าฮอดค่ำ วนเวียนอยู่เป็นเดือนแสนยาก แสนลำบากแม่ธรณี ขออย่ามีคำโกรธ ขอยกโทษนำชาวนา ขอ ขมานำเจ้าแม่ จงเห็นแก่กินทาน เป็นข้าวสารตักบาตร ชาวนาหยาดวารี อุทิศกุศลให้แม่ธรณี ผู้อยู่ต่ำ ผู้หลิงหล่ำฝูงคน ฮู้อยู่บนพื้นแผ่น ขอจอมแก่นจงปราณี ขอแม่เจ้าธรณีอย่าได้ปาก ลูกจัก เอาจอบถากเสียลาน เฮ็ดบ่นานข้าวขึ้นเล้า ขอแม่เจ้าจ่งอภัย บ่ไปใสให้ได้เบิ่ง ให้ได้เพิ่งบารมี ขอ แม่ธรณีจ่งปกป้อง ในแห่งห้องปริมณฑล พวกฝูงคนจั่งบอก พวกอยู่นอกชาวนา อย่าถือสาลูกช้าง บ่ได้ม้างเพพัง บ่เอาหยังมาข่ม อย่าได้จ่มซังหลาน บ่อยู่นานดอกแม่ เสร็จแล้วแก่หนีลาน ไปเฮือน ซานสู่เล้า ข้าจั่งขอปากเว้าสมมา หมากสองคำยาสองกอก ผู้ข้าบอกพาหวาน เต็มพาพานบ๋าแม่ จงเห็นแก่ชาวนา อย่าถือสาเสียงสั่น เสียงสนั่นสะเทือนองค์ ผู้ข้าปลงมื้อนี้ออกจากที่จักคราว
พวกหนุ่มสาวมาชมชื่น แม่อย่าตื่นตกใจ ศรีนงค์วัยไวอย่ากริ้วกราด อย่าอาฆาตหลาน เหลน อย่าจองเวรพวกผู้ข้า ยามวางต่าครุแคง เขาวางแฮงตึ้งตั้ง บางคนนั่งชันขา บางคนมาเต้นไต่ บางคนไล่จับกัน เสียงโฮงันกินเหล้า พระแม่เจ้าจงอภัย จ่งหยับไปอยู่ขอก ผู้ข้าบอกจักคราว แม่ผม ยาวเก้าโยชน์ งามเหลือโพดมวยผม พระบรมได้ไทรเผิ่ง ให้คึดเผิ่งพระโคดม พระบรมตรัสรู้ พระนั่ง อยู่โพธิ์ศรี พระขันติตั้งหมั้น พระบ่ย้านกลัวมาร เขาอาจหาญมาก่อ เขามาต่อสงคราม ยกพลหลาม แหนแห่ อันได้แก่แหลนหลาว กองทัพยาวพอโยชน์ กุมภัณฑ์โกรธโกรธา เขายกมาว่าสิฆ่า มารเขา ว่าของเขา พระโคเอาแท่นแก้ว เขาบ่อแล้วยิงธนู มาฟันตรูพอหมื่น เสียงคีคื่นคับเวหน มาประจญ มีทั้งช้าง เขามาม้างชิงบัลลังก์ เขาบ่อฟังคำบอกเล่า เป็นของเก่าขานไขมา เสียงมารจาหยาบช้า เสียงมารดาพระจอมธรรม เอามานำหอกดาบ เอามาปราบขับหนี ยกมาตียิ่งผ่า พระบ่ว่าบารมี เอา ขันตีนั่งแท่น พระบ่แล้นไปใส สมดั่งใจเป็นวัตร
สามสิบทัศบารมี จั่งได้ฮอดแม่ธรณีผู้อยู่ใต้ ขึ้นมาไหว้พระโคดม ยกมวยผมขึ้นฟ้า จั่งได้ ว่าอธิษฐาน น้ำไหลท่วมพระยามารโตบังอาจ เป็นน้ำพาดไหลนองมา มีมัจฉาทั้งหมู่แข้ ลากคาบแก่ กุมภัณฑ์ หนีบ่ทันช้างม้า เผิ่นจั่งว่าแม่ธรณี แสนพันปีตุ้มไพร่ฟ้า พวกผู้ข้าบ๋าบน พวกฝูงคนใต้หลุ่ม คนหลายกลุ่มได้อาศัย แม่ศีไวแขนอ่อน จงผันผ่อนปราณี ขอแม่เจ้าจ่งมีเผยแผ่ จ่งเห็นแก่หลาน เหลน ยามกลางเว็นและยามเช้า ขอแม่เจ้าจงอย่าฝืน ยามกลางคืนเขาฟาด เขาบังอาจเหยียบไปมา ขอวันทากราบบาท อนุญาตคูณลาน พวกลูกหลานสิกองข้าว มีข้าวจ้าวและข้าวเหนียว มีคนเทียว มาแหว่ ขอเจ้าแม่จ่งอวยพร ตามคำสอนพระพุทธบาท อย่าให้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญลานพวกลุกหลานขออนุญาต ข้าวไหลมาอย่าขาดเป็นกะบุง ให้ กองสูงเพียงปลายไผ่ ให้ข้าวกุ้มใหญ่ท่อภูผา ให้นำมาอั่งแน่นให้เต็มแผ่นลานคำ ให้จอมธรรมได้นั่ง เม็ดข้าวอั่งเหลือลาน ได้กินทานตักบาตร อย่าได้ขาดทานัง ให้เข้ายังคือเก่า ผู้ข้าเหล่าสามที แม่ ธรณีกะมาช่วย ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิ เมโอมธัญญะ สวาหุมฯ
เสกน้ำประพรมข้าวหลังสู่ขวัญ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง
สุหุฏฐิตัง สุขะโณฯ สุมุหุตโต จะ
สุยิฏฐัง พรหมจาริสุ ปะทักขิณัง
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต
ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตตะวานะ
ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ มา ขะโย
มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ
อุปัททะโว ธัญญะธะนานิ เม ปะวัสสันตุ สะวาหุมฯ
สู่ขวัญเกวียน-รถ
ศรี ศรี ขึ้นดิถีปีใหม่ ข้าผู้ใหญ่ถ่ายราศรี พระภูมีสุริเยศ ถึงฤดูเขตเดือนสาม นางโสม งามเกวียนแก้ว อาบน้ำแล้วจึงลาพร ลมพัดวอนแห้งแล้ว เอาพาแก้วเบิกคูณขวัญ บรบวรพลูพัน และหมากจีบ ใบกล้วยตีบเฮ็ดบายศรี มีทั้งหวีและต่างแก้ว งามลวดแล้วเอามาแยง ของหอมแพง และแป้งป่น งามเลิศล้นปลอกแขน มีทั้งแหวนและสายสร้อย ฝูงตูข่อยจั่งมาหา มีมาลาแลดอกไม้ หามาไว้ใส่บูชา มีผลาและไก่ต้ม มีของส้มและเผือกมัน มากวนกันถวายแก่ พ่อและแม่มาโฮม เอาแขนโจมพาโตก ขอเผิ่งโชคคูณขวัญ ว่า ศรี ศรี สิทธิพระพร เกษรหอมห่วงเฮ้า ข่อยจักเชิญ จอมเจ้าเกวียนคำ ทั้งกงกำและดุมแอก ทั้งทวยแปรกและคานหลัง ทั้งประทุนและหนังผูก เฮ็ดให้ ถูกอยู่หัวเกวียน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปขนไม้ในดงเดินยาก ขวัญเจ้าไปขนหญ้าแฝกมุงหนา ขวัญเจ้าไปขนหญ้าคามุงถี่ ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปรับจ้างขนข้าวในฉาง ขวัญเจ้าไปรับจ้าง ขนทรายและดินจี่ ขวัญเจ้าไปอยู่ที่ทางไกลกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้คืนมาสถาน เฮาอยู่ อย่าไปอยู่แกมหมู่ไม้แนวเหง้าป่งใบ ขวัญทวกให้มาอยู่ทวกทั้งสอง ขวัญคานให้มาอยู่คาน ล่างง่าง อย่าได้ห่างไปไกล อย่าไปใสขวัญแก้ว ว่ามาเยอขวัญเอย มื้อนี้แม่นมือดี ข้าจักทำบายศรี เกวียนแก้ว ทำขวัญแล้วให้เจ้าค่ำคูณเฮือน ถึงฤดูเดือนขวบเข้า ให้เจ้าฮักบ่าไว้ยังงัวควาย ให้สบาย ดีบ่ยาก ลำบากให้เจ้าค่อยเพียรอด ทางมันคดต้นไม้ใหญ่ขวางทาง ฮากไม้วางขวางหน้าอย่าได้ล้ม หักตะแคง
ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ให้เจ้ามีแฮงดั่งราชรถ ให้งามงดคงทน ใส่คนหนัก กะให้ได้ บรรทุกไม้พันลำ ให้ไปนำทางแล่น ไปดินแก่น ดินทราย บ่พองายให้ฮอดบ้าน บ่ได้ย้าน กำลังมี เป็นเกวียนดีแสนประเสริฐ เจ้ามาเกิดเป็นมุงคุล เกวียนมีบุญฮ้อยเล่ม ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้ค่นหักพัง ใส่อีหยังกะให้ได้ เอาไม้ลำงาม เก่งกว่าเกวียนท้าวคันทะนามแก่ไม้ แก่ไม้ไผ่และ ไม้บง สมประสงค์จิตจ่อ เกวียนมูลพ่ออยู่หลายปี มีรังสีเฮืองฮุ่ง ฝูงตูข้าให้อยู่เย็น ความบ่ดีอย่าได้ เห็น ความเคราะห์เข็ญอย่าได้พ้อ ให้เทียมหน่อรถพระอินทร์ ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะละ มะหา มุงคุล สาธุฯ
(ถ้าสูตรให้รถให้เปลี่ยนคำว่าเกวียนเป็นรถทั้งหมด)
คำผูกทวกเกวียน นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะวาจาว่า พระรัตนตรัยเจ้าเป็นที่พึ่งของเฮา เฮาบ่เอาอันใดเป็นที่พึ่ง ด้วยสัจจะวาจานี้ขอเกวียน (รถ) จงไปมาสวัสดีมีสุขีไปมาฮอด อยู่ตลอดบ่มีภัย ความจัญไรอย่า ได้พ้อ ให้พ้อแต่ลาภาหนุนกันมาพร้อมพรั่ง อั่งๆ ขึ้นคือน้ำ น้ำแม่นะที มะอะอุ อุ อะ มะ นะ ชา ลิ ติ สาธุ
อ้างข้อความนี้อ้างข้อความนี้14-02-2008, 17:34#3
ฅนภูไท ฅนภูไท is offline ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
สัญลักษณ์ของ ฅนภูไท วันที่สมัคร Apr 2007 กระทู้ 2,115 บล็อก1
สู่ขวัญม้อน (ตัวไหม)
ศรี ศรี สิทธิเตโชนะโมเป็นเค้า ตั้งแต่เจ้าครองเมืองทวาย มีมาหลายเหลือหลาก บ่อึด อยากไหมพรม พระบรมตกแต่ง ลงมาแห่งเมืองคน บ่ฮู้จนผ้าผ่อน ตั้งแต่ก่อนดึกดำบรรพ์ เล่ากันมา ติดต่อ นางน้อยหน่อพระยาแถน ฝ้ายผูกแขนไหมเส้นค่อง ไหมเส้นส่องและไหมคอ ก่อนสิทอเป็น เส้นได้ ตำนานไล่แต่เดิมดา ไหมเอามาจากม้อน ข้าขอย้อนเล่านิทาน ตามตำนานเว้ากันอยู่ ตั้งแต่ ปู่เมืองทวาย มีคนหลายเหลือหลาก มีหญิงมากกว่าผู้ชาย มีของขายแน่นอั่ง แม่ค้าหลั่งมาขายของ ตามทำนองขายผ้า งามระย้ามัดหมี่ไหมทอ มีไหมคอเส้นแลบ มีไหมแบบขิดลาย เขาวางขายเป็น หมู่ เขาวางอยู่ผืนไหม มาแต่ไสไผบ่ฮู้ ไผบ่รู้ว่าไหมพรม ฟืมตำโคมหลาวสับสอด เป็นไหมขอดแม่ แกงวี แม่แกงตีสาวไหว่ๆ แม่เฒ่าใหญ่ไปเก็บมอน ตาออนซอนเหลียวเบิ่งม้อน
ตั้งแต่ก่อนบ่ทันมี แม่ย่าดีกับปู่เฒ่า สองหน่อเจ้าอยากกินทาน จังสานพานเป็นกะด้ง ลง ไปท่งปลูกมอนสวน สองสีนวลเห็นฝักหลอก พ่อเฒ่าบอกว่าเก็บเอา ไปเฮือนเฮาให้เป็นที่ คืนที่สี่บี้ ออกมา แมงมีขาโตขาวอ่อน บี้ผู้ด่อนหางงอๆ คือโตปอบินพืบพาบ เอามาใส่ผ้าขาบผืนมนๆ บ่ทัน ดนมันไข่ จั่งเอาใส่ในกะเบียน เก็บในเฮือนลูกม้อน เป็นโตอ่อนยังนอนเว็น ไผมาเห็นว่านอนเว็นนับ เป็นมื้อ สามวันฮื้อขี้ออกเสีย โตไหมเฟือนนอนสี่ ออกจากที่ยอคอ โตมันนอเอิ้นว่าม้อน แม่ใหญ่ อ่อน แม่ใหญ่สี กับทั้งแม่ใหญ่ดีเปิดเบิ่งด้ง เก็บเอาใบมอนป่งมาโฮย ลมพัดโชยมือกวัดแก่ง บี๋มอน แบ่งเป็นใบ เอาลงไปปกโตม้อน โตกินก่อนเล็มใบมอน ตาออนซอนออกเลียขี้ ออกจากที่สิบสองวัน มาโฮมกันนอนสี่ เอาผ้าหี่คลุมดี โตอับปรีคือแม่ด้วง บินมาล่วงคือแมลงวัน มาโฮมกันกัดตอดเข้าไปกอดกับตัวนาง ขี้ไก้ขางหนอนบ่อน ปิดไว้ก่อนยามเกือม้อน ยามันนอนอยู่กระด้ง ใบมอนป่งเก็บเอามา โพนหัวนาใบก่อง โพนฟากฮ่องใบหนา ไปเก็บมาเลี้ยงม้อนน้อย ใบมอนอ่อย สุกงอม โตได๋ผอมเอาออก เป็นฝักหลอกไหมงาม เสียงคนถามว่าดักแด้ ถามแม่แก่กำลังสาว บ่พอ คราวนำน้ำฮ้อน ฝักหลอกย้อนดึงไหม สาวไวๆ ดึงแคกๆ สายไหมแตกออกมาโฮม เบิ่งคนชมไหม ค่อง มือแม่จ่องดึงไล มือดึงไวใส่กระต่า ปากกะว่าไหมคอ สาวจนพอตาเว็นบ่ายๆ เอามาใส่อักไหม บ่ทันใด๋เบิ๊ดฝักหลอก แล้วเทออกลงกระเบียน ยกขึ้นเฮือนเป็นดักแด้ แบ่งกันแนกินนำกัน โตของมัน สุกอ่อน ขาวอ่อนหล่อนคือโตหนอน ตาออนซอนวางใส่ถาด เหลือสะอาดกินมันๆ กินนำกันแสน แซบซ้อย พวกเด็กน้อยเอาใส่มือ พากันถืออยู่ตะหล่าง พากันย่างกินนำทางเป็นขุนนางนุ่งผ้าใหม่ เป็นขุนใหญ่ทรงกระเบน ผู้ใด๋เห็นไหมงามเลิศ บุญประเสริฐคือ ไหมคอ ต่ำแล้วยอเป็นผืนผ้า งามล้นค่าแสนเมือง เป็นสีเหลืองคือผ้าเบี่ยง ตัดเป็นเครื่องจีวร ตา ออนซอนตอนพระห่ม บ่ได้จ่มเสียดาย เอาถวายเพื่อผู้ไปเกิดในสวรรค์ เป็นจอมทันเทวราช อยู่ ปราสาทนำอินทร์พรหม เป็นบรมทิพย์อาสน์ อยู่ปราสาทแดนไกล ทานผ้าไหมแก่พระเจ้า เผิ่นจั่ง เว้าได้อรหันต์ มารวมกันอย่าได้ห่าง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ป่านำม้อน ขวัญเจ้าไปนอนอยู่นำพุ่ม ขวัญเจ้าไปอยู่ อุ่มเฟือยหนาม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปนอนลี้หนีไฟในฝักหลอก กะให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้า ไปอยู่ถ้ำทางพุ้นป่าพนอม ขวัญเจ้าไปเซายั้งนำจอมเทวราช ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย เผิ่นบ่เอาเจ้าไปใส เอาใส่ไฟขอเส้นไว้ เผื่อสิได้เส้นไหมคอ เอาไปทอเป็นซิ่นหมี่ เอาใส่สีกางวา เอา ไปหาย้อมครั่ง ให้เจ้านั่งเมืองพรหม ถวายพระบรมศิษย์พระศรีธาตุ งามสะอาดจีวร เอาไปนอนฮอง อาสน์พระเจ้า
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญม้อนนอนสาม โตเจ้างามนอนสี่ พวกน้องพี่เขานุ่งไหมพรม เขา ได้ชมว่างามเลิศ ม้อนประเสริฐกว่าหมู่ทั้งมวล บรบวรทุกอย่าง ให้ได้ดังบาทพระคาถาว่า ชะยะตุ ภะวัง ชะยะมัง คะลัง สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุฯ
สู่ขวัญเฮือน
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีอันมีนกเอี้ยง จั่งได้เสี่ยงหาขวัญมา ภริยาเมียมิ่ง แก้ม ปิ่งสิ่งหาเอาของ ทั้งแจ่วบองและมีดพร้า ได้เตรียมพร้าขวานคม สิไปชมป่าไม้ โบราณว่าเอาไม้แข็ง มีไม้แดงและไม้แต้ กิ่งก้านแผ่ในไพร แบกขวานไปสิปล้ำถาก หาบ่ยากไม้เสาเฮือน ไปเป็นเดือนยาม ออกใหม่ เอาลำใหญ่ยูงยาง เอามีดถางเบิ่งฮอดเหง้า จั่งบอกเจ้ารุกขา หมู่เทวดาเฝ้าอยู่ เฮ็ดนำปู่ ตามครูสอน ต้นมันงอนคดก่ง เผิ่นให้จ่งอย่าตัดมา บ่งามตาเอาไว้ก่อน หาเอาบ่อนลำสื่อปานเทียน เอาลำเหมือนเสาเมรุราช เอาเสาอาจดั่งโฮงอินทรา จั่งเอามาเป็นเสาเฮือนอยู่ ดีกว่าหมู่ไม้จิกไม้ฮัง จั่งมายังเสาเฮือนและเสาแฮก เจ้าจั่งแบกมาหา คันได้มาเก้ากำเก้าศอก เจ้าจั่งบอกเทพา ขอเผิ่น มาเป็นโฮงนอนแผ่ ขอมาปลูกให้แม่นอนเย็น นอนกลางเว็นได้เงินหมื่น นอนตื่นให้ได้เงินแสน ทั้งได้ แก้วได้แหวนหลายหลาก
เจ้าจั่งเอาขวานถากตัดฮอน ตัดเป็นตอนฮอนหง่า ต้นเผิ่นว่าเป็นโกน ต้นเทิงโพนเผิ่น ห้าม ต้นเป็นง่ามปลายตาย บ่ดีหลายอย่าไปต้อง อย่าไปข้องเอามา ผิดตำราพ่อแม่ พวกเถ้าแก่ โบราณ มาปลูกเฮือนปลูกซานบ่ราบรื่น บ่สดชื่นมีแฮง เป็นเฮือนแข็งเข็ดขนาด อย่ามาพาดเฮือน นอน มันเป็นหนอนเจาะปู่ บ่ได้อยู่สุขสันต์ เอาขวานฟันเป็นเสนียด มันจักเดือดตอมตาม หา ความงามบ่ได้ เป็นคนไฮ้อนาถา อย่าเอามาบ่ถืกโสก หาเลาะโคกตัดเอา ตัดเอาเสาสิบสองต้น อย่าให้ค่นขวางทาง อย่าให้วางกลางไฮ่ ต้นไม้ใหญ่ไฟลน อย่าไปขนไปแก่ ต้นแก่แด่มันตาย อินทร์พรหมหมายเผิ่นบ่ชอบ บ่ประกอบเป็นเฮือนชาน ปลุกไปนานเกิดเสนียด คนบังเบียดโจรา อย่าเอามาเป็นกะทอด อย่ามาจอดเป็นขาง อย่ามาวางเป็นขื่อ
ว่ามาเยอขวัญเอย เขาได้ตัดเจ้าล้ม เจ้าอย่าจ่มโมหัง ให้เจ้าฟังอย่าด่วน ว่ามาเยอขวัญ เอย ขวัญเสาแฮกอย่าได้หนี ขวัญเสาขวัญอย่าได้แล่น ให้เจ้าใสคือแว่นพระอินทรา ให้ขวัญเจ้า แล่นมาอยู่ลีล้ายลีล้าย ขวัญเจ้าย้ายทั้งขางตง ขวัญเจ้าลงทั้งขางขื่อ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเสา นางอย่าหลงทางป่องท้าง ให้เจ้ายาวไวๆ เสียงเรไรแมงง้วง เจ้าอย่าห่วงกลางดง ให้เจ้าลงมาสู่ ให้มาอยู่นำหลาน ทั้งขวัญซานติดต่อ ให้เจ้าก่อกองคำ ให้เจ้านำกองแก้ว มาฮอดแล้วอย่าไปใส
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญไม้จิกให้เจ้ามาอยู่ ขวัญไม้ดู่ให้เจ้ามาเวียน ขวัญไม้ตะเคียนให้ เจ้ามาใหญ่ มาตุ้มไพร่ลูกหลานมีแฮง ขวัญไม้แดงมาเฮียงไม้แต้ มาเป็นแม่กะได มาเป็นคิงไฟให้ นึ่งข้าว ให้มาเฝ้าอยู่ชายคา ยามเจ้ามาเอาเป็นเงินล้าน มาอยู่บ้านนำหลาน มาอยู่ซานวางแอ่ง ห้อยต่องแต่งกระบวยนำ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้หนีไปอยู่ไฮ่ ขวัญเจ้าอย่าไปไล่กวาง ฟาน มาอยู่ซานบ่เหงี่ยง ให้เจ้าเที่ยงคือพระยาแถน ว่ามาเยอขวัญเอย แป้นแอ้มใหม่คือไม้แดง ตงขางแข็งคือไม้แต้ เอามาแต่เมืองสาละวัน ไม้จันทันและหน้าต่าง วิสุกรรมเป็นซ่างป่อนมาหา ไม้สะยัวหลังคาพระอินทราตกแต่ง เผิ่นจัดแจ่งตงขาง เอามาวางพิงพาด ดูสะอาดโฮงหลวง คนทั้ง ปวงมาโฮมแห่ พวกเฒ่าแก่มาออนวอน มาเฮือนนอนเย็นซุ่ม ใต้เมืองหลุ่มงามหลาย ปานเดือน หงายใสส่อง บ่มีป่องฮูฮอย
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเสาแฮกไปหลงอยู่กลางทาง ขวัญเสากลางไปหลงอยู่ป่า ไปอยู่ ท่านอนเซา ขวัญเสาเหนือและเสาใต้ กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญขื่อขวัญขาง ขวัญแขนนางและกระทอด ให้ออดหลอดออดหลอดมาไวๆ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญจงมาพลัน อย่าช้า ให้เจ้ามาพร้อมหน้าพาขวัญ สิ่งสมควรขุนแต่งไว้บ่ห่อนไฮ้สวัสดี จำเริญศรีเหลือหลาก มีมวลมากสถาพร สุขทั้งนั่งสุขทั้งนอนบ่คลาดแคล้ว ปลุกเฮือนแก้วให้ผาบแพ้ข้าศึกศัตรู ชัยยะตุ ภะวัง ชัยยัมังคะลัง มหามุงคุล จงมีแก่ฝูงข้าทั้งหลายก็ข้าเทอญ
เสกน้ำรดเฮือนหลังสูตรขวัญแล้ว
นะโม เม พุทธะเตชะสา ธัมโม เม ธัมมะ เตชะสา สังโฆ เม สังฆะเตชะสา ระตะนัตตะยะ ธัมมิกา เตชะ ปะสิทธิปะสีเทวา สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา ชะยะสิทธิธะนัง ลาภัง สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสันตุ สะทา โสตถี ภะวันตุ
สู่ขวัญน้อยก่อนแต่งงาน
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อดิถี อะมุตตะโชค โตกใบนี้แม่นโตกไม้จันทร์ ขันอันนี้แม่น ขันมหาราช จากปราสาทอินทรา ป่อนลงมาให้หมู่เจ้า ให้ผู้เฒ่าแต่งพาขวัญ ศรีองค์อวนอ่อนน้อย สองแจ่มจ้อยนั่งเฮียงกัน มีทั้งขันเบ็ญจมาส งามองอาจช่อมาลา ผู้ได้มาพบพ้อ งามกะด้อคนมา เห็น แต่งแต่เว็นฮอดฮุ่งเช้า สองหน่อเง้าพระยาแถน แต่เมืองแมนปั้นป่อน มาอยู่บ่อนเคหา มาอยู่ ชายคาฮ่วมห้อง เฮ็ดถืกต้องตามตำรา
อาคัจฉาหิ ชะยะตุ ภะวัง ชะยะมังคลา ติเรกะเตโช ล้ำเลิศ สุดประเสริฐเหลือหลาย เห็น เดือนหงายเจ้าอย่าได้ด่วน จิตอย่าป่วนไปไกล อย่าไปไสให้อยู่ห้อง อยู่ฮ่วมน้องพัวพัน อยู่ดอมกัน ฮักห่อ เป็นดังลูกพ่อ แม่เดียวกัน เมืองสวรรค์ปั้นป่อน ตั้งแต่ก่อนชาติหนหลัง ตามมายังมนุษย์โลก จั่งเป็นโชคแต่บุพเพ อะตีเต กาเล อะติชานาติ ตั้งแต่กี้เคยฮ่วมกันมา ดวงชาตาจั่งถืกต้อง จั่งได้มา ฮ่วมห้องเตียงนอน ให้เจ้าอยู่เป็นคู่สอนลอน สอนลอนทุกค่ำเช้า ว่ามาเยอขวัญเอย
ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นหิมะวันป่าไม้ใหญ่ ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นไพรหนาพนามาส ขวัญเจ้า ไปเห็นปราสาทหมื่นห้อง ทองเหลื่อมสง่าศรี เห็นนารีแย้มแนมนำเขา กะให้ต่าว ขวัญเจ้าสาวเห็น บ่าวน้อยเชิงชู้ให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวค้าแดนไกลประเทศต่าง ขวัญเจ้าย่าง ข้ามน้ำทะเลกว้างย่านไกล กะให้มาสามื้อนี้วันนี้
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำตอนเหนือหาเที่ยว ไปคนเดียวเลาะเล่นอิดแล้วให้ ต่าวมา ขวัญเจ้าพาสาวเล่นวารีลงอาบ ล้างส่วยแล้วขวัญเจ้าให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าไปทางก้ำหงสา มะละแม่ง ขวัญจอมแพงไปอยู่พุ้นโตเจ้าให้ดุ่งมา เมืองลังกาทางพุ้นกลางนะที ปากอ่าว เห็นสาวงามอย่าสิเว้า เด้อเจ้าอย่าสิหลง เมืองหงสาอยู่หย่อน ๆ นครลุงอยู่ห่าง ๆ เมือง เชียงตุงอยู่ซ้ง ๆ โขงกั้นให้ด่วนมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าเคยไปเล่นแดนแกวแม้วกะเหรี่ยง อย่าฟังเสียงถูกเอิ้นให้ เมินหน้าต่าวมา ขวัญเจ้าไปหาแก้วนำแกวทางไซ่ง่อน ให้เจ้ากลับต่าวย่อนมาซ้อนคู่เคียง ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นพนมเปญเขมรต่ำ พระตะบองฝ่ายก้ำทางพุ้นบ่อนชม นครทมเขมร พุ้น สาวงามเสียมราฐ ชมปราสาทนครวัดอย่าได้ช้ามาถ่อนอย่าอยู่นาน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าเลยไปพุ้นภูชุนสัตนาค หลวงพระบางให้ย่างย้ายกลายก้ำให้ หล่ำมา ขวัญหูขวัญตาพร้อมเกษาแขนข้อ ทั้งขวัญคอไหล่ท้องให้มาห้องแห่ง เฮาขวัญเลาคีงตน ตัวด้วยขวัญมวยผมขาแข่ง ขวัญคำแพงลูกแก้วฟังแล้วต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ เมามัวช้า ให้มาหานางนาถ มาปราสาทใหญ่กว้างสองเฒ่าอยู่คอย
เอถะ ตาตา ปิยะปุตตะกา คันขวัญมาเถิงแล้วเฮือนซานบ้านส่อง ให้เจ้านอนอยู่ห้อง สบายเนื้ออย่าคะนิง ว่ามาเยอขวัญเอย โพยภัยฮ้ายอันตรายอย่ามาเบียด อย่าให้ความเดือดฮ้อน มาใกล้ให้ห่างหนี ขอให้มีสุขล้นอนันตังตื้อติ่ว หิวหอดฮ้ายให้หายเสี่ยงอย่ามี สมบัติล้นอนันตังมูล มาก อย่าได้ทุกข์ยากฮ้ายหลายล้นสิ่งของ ให้เนืองนองคือน้ำ ไหลมาอานันต์เนก ให้เป็นเอกลื่นล้น คนย่องทั่วไตร คึดใด๋ให้เจ้าได้สมดั่งมโนหมาย ทั้งเงินคำมีหลาย โกฏิกือกองล้าน ให้กินทานเหลือ ล้นอานิสงฆ์นำส่ง ตามประสงค์คึดไว้มโนแม้นดั่งพระทัย
ว่ามาเยอขวัญเอย คันนอนตื่นให้เจ้าเห็นเงินเต็มพา คันเจ้าหลับตาให้เจ้าฝันเห็น หน่วยแก้ว ให้เจ้าคลาดแคล้วจากมลทิน มีของกินเหลือหลาก ลูกหลานมากมาโฮม เสียงทม ๆ คีคื่น ให้ล้นลื่นคนทั้งปวง อย่าขัดขวางโชคลาภ มีคนกราบวันทา ให้มีไฮ่แสนวามีนาพันไฮ่ มีทั้งไก่ และหมูหมา มหิสา โคณา คือว่า งัวควายและช้างม้า มีข้อยข้าพอพัน มาโฮมกันชูส่อย มีคนส่อย ญาติกา มีคนมาแหนแห่ ให้เจ้าสุขยามแก่มีกินทาน มีสมภารแก่กล้า ให้มีหน้าคนชม เสียงทม ๆ คนยอย่อง มีพี่น้องเหลือหลายกินทานไปได้บุญมาก มีหลายหลากบุญนำ หลุดเวรกรรมอย่ามาสู่ ให้ได้หมู่เป็นเศรษฐี ให้เจ้ามีแสนสิ่ง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้ามาโฮมอยู่ อย่าป๋าหมู่ไล่หนี ขวัญเจ้าจงมีสุขอาจ อยู่ปราสาท หลังสูง มีคนจูงในทางเลิศ แสนประเสริฐเหลือหลาย ให้เจ้ามีเฮือนซานหลังใหญ่ ให้มีไพร่พลแสน ดั่งเมืองแมนทิพย์อาสน์ มีอำนาจดั่งพระยาราชสีห์ มีเสียงดีดั่งนกการะเวก ให้เป็นเอกในเมืองคน อย่าได้จนอึดอยาก ทุกสิ่งมากเหลือตา มีเสนาแหนแห่ ให้ลื่นพ่อลื่นแม่เงินคำ ทั้งศีลธรรมล้ำเลิศ แสนประเสริฐสุขสันต์ มานำกันกุศลเก่า ทั้งพงศ์เผ่าวงศ์วาน ทั้งกินทานอย่าได้ขาด ทั้งตักบาตร และจังหัน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง มังสังเนื้อสังขารอย่าเหี่ยว คนเหลียว เห็นให้ผ่องแผ้ว เห็นแล้วส่องนำ ทั้งกรรมนั้นโทษา มีโทษความโกรธนั้นหายสิ้นปิ่นหนี อย่าได้มีมา ต้องสนองนำกรรมไล่ เฮ็ดอันใด๋ค้าอันใด๋กะให้ได้ สมแม้นปรารถนา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ ขอจงเป็นสุข เป็นสุข ทุกทิพาราตรี เทอญฯ สาธุ
สู่ขวัญเด็กน้อย
เป็นการรับขวัญเด็กเกิดใหม่ เพื่อให้เป็นคนดี มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มี คนนับหน้าถือตาเมื่อเติบใหญ่ ได้เป็นเจ้าคนนายคน มั่งมีเป็นมหาเศรษฐี มีบริวารคับคั่ง ดังคำ สู่ขวัญว่า
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อดิถีกุมารมาเกิด แสนประเสริฐมาคูณเฮือน นับสิบเดือนทศ มาส เจ้าหาญอาจอยู่ในครรภ์ ดั่งดวงจันทร์มาเกิด ลูกประเสริฐมาดอมเพลา เบิ่งเลาคิงอยู่ส้อยล้อย ส้อยล้อย เจ้าอ่อนน้อยมาแต่แถน มาแต่แมนเมืองฟ้า พระหน่อหล้าจอมไตร ภูวนัยตกแต่ง มาแต่ แห่งดุสิต จุติมาถือดาวฤกษ์ ลูกมาถึกยามราชา จุติมามนุษย์โลก นับเป้นโชคของบิดาและมารดา มาห่วมชายคาปู่ย่า มาเป็นค่าไพฑูรย์ มาอยู่คุณค่าเลิศ เจ้ามาเกิดคนออนซอน เจ้างามงอนองอาจ ดูประหลาดดั่งทองคำ ผมดำดีผุดผ่อง คิ้วกะก่องคันธนู ไผมาดูว่างามเลิศ ว่าเจ้าเกิดจากดาวใส มาแต่ไกลวิมานเมฆ เจ้าเป็นเอกในโลกา
ดั่งสีดาพระรามลักษณ์ บุญเจ้าชักนำพา จั่งลงมาเอากำเนิด จั่งมาเกิดในเมืองคน สัปทน กันกั้ง ให้เจ้านั่งเป็นพระยา ให้เจ้าเป็นราชาครองราช ให้เจ้าได้ปราสาทสามหลัง อยู่ในวังเจ็ดชั้น มี ผู้ปั้นแต่งนำมา คนไหลมาโฮมห่อ เป็นต้นหน่อพระบรม มีคนชมพอหมื่น ให้ล้นหลื่นคนทั้งหลาย ทั้ง หญิงชายนบนอบ อันประกอบศฤงคาร บริวารพอโกฏิ อย่ามีโทษมาพาล บริวารขวาซ้าย ยามเจ้า ย้ายไปมา มีรถราฮองนั่ง มีคนหลั่งไหลโฮม มีคนชมแหนแห่ ให้พอแม่ยินดี มีฤทธีดังพระอุปราช ฤทธีอาจดั่งนารายณ์ ไปทางใด๋คนอ่อนน้อม ให้มีพร้อมดั่งพระอิศวร บรบวรคับคั่ง ให้ได้นั่งวิมาน ทอง มีแนวฮองเป็นแท่น ปัญญาแหล่นดั่งศรีธนญชัย ปัญญาไวดั่งเสียวสวาสดิ์ ให้ฉลาดดั่ง เวสสันดร พระภูธรคนมากราบ ให้เขาฮาบปานหน้ากลองชัย เวลาไปเสด็จด่วน ให้เจ้าหม่วนใน พระทัยคึดอันใด๋ให้เจ้าได้สมดั่งใจหมาย มีทรัพย์สินเหลือหลายล้นหลาก อย่าให้อึดให้อยาก เงินทอง ไหลเนืองนองแน่นอั่ง คำไหลหลั่งดุจนะที มีนารีมานั่งเฝ้า ยามเจ้าเว้าคนเกรงขาม มีกาย งามดั่งเทพเจ้า มีคนเฝ้าล้อมแห่แหนหาม มีคนตามพอโกฏิ์ อย่ามีโทษอัญหาญ อย่ามีพาลอันกล้า มีข้อยข้าพอกือ มีคนถือของส่ง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ไปเนาค้างสวรรค์ทองปราสาท ขวัญเจ้าอย่าได้ประมาทเล่นนำเค้าเก่าหลัง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ไปอยู่ยั้งนำแม่เก่าเจ้าเด้อ ขวัญอย่าได้ไปนอนเผลอนำ พ่อเก่า ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้ามาฮีฮัก-ฮีฮัก จ่งมาพักกินนมหวาน แม่เจ้าเอาท้องมานตั้งเก้า แม่เจ้าเฝ้าเกือบพอปี แม่เจ้ามีน้ำนมให้ดื่ม แม่เจ้าตื่มแพรลาย แม่เจ้ายายผ้าอ้อม แม่เจ้าป้อมแพร ไหม แม่เจ้าหาอู่ให้เจ้าอยู่นอนเว็น ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปวังน้ำกินรีลงอาบ ขวัญเจ้าไปเที่ยว เล่นเห็นกล้วยหน่วยใส ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหิมะวันป่าใหญ่ มีผลาหมากไม้สุกพร้อมสู่แนว แงวหวาน จ้อยบักไฟมี้หม่วง ให้เจ้าละอย่าหว่งเล่น มาถ่อนแม่สินอน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ด่วนไปไกล ขวัยเจ้าอย่าได้ไปบ่ต่าว มากินกล้วยหน่วย ยาว มากินปิ้งปลาขาวแม่สิป้อน แดดสิฮ้อนมาอยู่เฮือนเฮา ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่อู่สายไหม อย่า ไปไกลแม่สิกล่อม มากินอ่อมปลามัน มากินจันน้ำแอ่ง แม่ตกแต่งเต็มพา แม่หามาไว้ลอมหล่อ-ลอม หล่อ มาอยู่กับพ่อเจ้าเด้อ อย่าไปเผลอมัวแหล่น ซูนไม้แก่นขาเจ้าสิแพลง ซูนไม้แข็งขาเจ้าสิโค่น
ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อเจ้าบ่นนำหา พ่อไปนาสิเอาปลามาป้อน แดดฮ้อน ๆ พ่อสิพาเซา ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อแห่งจ่มนำหลาย ผ้าแพรลายผืนใหม่ ผ้าห่มใหญ่พ่อเอามาห่มกาย ยามหนาว มาพ่อกอด ฮ้องจอก ๆ นกแจนแวน เอาสองแขนโอบกอด ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำ แดนไกลประเทศต่าง ขวัญเจ้าย่างอ่อมอ๋อ อย่างอ่อมอ้อยขวัญน้อยให้ต่าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปหลงดงใหญ่ เห็นนกไส่สับโกน อย่าไปโตนตามตาด ย่านเจ้าพลาดขาแขน อย่าไปแหงนจอบส่อง อย่าไปก่องสาขา ไม้ดีดตาเจ็บปวด ใหญ่พอบวช พ่อสิให้บวช ให้ท่องสวดคำภีร์ เฮียนบาลีค่ำเช้า ครองพระเจ้าศีลทาน อย่าอยู่นานให้เจ้าต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำ สาวัตถีเมืองใหญ่ ขวัญเจ้าไปอยู่ก้ำในถ้ำเถื่อนดง ขวัญเจ้า หลงไปพุ้นภูซูนไซ่ง่อน ขวัญเจ้าไปอยู่ซ้อนชาวแม้วกะเหรี่ยงดอย ขวัญเจ้าไปคอยถ่าสาวกุลาพาย หย่าม ขวัญเจ้าไปย่านน้ำทะเลกว้างอ่าวไทย เจ้าอย่าได้หลงอยู่ทะเลวน
ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่ห่มเฮือนเฮา มาอยู่เพลาพ่อแม่ พวกเฒ่าแก่ปู่ย่าตายาย คนมา หลายเหลือหลาก มีของมากกุมาร มีของหวานตกแต่ง ของทุกแห่งเอามา มีผลาหมากไม้ เอามาใส่ พาพาน เป็นของหวานหมากม่วง เจ้าอย่าห่วงของเข้า ให้มากินของเฮาแม่ตกแต่ง แก้มแป่งแส่ง อย่าได้กลัว พ่อบ่ตั๋วคอยถ่า ทั้งแม่ป้าและพ่อลุง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้หลงทางไกล ขวัญเจ้าอย่าได้ไปทางอื่น ขวัญเจ้าอย่าได้ตื่นเสียงโฮ เสียงคนโสคึดฮอดเจ้า นั่งเค้าเม้าปู่เฮามา พอปานตาฮักห่อ ลูกของพ่อให้ฟ้าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งให้เจ้าอย่างลีลา-ลีลา ขวัญขาให้เจ้าอย่างลีล้าย-ลีล้าย ให้ เจ้าย้ายเข้ามากินนม ให้แม่พ่อนอนชมหอมแก้มฟอด-ฟอด ให้พ่อแม่ได้กอดเย็นเช้าเอาขวัญ ว่า มาเยอขวัญเอย มาอาบน้ำโอ่งหิน มากินน้ำแอ่งใหญ่ แป้งแม่ใส่ทาโต งามพาโลผิวอ่อน ๆ เอานอน บ่อนแพรลาย เอานอนหงายโกนสอด ๆ พ่อแม่กอดไล่แมงวัน กะแจะจันทน์ตกแต่ง แก้มแป่งแส่ง แพงปานตา ยุงบินมาบ่ได้พ่อสิไล่ให้มันหนี ว่ามาเยอขวัญเอย มาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่สวัสดี จงสุขี ตราบต่อเท่าอายุเจ้าได้ฮ้อยพระวัสสา ก็ข้าฯ เทอญ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุ
คำผูกแขน ศรี ศรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายหมอเฒ่า องค์พระพุทธเจ้าป่อนประทานมา มี ฤทธาปราบแพ้ซวงพ่อแม่กะให้หนี ฝูงพลายผีกะให้พ่าย กูสิไล่ให้สูหนี อย่าได้มาราวีหลานน้อย กูจักปราบให้สูหนีไปจ้อยด้วยพระคาถาว่า สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะ สังฆานุภาเวนะ สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสสันตุ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุ
สู่ขวัญเด็กน้อยชายและหญิง
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีมาสู่ เข้ามาอยู่ในเคหา เผิ่นป่อนมาให้เกิด ผู้ประเสริฐ มาอยู่นำ พระจอมธรรมแก้วแก่น ใสป่านแว่นกุมาร สามสิบสองประการครบถ้วน งามทุกส่วนกายา เทวดาเผิ่นบอก เผิ่นให้ออกจากครรภ์ คือดั่งพระจอมธรรม์เสด็จด่วน งามทุกส่วนลัคนา มาจาก เทวดาสวรรค์ฟ้า ลูกหน่อหล้ามาอยู่นำ สุดงามขำแก้วกิ่ง มาเป็นมิ่งขวัญตา เจ้าลงมาแถนหล่อ เจ้าคือหน่ออินทรา เจ้าจั่งมาฮ่วมห้อง มาสู่ท้องมารดา อุปมาจั่งยุพราช ฤทธีอาจเหลือหลาย สม เป็นชาย-สตรีเพศ งามวิเศษดั่งพระราม หูตางามคิ้วคาดโก่ง เอวองค์ส่งวิสุกรรม คนแนมนำบ่ได้ ขาด งามองอาจดั่งพระพรหม คีงขาวกลมพอปานเสี่ยน สมองเลี่ยนไหลไว คืออันใด๋เจ้ากะป่อง เจ้ากะค่องคือโกษาปาน คือสั่งหนุมานโตอาจ มีอำนาจดั่งพระนารายณ์ บริวารมีหลายดั่งทวยเทพ บนฟ้า งามใบหน้าดั่งพระอุมา งามสองตานางงามกะบ่ท่อ ลูกของพ่อกับแม่คูณเฮือน ใสปานเดือน บ่มีเมฆ ให้เป็นเอกในเมืองคน อย่าเป็นคนจนอนาถ อย่าได้ขาดเงินทอง ให้เนืองนองอออั่ง ให้ได้นั่งเป็นพระยา ให้ได้มามีอำนาจ ได้ปราสาทสามหลังอยู่ในวังเฮืองฮุ่ง ให้พ้นพุ่งเกิน คน อย่ามีจนจักหยาด มีอำนาจครองเมือง จงมีเสียงเว้าม่วน ให้คนด่วนมาฟัง คึดอีหยังให้สมมาตร ให้เจ้าได้สมปรารถนา เป็นชาวไฮ่ชาวนาให้หมานข้าว เฮ็ดใส่เล้าเต็มเยีย บ่มีเสียอออั่ง ให้ได้นั่งเป็น เศรษฐีให้เจ้ามีเงินล้าน ให้มีบ้านปานวัง อยากได้หยังกะให้ได้ มีบ่าวไพร่พอแสน ให้มีสร้อยมีแหวน และม้าว ก้าวไปเหนือให้เจ้าใหญ่ ก้าวไปใต้ให้เจ้าดี ให้ได้มีคนบอก ก้าวขาไปตะวันออกให้เจ้าพ้อ ไหเงินไหคำ ก้าวไปตะวันตกให้มีคนนำแหนแห่ ให้มีแต่บริวาร มีสมภารเหลือหลาก อย่าอึดอยาก แนวใด๋ ตนโตใสหายพยาธิ์ ขาวสะอาดดั่งนางวิสาขา มีปัญญาดั่งศรีปราชญ์ ให้ฉลาดดั่งเจ้าศรี- ธนญชัย ให้เจ้าไวปานม้ามณีกาบ มีคนกราบพอแสน มีคนแหนคนแห่ ให้ลื่นพ่อลื่นแม่สมภาร เป็น อาจารย์นักปราชญ์ เป็นอำมาตย์อยู่ในวัง บ่อึดหยังจักอย่าง ใต้ตะหล่างเฮือนซาน มีข้าวสารเต็มไถ่ ม่บ่าวไพร่ทาษาและทาษี มีของดีเหลือหลาก ทั้งเมี่ยงหมากและอาหาร มีอาคารพร้อมเตียงตั่ง มี บ่อนนั่งเป็นไพฑูรย์ มีคนหนุนส่อซ้อง มีพี่น้องหลั่งมาโฮม
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ค้างทางไกลกะให้ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป เที่ยวเล่นวังเวินเต๋อเติ่น ขวัญเจ้าเพลินแล่นเล่นวังนี้ให้ด่วนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งมาอยู่ แข่งลีลา ขวัญขามาอยู่ขาลีล้าย อย่าได้ย้ายหนีไป ให้เจ้ามาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้า ไปไฮ่สิเอาไข่มาหา คันพ่อเจ้าไปนาสิเอาปลามาป้อน ว่ามาเยอขวัญเอย ว่าให้มาสามื้อนี้วันนี้ แม่เจ้าผูกอู่สายไหม มาไวๆ อย่าช้า แม่ผูกถ้าให้เจ้ามานอนสา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเมา เล่นในดงหงส์ห่าน ให้เจ้ากลับต่าวบ้านมาถ่อนแม่มา พ่ออยู่ถ้ากล้วยบ่มสุกเหลือง แม่เอาเฟืองไฟ หวานเหว่อนาวทั้งพร้าว ให้เจ้าไววาฟ้าวมากินนำแม่ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเมาเล่นนำ กาเล็นกระฮอกป่า ขวัญเจ้าไปท่าน้ำชมเล่นหมู่ปลา กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปเมาเล่นฮิม ทะเลน้ำเป็นป่อง ทะเลฟองฝ่าคลื่นอย่ายืนจ้องให้ต่าวมา ขวัญหูให้เจ้ากลับคืนมา ขวัญตาให้เจ้า ต่าว อย่าอยู่อ่าวทะเลวน
ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้าได้บักทัน พ่อเจ้าได้บักจันท์หอมหื่นเฮ้า แม่เจ้าได้ปั้นข้าวบ่าย ปลาขาว ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้าต่ำแพรลาย พ่อเจ้าพายเงินล้านคอยอยู่บ้านบ่หนีป๋า ว่ามาเยอ ขวัญเอย มาอยู่เฮือนหลังใหญ่มุงสังกะสี เฮือนมุงดีคาดฟ้า พวกแม่ป้าและพ่อลุง พากันมามุงส่อง ตาส่องป่องแนมทาง ถ้าอี่นางบักหล่า เจ้าอย่าช้ามาไวๆ มากินไข่นกทา มากินขาไก่โอก อยู่เต็มโตก ของหวาน เต็มพาพานหมากไม้ เอามาใส่เฟืองไฟ อยากอันใด๋ฮอดหมากเขียบ สวรรค์เปรียบบ่มี ปาน ว่ามาเยอขวัญเอย ม้าสีลานพ่อสิซื้อให้ขี่ ออกจากที่ไปมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ อยู่ดอมกา ขวัญเจ้าอย่าได้อยู่นาท่ง ขวัญเจ้าอย่าได้ส่งไปไกล มาไวๆ แม่คึดฮอด พ่ออยากกอด นอนซม มากินนมนำแม่ เจ้าอย่าแว่ไปไกล มาไวๆ ลูกแม่ ยามแดดแก่ตาเว็นแดง มาพักแฮงนำแม่ ว่ามาเยอขวัญเอย มากินอ่อมอู๋ปลาแม่สิป้อน แดดแห่งฮ้อนอย่าไปใส มาไวๆ แม่สิอุ้ม แม่สิตุ้มเอา ขวัญ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้ามาสามื้อนี้วันนี้ เอหิ ตาตะ สะกะ เคหัง อาคัจฉาหิ สาธุ
คำผูกแขนเด็กน้อย แบบที่ 1
เอหิ ตาตะ อาคัจฉาหิ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปในไพรหนาให้เจ้าต่าว ขวัญเจ้าถึก จ่องน้าวมนต์ข่อยสิส่อยปลด ปลดออกแล้วให้เจ้ามานำทางคนถ่อง มานำป่องคนเทียว ให้เจ้ามา มื้อนี้วันนี้ ใหญ่เพียงตอเจ้าอย่าได้หัก ใหญ่เพียงหลักเจ้าอย่าได้โค่น เจ้าอย่าหม่นเหมือนตอง เจ้า อย่าหมองเหมือนเถ้า เจ้าอย่าเศร้าเสียศรี ให้มีอายุมั่นยืน อายุวัณโณ สุขัง พะลัง สาธุฯ
คำผูกแขนเด็กน้อย แบบที่ 2
โอมพระเวสสันดรเจ้า ให้ชาลีลำบากทั้งกัณหาพร่ำพร้อมหิวให้อยากนม พระหากทาน ทอดให้พราหมณ์ถ่อยชุยชะกา มันกะพาสองแพงเที่ยวดงในด้าว มันกะบายเอาแส้ตีหลังสองอ่อน ทั้งลากน้อยดึงทื้นแก่ไป ทุกข์ยากไห้หิวหอดในมะโน ยามพราหมณ์นอนกะผูกแขนโยงไว้ ทรมาน ให้บุตตาสองอ่อน จนว่าเทพท่อนไท้ในด้าวส่อยชู บุญซุกยู้ไปสู่ประเชไชย องค์พระยาบุรมไถ่เอา สองน้อย สอยวอยหน้าสององค์หมดลำบาก บ่ได้อึดอยากไฮ้คือแท้แต่หลัง ขอให้ศรีแจ่มเจ้าน้อย อ่อนจอมขวัญ เจ้าจงมีความสุขดั่งเดียวโดยด้าม หวิดกรรมแล้วหวิดเวรทุกอย่าง หวิดเคราะห์ แล้วเมือหน้าอยู่เกษม อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง
สู่ขวัญแม่มาน
แม่มาน หมายถึง สตรีที่กำลังมีครรภ์ จะท้องอ่อนแก่อย่างไรก็ได้ การสู่ขวัญนี้เพื่อให้ กำลังใจโดยเฉพาะสตรีที่มีท้องแรก ไม่มีประสบการณ์อาจมีความกลัว จึงจัดพิธีสูตรขวัญขึ้น
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีให้กำเนิดลูกมาเกิดในครรภ์ งามดั่งจันทร์เพ็ญสวย ส่อง งามกลมค่องคิงเหลา ผู้มาเซาดอมอยู่ สินอนอู่สายไหม ภูวนัยบนฟ้า ลูกหน่อหล่าหลานพระ พรหม พระบรมส่งมาสู่ ให้มาอยู่ในพระครรภ์ มารวมกันทั่วหน้า มาแต่ฟ้าพระอินทรา เทวดาส่ง มาเกิด ให้กำเนิดเป็นคนเฮา มาฮ่วมเพลาตักแม่ มาตั้งแต่เมืองแมน แขนกะงามพอแขนค้ำเกิ่ง เป็นตาเบิ่งนวยนาย ปานนางทรายนวยนาด นวยนาด ผิวสะอาดปานจันทร์เพ็ง หาผู้เส็งบ่ถ่อ บุญ ของพ่อคุณโณ ของเบิ๊ดโตพระเลิศหล้า คุณแม่ว่ามีสิบสอง ตามทำนองเอ็นและดูก พ่อผู้ผูกกายา ทั้งหูตาแลปากคิ้ว
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ค้าง นอนทางเก็บดวงดอก ขวัญเจ้าไปออกป่าด้าว เทียวเล่นแค่พนา ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้ามาเซาถ้า บุตรตาอย่าพาหย่าง เดินทางไกลสิไปใส เมื่อยหล้าขวัญเจ้าจ่งต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย บุตรีเจ้าในครรภ์สิพักผ่อน อย่าพาจรด่วนดั้น ฝันผ่ายหน่ายหนี ลูกผู้นี้ผู้อยู่ในครรภ์ องค์เทวัญส่งมาให้ ภูวนัยบนฟ้าเทวดามาสู่ งามจู๋ปู๋จุ้มปุ้ม สองแก้มอ่อนละมุล เป็นคนบุญมาคูณเจ้าในครรภ์ของแม่
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำแดนไกลประเทศต่าง ก็ให้มาอยู่สร้างโฮงกว้าง เน่งนอน ขวัญเจ้าไปบ่อนพุ้นวังใหญ่นทีหลวง ขวัญเจ้าไปดอนขวงคู่ดงพนอมไม้ ว่ามาเยอขวัญ เอย ขวัญเจ้าไปนอนค้างปรางค์ทองลืมต่าว ไปลืมคาวให้ต่าวบ้านสถานห้องแห่งเฮา ว่ามาเยอ ขวัญเอย อย่าได้เลยไปก้ำไพรวันหิมวาส เห็นปราสาทส่อซ้องสิลืมห้องแห่งเฮา ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกอยู่ท้องจวนคลอดวันดี คันเป็นหนูนารีแม่สิเอากินจู้ คันเป็นหนูบุญท้าวชายงามมาสู่ แม่สิดู๋ แกว่งโหย่นโซนอุ้มสู่วัน แหม่นสิให้จั้น ๆ นมแม่สิเอาถวาย กลางคืนไกวอู่แพรทั้งโหย่น
ว่ามาเยอขวัญเอย ไผกะคองคอยถ้าชมบุตตาสะออนอ่อน อย่าไปนอนอยู่ค้างทางพุ้น ให้อ่วยมา อย่าอยู่ช้าฝูงหมู่ซุมแซง ไผอยากแยงเบิ่งนางบ่มีเว้น ไผมาเห็นออนซอนเจ้าทรงครรภ์ ท้องแก่ ทั้งพ่อแม่พี่น้องชุมเชื้อสู่คน ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้ไปเดินเล่นหินผาตามไหล่ ตามน้ำ ไหลสิหมื่นล้มโคมไม้อ่อนระทวย ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้าไกวแขนเหลื่องนำทางมาเดื่อง ๆ มาอยู่ เฮือนฝ่ายเบื้องมุงแป้นแผ่นกระดาน มาอยู่บ้านหลังใหม่ปันหยา หลังคามุงห่มเย็นหายฮ้อน ว่ามา เยอขวัญเอย ให้เจ้ามาซมซ้อนนอนเตียงเฮียงคู่ อย่าไปขดขี่คู้นำซู้ผู้อยู่ไกล ผัวอยู่บ้านสานต่า กะบุงตัก มือถักปอป่านแหแฮไว้ ทั้งแพรไหมแพรฝ้ายผืนลาย ๆ ไว้เฮ็ดอู่
ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าอยู่ช้ามานี้ด่วนมา ผัวอยู่ถ้าฟันผ่าฟืนตอง ของฮองฮับอยู่ไฟหา ไว้ มีไหหม้อหารอเมียอ่อน กระบวยตักน้ำฮ้อนทั้งพร้อมแม่สะแนน ว่ามาเยอขวัญเอย ผัวหาไว้ เต็มใจบ่ให้ห่าง ทางหยูกยาบ่ได้เว้น เว็นมือค่ำแลง บ่อให้แห้งในโอ่งเต็มไห วารีใสใส่ลงปลงไว้ ผัวตามใจเมียแก้วฟืนตองของส่อย ผัวรอคอยแต่อ่อนหล้าคอยถ้าแต่สิมา ว่ามาเยอขวัญเอย
คันลูกเกิด วันอาทิตย์ ให้มีฤทธิ์ดั่งพระยาเวสสุวรรณ
คันลูกเกิด วันจันทร์ ให้เจ้ามีอำนาจเด็ดขาดดั่งพระกาฬ
คันลูกเกิด วันอังคาร ให้มีฤทธิเดชมีขอบเขตแดนไตร ไปทางใด๋ให้คนขามถอยหลีก ให้มีปีกเหาะเหิ่นเดินไปดั่งเจ้าพระยาครุฑ
คันเจ้าเกิด วันพุธ ลูกในครรภ์ให้ได้เป็นจอมทันมหาราช งามองค์อาจดังพระนารายณ์ ไปทางใด๋คนแตกตื่น ให้ล้นหลื่น สามโลกจักรวาฬ พระภูบาลแก่กล้า ใต้แหล่งหล้าโลกาไผบ่มาเทียมท่าน ให้ได้ผ่านครองเมือง อย่าขัดเคืองไหลล่อง ให้ใสส่องมณีโชคติ งามเบิ๊ดโตมีโชค อย่ามีโรคมาขวางขัด
คันเจ้าเกิด วันพฤหัส ให้เจ้าเป็นนักปราชญ์ ผู้ฉลาดครูคน อย่าขัดสนความรู้ ให้ได้อยู่ในวัง มีความหวังอย่าขาด เป็นอำมาตย์ปรมาจารย์ สอนลูกหลานทุกหมู่ ให้เจ้าอยู่เหนือคน ให้มีสัปทนกั้งเกษ เป็นผู้นำ ประเทศคาเม เป็นเสาเสหลักชาติ มีอำนาจดั่งพระอิศวร มีกระบวนแหนแห่ ให้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ตระกูลสูง ดั่งนกยูงงามระย้า มีข้อยข้าพอแสน มีสะแนนฮองนั่ง ให้มีตั่งทองคำ มีคนนำแห่ล้อม มีคนน้อมเกษา ไปใสมาอย่าได้ดูถูก
คันลูกเจ้าเกิด วันศุกร์ ชายหญิงอิงแอบ ขอให้แนบนอนเฮียง ให้มีเสียงขานตอบ ผู้ใด๋เห็นกะชอบชมชื่นออนซอน มีเฮือนนอนหลังใหญ่ มีบ่าวไพร่พลแสน มี สร้อยแหวนเพชรแต่ง ไผ๋บ่แข่งเทียมทัน มีบริวารเป็นร้อย มีข้าข่อยพอพัน มีฉัตรทันได้นั่ง เงินแน่น อั่งเต็มเพลา
คันลูกเกิด วันเสาร์ ให้ได้เป็นนักปราชญ์ ให้ลูกเจ้าฉลาดเหลือหลาย เป็นคุณนายนั่ง แท่น ใสปานแว่นงามงอน คนออนซอนส่อซ้อง มีคนย่องอนันตัง งามปานอยู่ในวังปราสาท งาม องอาจดั่งเอราวัณ มีผิวพรรณผุดผ่อง คิ้วเจ้าก่องปานนางสีดา มีกายาดั่งทองทาบ คนมากราบ เนืองนอง มีเงินทองเต็มไถ่ ให้เป็นใหญ่ในสุธา
สัพเพเต โรคา สัพเพเต ภะยา สัพเพเตอันตะรายา วินัสสันตุ ให้เจ้าอยู่สุขสันต์ ฮ้อย เอ็ดพันวัสสา อุอะมุมะมูลมา เทียระฆาตราบต่อเท่าอายุเจ้าได้พันวัสสา ก็ข้าเทอญฯ สาธุ
คำผูกแขน อมสิทธิการ พ่อครูบาอาจารย์ให้มนต์มาเสก กูจักเสกใส่ป่าผีป่าก็กลัว กูจัก เสกใส่งัว งัวก็เซาฮ้าย กูจักเสกใส่ฮั้วต้าย ๆ ก็มาเกิดเป็นกำแพง มีฤทธิ์แฮงป้องกันได้ฮ้อยแปด ลูก ฝาแฝดก็ให้ออกมาดี เป็นนารีก็ให้ออกง่ายบ่ยาก มาพร้อมภาคกุมาราให้ออกมาง่าย ๆ ฝ้ายผูกแล้ว ให้อยู่สวัสดี ฝูงพรายผีอย่าให้มาใกล้ เป็นไปได้ด้วยเดชพระคาถา ว่า ยะโต หัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เตโหตุ โสตถิ คัพภัสสะ สาธุฯ
สู่ขวัญแม่อยู่กรรม
แม่อยู่กรรม หมายถึง สตรีหลังคลอดบุตรใหม่ ๆ จะต้องดำเนินกรรมวิธีเพื่อให้มดลูก เข้าอู่เร็ว โดยการอยู่ไฟ (นอนบนแคร่ไม้ไผ่ ที่เบื้องล่างจะมีเตาไฟให้ความร้อนอยู่ตลอดเวลา) ต้อง ดื่มน้ำร้อนซึ่งมีความเชื่อว่าจะทำให้มีน้ำนมมากสำหรับลูกน้อย ห้ามกินของแสลงต่าง ๆ (จะทำให้ ผิดกระบูน) ซึ่งคนอีสานเรียกว่า คะลำ การปฏิบัติเหล่านี้มีความยากลำบาก จึงเรียกว่า "อยู่กรรม" นั่นเอง
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อราคีหมดหายจาก หมดความยากแนวคะลำ หมดฮอยกรรม นำไล่ ออกไฟใหม่เซามีแฮง ศรีจอมแพงทนลำบาก แสนทุกข์ยากนอนผิงไฟ ทรมานหัวใจอุกอั่งเอ้า คึดนำเจ้าลูกของตน นางสู้ทนกินน้ำฮ้อน นอนอยู่บ่อนแม่สะแนน แม่เอาแขนพาดคิงผ่าง แม่บ่ห่าง พอวา ควันเข้าตาและเข้าปาก แสนทุกยากข์ทรมาน แสนสงสารลูกอ่อน นอนอยู่บ่อนเสียงออแอ เสียงงอแงดิ้นกะแด่ว ลูกฮ้องแอ่วหิวนม สองมือโซมโจมเอาลูก ใจแม่ผูกเกิดสงสาร จั่งได้ทรมาน ขางไฟปิ้งจี่ นั่งอยู่ที่ไฟลน แม่อดทนกินน้ำฮ้อน ย้านลูกอ่อนหิวนม แม่บรรทมบ่พองีบ แม่ก็รีบตื่น จู๋ไฟ เสียงหายใจบ่ฮอดท้อง นอนล่องหง่องบ่ไปมา ถึงเวลาอาบน้ำฮ้อน บ่เดือดร้อน ใจสับสนฮีห่อน ฮีห่อน เบิ่งลูกอ่อนนอนในเปล เดินโซเซแม่หวิ่ง คึดนำแก้มปิ่งสิ่งบุตรตน สาละวนเป็นห่วง นอนบ่ ข่วงไปมา เหยียดสองขาอยู่ส้วยล้วย ส้อยล้อย
หย่างอ่อมอ้อยเวียนหัว ทางผู้ผัวหาฟืนหาตอก บ่หยับออกขางไฟ เบิ่งบ่อนใด๋หนังพอง เป็นบ่อน แม่ลูกอ่อนนอนสะแนน แม่หวงแหนเป็นห่วง ลูกนอนข่วงอยู่ไปมา แพงขวัญตาเหลือ หลาก ฮ้อนบ่ปากไฟลน แม่อดทนจนจ่อย ทุกข์บ่น้อยเหลือหลาย เกือบว่าตายแม่ฮ้อน แม่ลูกอ่อน ทรมาน แสนสงสารอยู่กรรมนำจี่ อยู่กับที่ปานตาย สินอนหงายกะบ่ได้ โบราณให้นอนตะแคง พลิก โตแฮงกะเจ็บปวด เจ็บไปรวดกายา ทั้งหูตาบ่สว่าง แม่นอนผ่างสิบสามคืน จนหมดฟืนหลายแหล่ง ปวดนำแข่งนำขา ทั้งหูตาและปาก แสนลำบากกินนอน บ่มีหมอนหมูนใส่ เจ็บฮอดไหล่หลังแอว
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าตกใจเต้นเห็นไฟมาผ่าง ขวัญเจ้าย่างอยู่ท่งกว้างให้มาเข้า สู่เฮือน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหนีไปเล่นวารีสรงอาบ ลงแม่น้ำกะมาถ่อนอย่าสินาน ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ไฮ่กะให้มา ขวัญเจ้าไปอยู่นากะให้ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปหา ซื้อแพรลาย ๆ ทั้งสิ่นหมี่ อย่ารีรออยู่พุ้นมาตุ้มอ่อนเสนห์ ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกอ่อนน้อยนอนอู่ สายไหม ขวัญใจนางแอ่วนมกินจู้ ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกเจ้าไห้สักกะลันฮ้องหาแม่ เจ้าอย่าแวว่าง เว้นเพลตึ้งให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ผัวเจ้าคองคอยถ้าเมียสิมาหาลูก เสียงนกฮูกกูกอยู่พุ้นให้ นางฟ้าวต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ไผสิเอานมป้อนอรชรลูกอ่อน ๆ ลูกนางนอนแอ่วจู้ดูหน้าแห่ง อี่ดู
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นภูซูนไซง่อน บ่อนสงครามผ่าม้างนางน้อยให้ต่าว มา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นพนมเปญเสียมราฐ ชมปราสาทหมื่นห้องให้นางน้อง ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหงสามะละแหม่ง ไปเมืองแสงเมืองกำแพงอย่าอยู่ ค้างนางหล้าให้ต่าวคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางใต้แดนไกลทะเลล่วง ทะเลหลวงอ่าว พุ้นลงน้ำล่องเฮือ ขวัญนางนุชนาถเนื้อให้กลับต่าวคืนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปหาค้า ป๋า เฮือนชานลูกอ่อน ๆ เถิงยามนอนนางอย่าป๋าลูกไว้เสียงให้แอ่วนม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป บู๋ด้าว ดงดอนทางกะเหรี่ยง ขวัญเจ้าเฮียงหมู่แม้วแกวพุ้นให้ต่าวมา ขวัญเจ้าป๋าเฮือนไว้ไปเชียงตึง จีนตาด ขวัญเจ้าไปวาดแต่งแต้มนำแม้วหมู่กะเซอ
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางก้ำหนองกระแสร์แสนหย่าน ขวัญเจ้าไปอยู่บ้านนำ เชื้อเผ่าวงศ์ ขวัญเจ้าไปปนหมู่ม้งกะให้ต่าวคืนสา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปนอนค้างภูผา แสนหย่าน บ่อนสถานแห่งฮ้องภูฆ้องต่อแกว บ่อนต่อแม้วทางท่งไหหิน ทางดินแดนบ่อนเสือสิงห์ ช้าง ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าไปทางไกลดั้นหิมะวันป่าไม้ใหญ่ นางอย่าไปเลาะค้างทางพุ้นบ่อนเซา นางอย่าเข้าเขตใหญ่วงกต ทางมันคดบ่อนมัทรีหลงด้าว บ่อนสาวนางแมนน้อยขุดกลอยมันเผิ่ม บ่อนขุดมันอีเซิ่มเสียมก่อมห่อมผา บ่อนมัทรีหน่อหล้าเสือใหญ่ตันทาง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญนางแมนอย่าแล่นไปทางนั้น ทางมันตันพันซ้งสิหลงทางกลับ ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ให้นางแพงฝั่งฟ้าวมาถ่อนอย่าสินอน อย่าไปซอนชมซ้อนนอนหนาวอยู่ กลางป่า ให้ทองสาต่อนหล้ามาถ่อนอย่าสินอน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเห็นห้องปรางค์ทอง พระยาเวส เห็นประเทศก่อตั้งหลังกว้างหมื่นวา นางอย่าช้าให้เจ้าต่าวมาเฮือน ยามเดือนหงาย อย่าสิมัวชมซ้อน อย่าไปนอนชมพั่วกะดังงาอยู่ในป่า ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเลาะก้ำทาง ภูเงินมโนราช เห็นปราสาทซ้องมองแล้วให่ต่าวมา อย่าชมบัวสระน้ำมโนราอโนดาด อย่าหลงถาด ๆ น้ำโตนเล่นล่องนะที
ว่ามาเยอขวัญเอย ผัวเจ้าอยู่ซอนลอน ซอนลอน ลูกนางนอนอยู่ซ้อยล้อย ซ้อยล้อย ให้ เจ้าอ๋ออ่อมอ้อยนางน้อยให้ค่อยมา พ่อเยอ ว่ามาเยอขวัญเอย พ่อเจ้านั่งคอยถ่า แม่เจ้านั่งคองหา อยู่สู่มื้อ พี่น้องอื้อ ๆ แซว ๆ เว้าห่วงหา ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้ามาหาแก้วทาระกาลูกนอนอู่ มา เอาจู๋ใส่เจ้า มาเอาเข้าหย่ำป้อน นอนถ้าอยู่อู่ไหม ลูกเอย
สัพพะเตโช นะโม นะมะภะทะ อุ อะ มุ มะ มุน มา สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุ
คำผูกแขน โอมกัปปาสิกรัชชุยา พาหัง พันธะนัง เส้นฝ้ายผูกแขน กูสิบ่ว่าฝ้ายผูกแขน กูสิว่าฝ้ายศักดิ์สิทธิ์ พระพุทโธประทานให้ พระแก่นไท้ให้มาผูกแขนแม่อยู่กรรม เป็นสายธรรม โองการแปดหมื่นกับมีหลื่นมาอีกสี่พัน มาเป็นยันต์ป้องกันฮ้อยแปด มาแวดล้อมกันปอบกันพราย ผีทั้งหลายหนีไกลฮ้อยโยชน์ หนีทั้งโทษผิดเลือดผิดกรรม ด้วยเดชธรรมของพระพุทธเจ้า ว่า ระตะ นัตตะยัปปะภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
สู่ขวัญแม่ลูกอ่อน
แม่ลูกอ่อน หมายถึง สตรีที่มีบุตรยังเล็ก (หลังการอยู่กรรม) ซึ่งอาจมีอาการเจ็บป่วย กระเสาะกระแสะ ร่างกายไม่แข็งแรง หรือหลังการเจ็บป่วย จะมีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อเสริม ขวัญและกำลังใจให้หายป่วย
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อฤทธีมหาอะมุตตะโชค วันพ้นโลก โฆวิสัย วันวิไลผ่องแผ้ว ดุจดั่งแก้วมณีโช ผู้ข้าขอเชิญเทพบุตรอยู่ชั้นห้า เทวดาอยู่ชั้นสี่ ทั้งฤทธีพระหน่อฟ้ามาป้องส่อยปอง มื้อนี้พวกพี่น้องมาฮ่วมพาขวัญ พากันชวนมาโฮมสู่สถานวิมานกว้าง เชิญทั้งปวงเจ้าพรหมมินทร์ อิทธิราช อยู่ปราสาทหมื่นห้องให้มาป้องส่อยชู ขอเชิญผู้อยู่ใต้นาคราชบาดาล มีสมภารกว่าเขา ทั้งค่าย จงให้ผ่ายผายมาชูส่อย กับทั้งแม่หนุ่มน้อยแมนฟ้าเมฆขลา เทพอยู่ฟ้าแสนโกฏิ์จักรวาฬ เวสสุวรรณด่วนมาโดยด้าม กับทั้งก้ามฉิมพลีเวฬุราช ผู้องอาจเก่งกล้าเชิญพร้อมสู่พระองค์
วันนี้วันปลงตั้งจอมเฮือนแม่ลูกอ่อน หวิดบ่อนตายหายบ่อนไข้นางไท้อยู่นำ ขอให้มาสู่ ค้ำชูส่อยอย่าถอยหนี บารมีแสนพลแห่แหนแพนด้าม นางงามหล้ากายาเหลืองหล่า นอนอยู่แคร่ แผ่อยู่ไฟกินน้ำฮ้อนผอวนหล้าผ่านมา ใต้หลุมฟ้าลำบากแสนสาหัสนอนผ่างไฟบ่มีเย็นเนื้อ เมีย นอนปิ้งเบิ๊ดโตจนจ่อย ผู้ผัวคอยนั่งจ้องมองได้ส่อยบ่เป็น เบิ๊ดกรรมเวรนางแล้วเลยมาเป็นแม่ลูก อ่อน เซาเป่ากินน้ำฮ้อนนอนเทิ้งแม่สะแนน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นเมืองไกลให้เจ้าต่าว ลูกสาวลูกชายให้จั้น ๆ ให้ ผันผ้ายผ่ายมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหนีไปลี้หนีไฟไปอยู่ป่าใหญ่ ขวัญเจ้าไปอยู่พุ้นเมืองแม้ว แจ่วไกล ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปนอนค้างทางเชียงตุงดอมกะเหรี่ยง ขวัญเจ้าเปลื้องปิ่นหน้า ทางก้ำฝ่ายเขมร ขวัญไปเห็นหนห้องปรางทองฮองนั่ง อย่าได้ยังอยู่ยั้งให้นางฟ้าวต่าวมา ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญเจ้าไปตักน้ำทางไกลส้างแส่ง ขวัญเจ้าแยงป่ากว้างชมพั่วดอกดวง ขวัญเจ้าควงชาย ชู้ชมเชยทิพย์กลิ่น ขวัญยุพินอยู่ย่างกุ้งเมืองลุงพุ้นให้ต่าวคืน อย่าไปยืนฮิมน้ำฮิมผาน้ำโตนตาด ฟังเสียงถาด ๆ น้ำให้นางหล่าต่าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางพุ้นเมืองหลวงน้ำหล่วง หลวงพระบางระหว่างพุ้น เมืองเชียงไฮ้แห่งอยู่ไกล เจ้าอย่าได้ไปอยู่นำเขา ภาษาเฮาต่างเขาคำเว้า ให้นางเอาโตเข้าหันมา หาหมู่ พวกปู่ย่าอยู่บ้านผัวเจ้านั่งคอง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งมาอยู่แข่งลีลา ขวัญขามาอยู่ ขาลีล้าย อย่าได้ย้ายหลบหนีมาอยู่กับนารีนารถน้อย ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ป่านำนก กาเวา ขวัญเจ้าไปอยู่นำนกเขาขันหม่วน ให้เจ้าด่วนพะลันมา ขวัญเจ้าฟังนกทาตักตะก้อ ขวัญ เจ้าอย่าไปพ้อหมู่กินนะรีนะรอน อย่าออนซอนให้เจ้าต่าว ไปพ้อบ่าวอย่าเชยชม อย่าเมาดมดอก คัดเค้า ไผมาเว้าอย่าอยู่นำ เห็นไหเงินไหคำอย่าแตะต้อง ให้เจ้ากลับสู่ห้องเคหา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญไปทางพุ้น ภูชุนไซง่อน ไปออนซอนล่องน้ำทางก้ามหลี่ผี ขวัญ เจ้าหนีไปค้างดงหลวงอย่าได้ห่วง เห็นจวงจันทร์หื่นเห้าเซาถ้อนอย่าชม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญ เจ้าไปทางก้ำทะเลวนน้ำปั่น ขวัยเจ้าผันเผ่นผ่ายหมายค้างแค่ไพร ขวัญนางไปทางพุ้นหงสากุลาป่า ให้กลับมาอย่าช้ามาตุ้มอ่อนวอน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้ามาเถิงแล้วเมืองแกวอย่าเป็นห่วง หลวงพระบางอย่าได้เว้านำเจ้าให้อยู่เฮือน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญนางไปอยู่ก้ำประเทศอื่นซุมแซว แนวนามเขาต่างเฮาคำเว้า ให้มาเซานำเจ้าบุตตาลูกอ่อน ๆ มาป้อนนมป้อนจู้บุญชูเจ้าให้ใหญ่สูง
ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกเจ้าให้นอนอู่สายไหม ไปทางใด๋อย่าดนคืนค้าง ไปทางเหนือทาง ใต้ตกกลางตะวันออก ให้เจ้ากลับด่วนดั้นผันย้ายด่วนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าเลยไปพุ้น ไผนอสิโจมส่อย ลูกเจ้ายังอ่อนน้อยหิวจู้แอ่วนม ไผสิชมเชยอุ้มในเพลาเอาส่อย ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ค้างผากว้างป่าดอย ว่ามาเยอขวัญเอย ลูน้อยไห้หิวแอ่วกินนม สองมือโจมใส่เพลา กินจู้ จู๋บู๋หน้าบุตตาคองแม่ แม่บ่มาอยู่ใกล้ไผอุ้มกะบ่อคือ ว่ามาเยอขวัญเอย ลูกต่อนตื้อเทียมผ่าง คิงบาง เหลียวทางหาแม่บ่มาคอยถ่า ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญนางหล้าไปไฮ่กะให้มา ขวัญไปนา กะให้ต่าว ให้นางมาฝั่งฟ้าวมาเข้าสู่คิง ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้เลยไปเล่นสระหลวงอโนดาด อย่าไปวาดแต่งแต้มแนมไม้อยู่ไพร ขวัญเจ้าอย่าได้ไปป่าใหญ่ไพรหนา ขวัญไปหาเที่ยวพงไพร กว้าง ไปชมกวางหมีเหม่นกาเล็นกะฮอกป่า ชมชะบาป่าเอื้องเฟืองมี้ม่วงพนา ขอเชิญขวัญหน่อ หล้าแก้วแก่นแหว่นกา
ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าไปมัวเมาเล่นนำเขาคนป่า อย่ามัวหาหมากไม้ชมพั่วป่ากะดัน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้หลงไหลเข้าในไพรป่าใหญ่ อย่าได้ไประหว่างพุ้นเสือช้าง บ่าง ชะนี หมีหมูฮ้ายอันตรายให้เจ้าต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่เฮือนหลังใหญ่มุงสังกะสี เฮือนมุงดี แป้นไม้แก่น มาแยงแหว่นทาน้ำหอม มาอยู่ดอมพ่อแม่นำเฒ่าแก่อาวอา มาอยู่นาสร้างก่อ มาอยู่ นำพ่อบักหำ มาอยู่นำพ่ออี่น้อย ให้เจ้าย่างก้อย ๆ กลับมาเด้อ ว่ามาเยอขวัญเอย มาฮอดแล้วให้ เจ้าอยู่เทียระฆา ขอให้หายโรคา อย่าให้มีโภยต้อง ขอให้ยืนยาวมั่นพันปีเป็นขนาด เป็นดังบาท พระคาถาว่า
สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชีวะสิทธิ ภะวันตุ เตฯ สาธุ
คำผูกแขนแม่ลูกอ่อน พุทโธสิทธิเดช ธัมโมสิทธิเดช สังโฆสิทธิเดช ฝ้ายเส้นนี้แม่น ฝ้ายศักดิ์สิทธิ์ องค์พระพุทโธผู้มีฤทธิ์ทอดประทานมาให้ ผู้ข้าฯ จึงได้เอามาผูกแขน ผีอยู่ในดินแดน หลุ่มฟ้าหันหน้ามาแล้วสั่นกลัว หูตามัวบ่แจ้งส่องผีอยู่ในห้องจักรวาล บ่นำพาลบังเบียดเส้นฝ้าย เสียดตาผี ให้มันหนีฮ้อยโยชน์โตใด๋โหดหาญเข้ามา ให้มันมรณาเท่าชั่ว ตราบจนกว่ามันสิยอมนำ ทำตามธรรม พระเจ้าข่อยว่าแล้วสิใส่กระแจธรรม อิ สะวา สุ สุสะวา อิ นะโม พุทธายะ สาธุ
สู่ขวัญคนป่วย
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อขับหนีเคราะห์อันฮ้าย มื้อหยับย้ายเวรกรรม มื้อหน่อธรรม เผิ่นผาบแพ้ มื้อเผิ่นแก้เสนียดจัญไร มื้อนี้แม่นมื้อพระมาลัยมาโปรด มื้อละโกรธละความหลง มื้อ พระลงไปทางหลุ่ม ช่วยให้ชุ่มทั้งซุมแซง พระฤทธีแฮงแก่กล้า ไปเบิ่งหน้าพระยามาร อดสงสารบ่ได้ พระจึงใช้พระคาถา ว่า
อมพระเพลิง อมพระพาย อมพระนารายณ์ผู้มีเดช พระยาเวสสุวรรณ มาร่วมกันพอหมู่ ให้มาอยู่ซูซม พระบรมโลกธาตุ มีง้าวอาจบังตนกู ฆ่าผีฆ่าพลายคอขาด ฆ่ามารโตฉลาดตายจุ่ม ตายกอง แขนทั้งสองให้คงที่ อย่าได้หนีจากที่จงคืนมา พระราชาจอมราชผู้องอาจเทวัญ มารวมกัน เสกเป่า ให้โรคเก่าหายหนี ให้เจ้าดีคือเก่า ให้เจ้าต่าวแข็งแรง จงมีแฮงมาเถิด บุญเจ้าเกิดคืนมา ทางหยูกยาก็ให้ถืก จั่งหาฤกษ์มาเวียน ป่วยปีเดือนให้หายขาด ทางพยาธิ์ให้หายหนี สองพันปีอย่า มาผ่า ให้คนว่าเจ้าแข็งแรง เจ้ามีแฮงดั่งพระยาช้าง ให้เจ้าย่างไปไกล มาไว ๆ คล่องแคล่ว เบิ๊ดเข็ญ แล้วเคราะห์หนีหาย อันตรายอย่ามาอยู่ในกาย จงหายสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปไกลกะให้มา ขวัญไปนากะให้ต่าว ขวัญอยู่อ่าวนะทีทอง ขวัญไปปองเป็นเจ้า หลงไปเว้าอยู่ในคอ ลมวอยๆ ให้เจ้าต่าว อย่าโอ้อ่าวนำเขา ขวัญอยู่เลาป่าอ้อ ขวัญไปพ้อไหเงินไห คำ ขวัญไปนำไก่ต่อ ขวัญไปหล่อเงินฮาง ขวัญไปทางเมืองหมั้น ขวัญเจ้าไปอยู่ชั้นปราสาทดอมผี กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญคิ้วก็ให้มา ขวัญสองตาใสส่อง ขวัญแอกยน่องตีนขา กะให้มามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหูอยู่กับหู ขวัญบุญชูอย่าหนีหง่าย อย่าปีนป่ายสองขา เดิน อย่ามัวเพลินอยู่นำป่า
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญคิ้วและขวัญผม ขวัญนมและแขนศอก อย่าได้ออกหนีไกล ว่ามา เยอขวัญเอย อย่าไปใส ขวัญหลังและขวัญไหล่ ให้ได้นุ่งผ้าใหม่ขวัญแอว เอาซุมแซวฮีบกลับต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปไกลให้เขาว่า ขวัญอยู่บ่าแบกไหคำ ขวัญปานดำแบกไหเหล้า ตื่นฮุ่งเช้าขวัญมาหา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหลงไปก้ำนำหวางเมยมั่ง ขวัญเจ้าไปนั่งเล่นชม พั่วดอกกระยอม ขวัญเจ้าไปซอมซู้หวังมาซูอยู่เช้าค่ำ ขวัญเจ้านำหมู่ช้างสารฮ้ายอยู่ดง ขวัญเจ้า ลงไปเล่นน้ำเขาพวกกะเหรี่ยง ขวัญเจ้าไปอยู่เบื้องเมืองแม้วหมู่แกว ขวัญเจ้าไปแถวพุ้นเมืองภูซุน ไซง่อน ขวัญเจ้าไปเลาท้างทางพุ้นอย่าแหว่ ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหนองกระแสร์แสนย่าน แม่น้ำน่าน บ่อนสุทโธนาคน้ำเป็นเจ้าอย่าไป ขวัญเจ้าหลงไปถ้ำหนองหาญนางไอ่ บ่อนผาแดงไล่ฆ่าตีม้าผ่าฟัน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปพายฆ้องจูมคำมะละแม่ง ขวัญเจ้าแยงส่องเล่นเห็นแก้ว หน่วยใส เจ้าอย่าได้ซมอยู่นานดน คือสีทนหลงทางขาดเขินผืนผ้า ป๋าโตไว้มะโนราหนีจาก แสน ลำบากป่วยไข้ไพรพุ้นด่านเขา ขวัญหน่อเจ้าให้ผันเผ่นเวนคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ชวัญเจ้ากลับมา แล้วให้มาอยู่ซุมแซง เซามีแฮงเหงื่อไคลไหลย้อย ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองข้างขาแขนเคยย่าง บาดนี้โรคห่างฮ้ายหนีพ่ายให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้มัวเมาเล่นนำเขาคนละเผ่า ขวัญของข่อยและเจ้าเฮานั้นต่างเขา อย่าไปเว้านำหมู่ผีพาย อย่าไปผายนำผีตาแฮก ผีเหลียวไม้ สิแดกตาผี ไม้ฤาษีฤทธิ์แก่กล้า
ว่ามาเยอขวัญเอย เจ้าอย่าลงเป็นหาด เจ้าอย่าได้ขาดเขินวัง ให้มาอยู่เฮือนหลังใหญ่ มาเลี้ยงไก่บักแดงบักลาย มากินงายนำพ่อนำแม่ นำเฒ่าแก่ปู่ย่าลุงตา มาเฮ็ดนาเอาเข้าใส่เล้า มา นั่งเว้านำหมู่นำกอง มาหาเงินหาทองขายปลาขายข้าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปไกลลง ไทยไปล่าง ขวัญเจ้าย่างนำคนอย่าไปดนให้ต่าว ได้ยินข่าวให้มาเฮือน ป่วยปีเดือนกะหายขาด โตพยาธิ์จัญไร เผิ่นเอาไปสับปาด โตพยาธิ์พาเป็นทั้งเคราะห์เข็ญมาหาเผิ่นไล่ เอาไปใส่ไฟสุม เอา ไปคุมฝังแน่น บัดนี้แหล่นทินลิน ทินลิน พระยาอินทร์เทิงฟ้า สั่งให้ว่าหายโรคา เป็นพระยานาหมื่น สุขล้นลื่นมีแฮง โตแข็งแรงหายขาด เมิ๊ดพยาธิ์ในโต
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญปากกะให้มาอยู่ปาก ขวัญหน้าผากและฮูดัง อย่าไปหยังขวัญ อยู่ท่ง อย่าได้จ่งมานำกัน ขวัญฟันกะมาอยู่ฟัน อย่าไปหลื่น ขวัญลิ้นกะให้มาอยู่ลิ้นลีลาน อย่าอยู่ นานหายป่วย ให้เจ้าอ่วยมาไว ๆ อย่าไปไกลหลายโยชน์ อย่ามีโทษมาหา ขวัญตาและขวัญคิ้ว กะให้มาอยู่คิ้วสองทาง ขวัญคางกะให้มาอยู่คางสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญส่วงน้อย หง่อนต่อคอเอ็นกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเลือดและขวัญลม กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญท้องน้อย และสายบือ ขวัญนิ้วมือแหวนสุบใส่ แหวนวงใหม่ใสเมียง ๆ เอามาเฮียงมะณีโชติ งามเหลือโพด ธำมะรงค์ งามสมทรงเจ้าตกแต่ง แก้มแป่งแส่งขวัญมาเยอ ขวัญหัวใจและตับปอด จงมากอดใน กายา ขวัญจงมาหายพยาธิ์ อย่าได้คลาดไปไกล อย่าได้ลัยเหินห่าง มาอยู่หว่างในทรวง
ว่ามาเยอขวัญเอย มาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่แสนสบาย หายโพยภัยทุกข์โสก วิปโยคทุกข์ หนักหนา เจ้าเป็นมาหายขาดแคล้ว ใสดั่งแก้วไพฑูรย์ เป็นมุงคุลมื้อนี้ ไม้เท้าซี้พยาธิ์หาย พยาธิ์ตาย เอาปลายแหย่ อยู่นำพ่อแม่อย่าได้หนี สามพันปีให้เจ้าหมั่นปานสุเมรุราช ให้เจ้าอาชญ์ดั่งเอราวัณ ดั่งพระจันทร์นวลผ่อง ให้เจ้าค่องคือหลัง ให้เจ้ายังคือเก่า ให้สมเผ่างามงอน คนออนซอนผุดผ่อง คิงเจ้าค่องหายโรคา แนวมันมาทำภายในและภายนอก ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาอยู่กับเนื้อกับคีง ในมื้อนี้วันนี้ อุ อะ มุมะ มูลมา ทีมายุโก โหตุ สัพพะทา อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ สาธุฯ
คำผูกแขนคนป่วย
อมพระพุทโธ พระพุทธัง ลมพัดต้องใบไม้หน่วงหนาวมาแล้ว ตกเมื่อยามเดือนหก ฝนตก ลงจ้น ๆ ขวัญเจ้าสิไปอยู่ซ้นหลังคาเฮือนไม้ป้องหล่อ ไผเดนอสิมาปั้นถ้าให้ปลาปิ้งป่อนใส่มือ พอมา ฮอดเดือนห้าเมษายนต้นปีใหม่ ฝนตกฮำป่าไม้ ขวัญหล้าให้ต่าวมา ขวัญแข่งให้มาอยู่แข่งลีลา ขวัญขาให้มาอยู่ขาลีล้อย ขวัญท้องน้อยและฮาวนม ขวัญคอกลมและคิ้วก่อง ขวัญส้นหน่องและ ฮาวแขน ขวัญเหมิดโตนวลละใหม่ ให้มาอยู่ในเนื้อและฮาวคีงสามื้อนี้วันนี้ ฝนตกเจ้าอย่าด่วนไป หน้า ฟ้าฮ้องเจ้าอย่าด่วนไปไกล ให้เจ้ากลับมาสามื้อนี้วันนี้เดี๋ยวนี้ มาฮอดแล้วกูจักใส่กระแจขวัญ นะผูก โมมัด พุทยัด ธาอุด ยะปีด สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสสัน
บาศรีพระพุทธรูป
ศรี ศรี ปีเดือนแกมถึงเขต พระสุริเยศเข้าสู่ราศรี ผิจ๊กปุน เป็นปี เป็นเดือน เป็นวัน มื้อนี้แม่นมื้อ ......... (ให้บอกวัน, เดือน, ปี ปัจจุบัน) วันนี้เป็นวันมหามงคลอันวิเศษ ฝูงข้าทั้งหลาย ยอมือถวายใส่เกษเกล้า นบพระเจ้า ตนมีรัศมีรังษี ถึงเดือนปีมาไต่เต้า องค์พระเจ้าจึงเสด็จลีลา มีวรรณางามสพาส ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พร้อมกันมากราบไหว้บูชา ฝูงข้าทั้งหลายเอากันมา ขัดลูปไล้ เพื่ออยากได้ดังคำมักคำปรารถนาแห่งฝูงข้าทั้งหลาย บ่ได้มีใจทึบหนา จึงได้ก้มกราบ บาทบาทา ไหว้พระเจ้าตนลือชาเฮืองโลก เพื่ออยากให้สมโชคดั่งคำปรารถนา บ่ได้คลาดแคล้ว ขอให้แล้วยังคำมักคำปรารถนา
ฝูงข้าทั้งหลายบ่มีใจทึบหนาด้วยโทษ ทั้งกริ้วโกรธโกรธา ฝูงข้าทั้งหลายจึงเอากันมา บายศรีสมโภชพระแก้วเจ้า ทั้งผู้เฒ่าและปานกลาง ทั้งสาวฮามและเด็กน้อย เขามีใจชื่นช้อย เลื่อมใสดี ฝูงข้าทั้งหลายจึงได้มาขัดสีสรงเกษ ตามอุปเทศผู้หวังผล ฝูงข้าทั้งหลายยังได้กระทำ เพียรสร้างกุศลหลายหลาก จึงได้มาอุปฐากเจ้าทรงธรรม ผู้ได้นำคำสอนผายโผด สัตว์โลกให้พ้น จากโอฆะสงสาร ขอให้เถิงนิรพานอันล้ำเลิศ ฝูงข้าทั้งหลายบ่ได้เหมิดเสี่ยงความยินดี ต่อพระชินศรี ตนเป็นเค้า เป็นเจ้าแก่คน และเทวดาทั้งหลาย ตนมีรัศมีอันฮุ่งเฮืองบ่เศร้า ตราบต่อเท่า 5 พระ พันวัสสา
ฝูงข้าทั้งหลายยังปรารถนาต่างๆ บางผ่องปรารถนาเอาสมบัติอันมาก สมบัติหลากโลกีย์ เป็นเศรษฐีมูลมั่ง นับด้วยชั่งอสงไขย บางผ่องปรารถนาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ขอให้ได้ผาบแพ้ ในทวีปทั้ง 4 คัณนา บางผ่องปรารถนาเป็นอินทาธิราช ตนเป็นอาชญ์แก่เทวดาทั้งหลาย บางผ่อง ปรารถนาเป็นพระปัจเจกโพธิญาณอันล้ำยิ่ง ข้ามพ้นทุกสิ่งในโอฆะสงสาร บางผ่องปรารถนาเอา พระสัพพัญญุตตัญญาณอันล้ำเลิศ นำสัตว์ผู้ประเสริฐสู่นิรพาน บางผ่องปรารถนาเถิงอรหันตา มรรคญาณผายผ่อง หมดบาปแล้วแจ้งส่องดั่งคำมักคำปรารถนา ฝูงข้าฯทั้งหลายจงสัมฤทธิ์สวัสดี อยู่ทุกเมื่อ ด้วยความเชื่อพุทธคุณ
จัตตาโร ธัมมา วุฒิธรรม 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ จงเจริญในขันธสันดาน แห่งฝูงข้าฯ ตราบต่อเท้าเข้าสู่เมืองแก้ว กล่าวแล้วคือว่า มหานีรพานทุกตนทุกคน ก็ข้าเทอญ นิพพานะ ปัจจัยโยโหตุ สาธุ สะทา ติฏฐะตุ พุทธะรูปัง สาวกานัง ปะติฏฐะกัง สาธุฯ
บาศรีพระเณร
ศรี ศรี สิทธิพระพรบวรอติเรก อเนกเตโช มโหฬฤกษ์ อธึกอัทธา อตุลคุณ พหุลเตโช ไชยะมังคะลัง สุรินทร์ อินทร์พรหม ยมยักษา สุนักขัตตา สุมังคะลา อุตตะมะโชค อุตตะมะโยค อุตตะมะดีถี อุตตะมะนาที มะหาสักขีพิลาส ด้วยอำนาจอันฤาชา อันฝูงข้าทั้งหลายหมายมาก้ม เกษา ให้ได้อยู่ในเพศสมณาคุณ เป็นดั่งบุญไขขอบ มากราบหมอบวันทา ญาติกามาพอหมู่ มา โฮมอยู่วันทา ทั้งอุบาสิกา อุบาสกยกขันโตก พาขวัญโชคนำมาแปลง นำมาแยงหลิงต่อ
ลูกหลานพ่อบวชเป็นสงฆ์ ถ้วนทุกองค์งามสะอาด ผิวผุดผาดผ่องใสสี ถือศีลดีครบบ่ขาด เป็นนักปราชญ์อาจารย์ เป็นสมภารน้อยหน่อ ผู้สืบต่อพระคัมภีร์ เป็นผู้มีบุญมาก ศีลหลายหลาก ตามทำนอง ถือตามครองครัดเคร่ง ขอให้เก่งทางธรรม จงจดจำเป็นยอดไปตลอดพรรษา ดั่งคงคา ไหลหลั่ง ให้เจ้านั่งเทศนา มีปัญญาล้ำเลิศ แสนประเสริฐเหลือหลาย อธิบายพระธรรมนำโชค ทาง โลกแลทางธรรม จงนำคำพระเจ้า เป็นหน่อเหง้ามีปัญญา ทรงวัสสาอย่าท้อถอยเฒ่า แผ่ผลเท่า ทรงสุตตนิกาย สูตรทั้งหลายอันล้ำยิ่ง จบทุกสิ่งวินัยธรรม ไขเป็นคำแจ้งจอด เท่าฮอดมหาปัฏฐาน มีทั้งลังกาวุตโตทัยไขเฮืองราช ให้เป็นอาชญ์มั่นเทียระฆา
ฝูงข้าทั้งหลายพร้อมกันมาถวายบูชา แก่สมเด็จสังฆราชามหาราชครู ภิกษุสามเณรเจ้า ดังนี้ ฝูงข้าจึงได้ปรารถนาต่าง ๆ บางผ่องปรารถนาเอาเข้าของมวลมาก สมบัติหลากโลกีย์ เป็น เศรษฐีมีรัตนะเนืองนอง เงินกองคำม้ามิ่ง นับด้วยสิ่งอสงไขย์ บางผ่องปรารถนาเป็นพระยาจักร- วัตติราช ขอให้ชนะขาดผาบแพ้ทวีปชมพู บางผ่องปรารถนา เถิงสัพพัญญุตัญญาณ นำสัตว์เข้าสู่ นิพพานอันวิเศษ บางผ่องปรารถนาเป็นพระปัจเจกโพธิญาณอันล้ำยิ่ง พ้นจากสิ่งสงสาร บางผ่อง ปรารถนาเป็นพระอรหันต์เป็นที่แล้ว อย่าให้แคล้วคำปรารถนา ขอจงให้อุดมสัมฤทธิ์ จงประสิทธิ์ แก่ฝูงข้าทั้งหลาย
จัตตาโร ธัมมา วุฒิธรรมทั้งหลายอย่าได้ห่าง อย่าได้ต่าง อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ ขาดเขินวัง จงสมหวังอานันต์เนก ให้เป็นเอกในศาสนา ให้รักษาพระธรรมพระสูตร ให้ได้พูดแก่คน ทั้งหลาย ให้ขยายพระธรรมตรัสแก่ ให้ได้แผ่พระธรรมวินัย จงอย่าลัยพุทธศาสน์ ไปประกาศแก่คน ทั้งหลาย ไปขยายทั่วชมพูทวีป ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าจงมาอยู่ในอาราม ขวัญเจ้าจ่งมางาม ในศีลธรรมองอาจ อย่าได้ขาดเสียสี อย่าได้มีหมองหม่น อย่าได้โค่นเพพัง ให้เจ้าฝังเป็นแก่น ให้ เจ้าแน่นดั่งศิลาแรง ให้เจ้าแข็งดังหินแสนก้อน อย่าได้ย้อนถอนเป็นดั่งเขาพระสุเมรุ บ่อเหงี่ยง ให้ เจ้าเที่ยงดั่งตาซิง ให้เจ้าอิงพระพุทธ อย่าได้ทรุดเอนเอียง ให้เจ้าสูงเพียงฟ้า ให้เจ้างามทั่วหล้า แดนไตร
ไปทางใดมีผู้แห่ ให้เป็นแก่ในศาสนา ให้สมปรารถนาในคำสอนพระพุทธเจ้า ทุกค่ำเช้า ภิกขาจาร อย่าหันเหศีลออก กิเลสลอกหนีหาย สมความหมายทุกอย่าง อย่าได้ห่างพระวินัย จงสดใสในธรรมเลิศ จงประเสริฐในศาสนา ขอจงให้อุดมด้วยจตุพรพิธพรชัยทั้งสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ อโรคยาอันถ้วนห้า ปฏิภาณอันถ้วนหก อธิปไตยะอันถ้วนเจ็ด จงเสด็จลงมารักษา ยังขันธสันดานแห่งเจ้าอาวาส และภิกษุสามเณรเจ้า ตราบต่อเท่าเข้าสู่พระนิรพานทุกตน ทุกองค์ ก็ข้าเทอญ
คำผูกแขนพระภิกษุสามเณร ฮ้ายกวาดหนี ดีกวาดเข้ามาใส่ ให้เจ้าไต่ ตามธรรม อยู่ในครองธรรมของพระเจ้า ทุกค่ำเช้าให้เจ้าอยู่สวัสดี ให้เจ้ามีชัยและผาบแพ้ กิเลสฮ้าย ฝูงหมู่พญามาร ขออย่าได้มาพาลและบังเบียด ขอให้พระคุรเจ้าจงมีอายุมั่นขวัญยืน ให้เป็นผืนฉัตร กั้ง เป็นที่ยั้งที่เผิ่งแก่ชาวพุทธทั้งหลาย ให้ได้ดังพระคาถาว่า
โส อัตถะลัทโธ สุขิโต วิรุฬโห พุทธสาสะเน
อะโรโค สุขิโต โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาตีภิ สาธุ
สู่ขวัญนาค
ศรี ศรี สุมังคะละ ศุภะสวัสดี อดิเรกไชยศรี สวัสดีจงมีแก่ผู้ข้าทั้งหลาย ทั้งเทพานาค ครุฑ เทวบุตร เทวดา อินทร์พรหม ยมราช ผู้องอาจกล้าหาญ จงได้บงการลงมาสู่ ลงมาอยู่เป็นชัย มงคลอันวิเศษ มื้อนี้พระเกตุเข้าสู่ราศรี เป็นวันดีสุดขนาด อินทภาสพร้อมตรียางค์ ทั้งนวางค์คาด คู่ ตั้งเป็นหมู่สอนลอนสอนลอน พระอาทิตย์จรจันทร์ฤกษ์ อังคารถึกมหาชัย พุธพฤหัสไปเป็นโยค ศุกร์เสาร์ได้อมุตโชคพร้อมลัคนา อันนี้ตามตำราว่าได้ฤกษ์ ถึกหน่วยว่าอุตมะราศรี
วันนี้เป็นวันดีอันประเสริฐ ถือว่าเลิศเป็นมุงคุล ปุนแปลงดีแต่งแล้วพาขวัญแก้วยกมา มีทั้งท้าวพระยา เสนาอำมาตย์ ทั้งนักปราชญ์มวลมา มีลุงตาพ่อแม่ มีเฒ่าแก่วงศา พร้อมกันมา ไหลหลั่ง มาโฮมนั่งอยู่สอนลอน ตาสะออนบุญหลายหลาก บ่พลัดพรากไปไกล มารวมใจชมชื่น ญาติบ้านอื่นมาหา จั่งได้ลาบิดามารดาออกบวช หวังไปสวดบำเพ็ญศีล ดั่งพระอินทร์ถวายบาตร พรหมราชยอพาน ถวายทานพระศรีธาตุ คราวพระบาทออกไปบรรพชา อยู่ฝั่งน้ำอโนมาพร้อม นายฉันท์และม้ามิ่ง ลายอดแก้มปิ่งสิ่งพิมพา ทั้งราหุลออกบวช ไปผนวชเป็นคนดี เจ้ามีใจในธรรม อันล้ำเลิศ ก่อนสิได้มาเกิดจากท้องมารดา ได้เลี้ยงมาเป็นอันยากเลี้ยงลำบากทุกวันคืน แม่ทนฝืน หนักหน่วงท้อง นอนเก้าเดือนเฮ็ดล่องง่องอยู่ในครรภ์
แสนรำพันฮักห่อ ลูกของพ่อดั่งดวงตา ออกจากท้องมารดาลูกเกิดมาเลิศแล้ว ได้ลูกแก้ว แม่นผู้ชายฝูงตายายก็ชมชื่น ยอยกยื่นเจ้าออกมา ญาติก็มาเอาผ้าห่อ ผู้เป็นพ่อฮักเหลือหลาย ตา กับยายเอาอาบน้ำ ทุกค่ำเช้าให้กินนม แม่นอนซมพ่อนอนกอด หอมแก้มฟอดยามไปมา ฮักดั่งตา ลูกแก่นไท้ เลี้ยงเจ้าใหญ่เป็นหนุ่มมา อยู่ชายคาเพียรอ่อน ชะส่อนหน้าใหญ่เป็นคน บ่ได้จนจักอย่าง บ่ได้ห่างไปไกล บ่ได้ไหลหนีจาก แสนลำบากเหลือหลาย ลูกผู้ชายจั่งได้บวชในศาสนา เจ้าก็คิดถึง คุณบิดามารดาเป็นอันยิ่ง จัดทุกสิ่งหามา เจ้าก็ลาพ่อแม่ ฮอดเถ้าแก่วงศ์วาน ได้จัดการพวกพี่น้อง ทั้งพวกพ้องมิตรสหาย บางผ่องศรัทธาหลายได้เสื่อสาด มีทั้งบาตรแลจีวร ตาออนซอนทั้งผ้าพาด ได้ไตรอาจบริขาร มาในงานบริโภค ได้ทั้งโตกถ้วยและคันที
เหล็กจานดีอันคมกล้า อันล้ำค่าบริขารสละทานบ่อึดอยาก มีหลายหลากมารวมกัน เผื่อ อยากเห็นพระจอมธรรมยอดแก้ว ยังบ่แล้วพระเมตไตย์ จอมพระทัยสุดยอด ทานตลอดกองบุญ เพื่อจักหนุนชูส่ง ญาติบ้านท่งบ้านใกล้และบ้านไกล มาโดยไวบอกข่าว ญาติบอกกล่าวกองบุญ หวังเอาคุณพระเจ้า ลูกหน่อเหง้าบรรพชา หวังให้พ้นโทษาและอนุโทษ ละความโกรธและความหลง จั่งได้ลงกองบวช อุปัชฌาย์จั่งได้สวดนิสัย ตามธรรมเนียมอยู่ในโบสถ์ ให้หายโทษที่จองจำ ทั้งเงิน คำออกจับจ่าย เป็นหนี้ไถ่ถอนหนี บ่ให้มีจักอย่าง ของต่าง ๆ ตัดหนี บ่ให้มีจักสิ่ง เป็นแก้วมิ่งพรหม- จรรย์ มารวมกันสุขสำราญฤาเดช ขอให้พ้นจากทุกข์เจตน์อยู่สวัสดี
จัตตาโร ธัมมา วุฒิธรรมทั้งสี่ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ อะโรคา ถ้วนทั้งสี่ ปฏิภาณอัน ถ้วนหก อธิปไตยอันถ้วนเจ็ด จงเสด็จมารักษา ว่ามาเยอขวัญเอย ข้อยจักเชิญเอาขวัญมาเฮ้า ข่อย จักเต้าเอาขวัญนาคมาโฮม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าลงไปเล่นนะทีทองเมืองนาค นางสนมหนุ่ม น้อยชมช้อนให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นชลธารอโนดาด ขวัญเจ้าไปเที่ยว เล่นกระแสน้ำฝ่ายไกล ขวัญเจ้าไปเที่ยวเล่นยมนาลอยล่อง ขวัญเจ้าไปเที่ยวห่องห้วยหาซ้อนหมู่สาว
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัยเจ้าเคยไปค้างทางไกลเกาะแก่ง ขวัญเจ้าไปแห่งห้องสมุทรกว้าง ข่วงนะที ขวัญเจ้าไปอยู่ลี้นำหลืบหินผา ขวัญเจ้าไปชมขี่มัจฉาลอยเล่น ขวัญเจ้าไปวังกว้างให้มา เด้ออย่าได้อยู่ อย่าได้ป๋าพ่อแม่ไว้ทางพี่เผิ่นคอง ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ไปเดินเล่นไพร คีรีนอกเขต ขวัญเจ้าอย่าได้เดินประเทศเที่ยงทางไกล อย่าหลงไหลไพรป่า ขวัญเจ้าอย่าได้ไปซม หมู่ลิงและค่างเฒ่า หมู่นกเค้าแลเสือสิงห์ ควายกระทิงและแฮดซ้าง ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้าเข้า มาอยู่เข้ามาสู่ชายคา ให้เจ้ามาเตรียมตัวบวช ให้มาเข้าผนวชเป็นสงฆ์ ให้เจ้าลงมาอยู่ลงมาสมสู่ สังฆา ปฏิมายอดแก้ว ใจผ่องแผ้วเหลือหลาย ยามเดือนหงายอย่าได้ล่วง ให้เจ้าห่วงครองธรรม ให้ เจ้านำครองปู่ ให้มาอยู่จำศีลให้มากินข้าวบาตร มานั่งอาสน์นำสงฆ์ให้มาลงในโบสถ์ ละความโกรธ และโทษา ให้เจ้าได้เทศนาสอนสั่ง เป็นเจ้านั่งเป็นสมภาร ให้ได้เป็นอาจารย์นักบวช ให้ได้สวด ปาฏิโมกขัง ให้เจ้าฝังในศาสน์ ให้ฉลาดเหลือคน
ว่ามาเยอขวัญเอย จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุวัณโณ สุขัง พะลัง ขอให้เจ้าอายุยืนยาว วรรณาขาวผิวผ่อง ผิวเจ้าคองงามงอน คนสะออนครองผ้า งามสง่าถือศีล ไผได้ยินเสียงเทศน์ ประณมเกษเกษา ให้ลือชาศาสนาของพระพุทธเจ้า ให้นาคเจ้ามีเดชะ ให้ชนะฝูงมาร เป็นอาจารย์ ผู้วิเศษละกิเลสหายหนี ดั่งอินทราธิราชเจ้าภูมินทร์ ทั้งแดนดินโอยออนน้อย ทุกท่านพร้อมสาธุการ มาอวยพรชมชื่นให้เจ้ามีความรู้หลื่นสมภาร ไหว้อาจารย์ทุกเมื่อ
เฮืองเฮือแก้วเงินคำ บูชาธรรมอย่าได้ขาด ให้ฉลาดพระวินัย ให้สดใสปานแหวน ให้ถึง แก่นคำสอน คนสะออนซมซื่น ให้เจ้าหลื่นมนุษย์และเทวา อย่าได้คาขัดข้อง ให้เจ้าท่องพระบาลี ให้มีหวังครองสืบสร้างธุระอ้าง 2 ประการ เฮียนกรรมฐานให้ถี่ถ้วน ครบสิ่งล้วน 8 หมื่นสี่พันพระ ธรรมขันธ์ ด้วยปัญญาเร็วพลันตรัสส่อง สมองปล่องเร็วไว ศีลสดใสบ่ประมาท มีอำนาจในศาสนา อย่าโสกาโศกเศร้า ให้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าสืบพระศาสนา ด้วยพระคาถาว่า ไชยะตุ ภะวัง ไชยยะมังคะลา ไชยยะมหามุงคุล หนุนกันมาเนืองแน่นให้ได้นั่งแท่นแก้วเป็นเอกสังโฆ มียโส เกียรติก้อง จบในห้องกัมมัฏฐาน มีอรหันต์เป็นเค้า เข้าสู่นิรพาน ก็ข้าเทอญฯ สาธุ
คำผูกแขนนาค หิเนนะ พรัมมะจริเยนะ ขัตติยัง อุปะปัชชะติ มัชฌิเมนะ เทวัตตัง อุตตะเมนะ วิสุชฌะติ ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายมุงคุล พระจอมบุญพุทธเจ้า เอามาให้ผูกแขน หลาน ให้เจ้าบวชนาน ๆ เป็นเถระเจ้า ให้เจ้าเป็นพระผู้เฒ่าผู้ทรงคุณ คนมาหนุนทุกค่ำเช้า ให้เจ้า ได้สอนลูกเต้าพอแสนคน ทศพลอันผ่านแผ้ว คือพระไตรปิฎกแก้วให้เลื่อนไหล นำสัตว์ไปข้ามโลก ให้เข้าพ้นจากโอฆะสงสาร ให้ไปถึงนิรพานทุกคน ทุกคน ก็ข้าเทอญฯ ชะยะสิทธิ ภะวันตุ เตฯ
การส่อนขวัญ
เมื่อคนตกต้นไม้ ตกใจเพราะตื่นงูหรือเสือ ตกรถหรือฝันเห็นแต่ที่นั่น แล้วไม่สบายมี อาการเจ็บ ๆ ป่วย ๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพื่อเรียกขวัญกลับคืน ปราชญ์โบราณอีสานท่านจะไป เรียกเอาขวัญในที่ ๆ เกิดเหตุนั้น ๆ ทางภาคอีสาน เรียกว่า "ส่อนขวัญ" การส่อนขวัญนี้ ท่านจะเอา กระติบข้าว หรือก่องข้าวที่ยังไม่ได้ใช้หรือที่ใช้แล้วแต่ใช้ใส่หมากหรือยาสูบ ที่สามารถเทออกไว้ได้ โดยไม่เปื้อน ท่านจะเอาเสื้อ เอากระจกเงาเล็ก ๆ เอาหวี เอาน้ำหอมของที่คนนั้นชอบใช้ เอาฝ้าย ผูกแขนใส่ไปด้วย 2 เส้น ใส่ในกระติบ แล้วไปตรงที่เขาตกต้นไม้ตกใจหรือที่ฝันเห็นบ่อย ๆ แล้วไม่ สบายนั้น ไปกันอย่างน้อยสองคน คนที่ขาดไม่ได้คือ ผัวหรือเมียหรือลูกของคนที่เราไปเรียกขวัญ นั้น เพราะขวัญนั้นจะดีใจ และรีบกลับมาเมื่อเห็นญาติมาเรียก
วิธีเรียกขวัญ เมื่อไปถึงแล้วหัวหน้าคณะก็จะเรียกด้วยความดี เช่นไปเรียกขวัญ นายมี ก็จะว่า
"พ่อมีเอย พ่อมีเอย อย่าสิมาอยู่ค้างกลางไฮ่แกมหมู่กา อย่าสิมาอยู่ค้างกลางนาแกมหมู่ ไก่ อย่าสิมาอยู่ค้างไพรกว้างบ่แม่นเฮือน มาสา มาเมืออยู่เฮือนอยู่ซานเฮา"
ช่วยกันเรียก ช่วยกันกู่หา เห็นมด แมลง หรืออะไรก็ตามตรงเข้ามาหา ให้รีบเปิดกระติบ ข้าวรับ ถ้าเป็นขวัญมันจะรู้จักของที่ตนเคยใช้ มันจะรีบเข้าไปทันที ทุกคนให้พูดว่า "พ่อมีมาแล้ว ไปกลับบ้านเฮา" ว่าแล้วก็ปิดกระติบข้าวสะพายกลับบ้าน ไปถึงบ้านก็เอากระติบไปตั้งไว้ข้างคนป่วย แล้วเชิญขวัญเข้าเนื้อเข้าตัว ด้วยเอาฝ้ายไปผูกที่แขน พร้อมกับพูดว่า
"ขวัญพ่อมีมาฮอดแล้วให้มาเข้าสู่ตัว โส อัตถะ ลัทโธ สุขิโต วิรุฬโห พุทธะสาสะเน อะโรโค สุขิโต โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาตีภิ" กล่าว 3 จบ
ถ้าเป็นผู้หญิงให้ว่า "สา อัตถะ ลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสา สะเน อะโรคา สุขิตา โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาตีภิ" สุดท้ายให้ว่า "พุทโธรักษา ธัมโมรักษา สังโฆรักษา เจ้าอย่าได้หนี ไปหนีมา ให้อยู่กับเนื้อกับตัวนี้ อมสะวาหะ" จบ
ข้อควรระวัง การเรียกขวัญนี้ ถ้าไม่มีคาถากันผีป่า ผีป่าจะไล่ขวัญเราหนี แล้วเข้ามา แทนที่ พอเอาเข้ามาหาคนป่วย ปล่อยเข้าตัวคนป่วย มันก็จะกินคนป่วย คนป่วยจะยิ่งทรุดหนัก และจะตายเร็วเข้า ดังนั้น ก่อนจะเรียกขวัญนั้นให้เสกคาถากันผีป่าก่อนว่า "พุทธัง วันทามิ ธัมมัง วันทามิ สังฆัง วันทามิ ข้าฯ ขอไหว้พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า ขออานุภาพของ พระรัตนตรัย จงขจัดผีป่าออกไปอย่าให้เข้ามาใกล้ ขอให้เอิ้นขวัญ ............ (ออกชื่อของคนที่เรา ไปเรียกขวัญ) ผู้ป่วยไข้ให้กลับบ้าน ขอให้เรียกเอาเข้ามาในกระติบเดี๋ยวนี้ ก็ข้า เทอญฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก บ้านมหา https://www.baanmaha.com/community/showthread.php?9227