| ;วัดภูพร้าว
วัดภูพร้าว
อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี |
| หอโหวด
หอโหวด
อำเภอเมืองฯ จังหวัดร้อยเอ็ด |
| วัดถ้ำชาม
วัดถ้ำขาม
ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร |
| ปราสาทสร้างปี่
ปราสาทช่างปี่
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ |
| วัดป่าวิเวกวัฒนาราม
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม |
| จุดชมวิวผาเสวย
จุดชมวิวผาเสวยภูพาน |
| กู่คันทนาม
กู่คันทนาม อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด |
| ปราสาททองหลาง
ปราสาททองหลาง ปราสาทแห่งเดียวในอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี |
| สิมโบราณวัดแจ้ง
สิม(อุโบสถ) วัดแจ้ง อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุบลราชธานี |
| สะพานเทพสุดา
สะพานเทพสุดา จังหวัดกาฬสินธุ์ |
| ส่องข้ามลำน้ำของ
ส่องข้ามลำน้ำของ |
| พระธาตุยาคู
พระธาตุยาคู กาฬสินธุ์ |
| วัดทุ่งเศรษฐี
วัดทุ่งเศรษฐี |
| ปราสาทโดนตรวล
ปราสาทโดนตรวล |
| ปราสาทสระกำแพงใหญ่
ปราสาทสระกำแพงใหญ่
|
| สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3
สะพานมิตรภาพไทยลาวแห้งที่ 3 อ.เมือง จ.นครพนม
สะพานที่ข้าแม่น้ำโขงระหว่างจังหวัดนครพนม ประเทสไทย กับแ แขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประธิปไตยประชาชนลาว |
| เถาวัลย์ยักษ์
เถาวัลย์ยักษ์
บ้านทุ่งนาเมือง ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
เถาวัลย์ยักษ์ เป็นเถาวัลย์ที่มีขนาดใหญ่อายุราว 400 ปี มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร และมีตำนานเล่าขานที่น่าศึกษา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเครือไม้ต้องห้าม อยู่ใกล้กับน้ำตกทุ่งนาเมือง ราว 50 เมตร ซึ่งจะเห็นน้ำตกอยู่ด้านหลัง |
| น้ำตกภูละออ
น้ำตกภูลออ
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่น้ำตกภูละออ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 221 (กันทรลักษ์-ผามออีแดง) ระยะทางประมาญ 23 กิโลเมตร ถึงบ้านภูมิซรอล เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางบ้านภูมิซรอล - น้ำตกสำโรงเกียรติ ประมาณ 8 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายสู่น้ำตกภูละอออีก 2.5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย
|
| เครื่องดนตรีอีสาน
ประวัติความเป็นมาของแคน
แคน เป็นชื่อเครื่องดนตรีพื้นเมืองภาคอีสานที่เก่าแก่มีมาแต่โบราณ แคนเป็น เครื่องดนตรีที่ใช้ปากเป่าให้เป็นเพลง ใครเป็นผู้คิดประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่เรียกว่า "แคน" เป็น คนแรก และทำไมจึงเรียกว่า "แคน" นั้น ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนยืนยันได้ แต่ก็มีประวัติที่เล่า เป็นนิยายปรัมปราสืบต่อกันมา ดังต่อไปนี้ หญิงหม้ายผู้คิดประดิษฐ์ทำแคน |
| เครื่องดนตรีอีสาน
พิณ
พิณพื้นเมือง ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปเช่น ทางจังหวัดอุบลราชธานี เรียกพิณว่า "ซุง" น่าจะเรียกมาจากท่อนไม้ที่นำมาทำ ทางจังหวัดชัยภูมิเรียกว่า "เต่ง" หรือ "อีเต่ง" หนองคายเรียกว่า "ขยับปี่" นอกจากนั้นยังมีเรียกแตกต่างออกไปอีก เช่น ซึง หมากจับปี่ หมากตดโต่ง หมากตับเต่ง เป็นต้น พิณทำด้วยไม้ เช่น ไม้ขนุน (ไม้บักมี่) เพราะมีน้ำหนักเบาและให้เสียงทุ้มกังวานไพเราะกว่าไม้ชนิดอื่น มีรูปร่างคล้ายกีตาร์แต่ฝีมือหยาบกว่า พิณอาจจะมี 2 สาย 3 สาย หรือ 4 สายก็ได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 คู่ เป็นสายเอก 2 สาย และสายทุ้ม 2 สาย ดั้งเดิมใช้สายลวดเบรครถจักรยานเพราะคงทนและให้เสียงดังกว่าสายชนิดอื่น แต่ในปัจจุบันนิยมใช้สายกีตาร์แทน การขึ้นสายไม่มีระบบแน่นอน นมหรือขั้น (Fret) ที่ใช้นิ้วกดบังคับระดับเสียงจะไม่ฝังตายตัวเหมือนกีตาร์หรือแมนโดลิน การเล่นก็เล่นเป็นเพลงเรียกว่าลาย โดยมากพิณจะเล่นคู่กันกับแคน |