ReadyPlanet.com
dot dot
bulletซอกมาเว้าสู่ฟัง




ประเพณีบุญเข้ากรรม

ประเพณีแดนอีสาน

บุญเข้ากรรม  ประเพณีเดือนอ้าย

     ฮีตหนึ่งนั้น เถิงเดือนเจียง  เข้ากลายมาแถมถ่ายฝูงหมู่สังฆเจ้าก็เตรียมเข้าอยู่กรรมมันหาธรรมเนียมนี้ถือมาตั้งแต่ก่อน   อย่าได้ละห่างเว้นเข็ญ (บาปเข็ญ คือ สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม  ความชั่วร้าย ไม่เป็นมงคล)สิข่องแล่นนำ แท้แหล่ว

 

บุญเข้ากรรม

       ภิกษุต้องอาบัติ สังฆาทิเสส ต้องอยู่กรรมถึงจะพ้นอาบัติ ญาติโยมแม่ออกแม่ตน ผู้อยากได้บุญกุศลก็จะให้ไปทานรักษาศีลฟังธรรม เกี่ยวกับการเข้ากรรมของภิกษุ เรียกว่า บุญเข้ากรรม กำหนดเอาเดือนเจียงเป็นเวลาทำ จะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ วันที่นิยม ทำเป็นส่วนมากคือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เพราะเหตุกำหนดให้ทำในระหว่างเดือนเจียงจึงเรียกว่า บุญเดือนเจียง

      นิมนต์สังฆเจ้าเข้ากรรมฯ ชาวบ้านเลี้ยงผีแถนและผีต่างๆ

       ดังคำกล่าวว่า

           ฮีตหนึ่งนั้น เถิงเดือนเจียง  เข้ากลายมาแถมถ่ายฝูงหมู่สังฆเจ้าก็เตรียมเข้าอยู่กรรมมันหาธรรมเนียมนี้ถือมาตั้งแต่ก่อน   อย่าได้ละห่างเว้นเข็ญ (บาปเข็ญ คือ สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม  ความชั่วร้าย ไม่เป็นมงคล)สิข่องแล่นนำ แท้แหล่ว

         บุญเข้ากรรมเป็นเดือนที่พระสงฆ์เข้ากรรม (ปริวาสกรรม) เพื่อให้พระสงฆ์ผู้กระทำผิด ได้สารภาพต่อหน้าคณะสงฆ์เป็นการฝึกจิตสำนึกถึงความบกพร่องของตนและมุ่งประพฤติตนให้ ถูกต้องตามพระธรรมวินัยต่อไป

         ด้านฆราวาสก็จะมีการทำบุญเลี้ยงผีต่างๆบุญเข้ากรรมนิยมทำกันในเดือนอ้าย (เดือนเจียง) จะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ ซึ่งเป็นฤดูหนาว บุญเข้ากรรมคือ พิธีทำบุญโดยให้พระภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส (อาบัติ หนักรองจากปาราชิก) คือพิธีเข้ากรรมการเข้ากรรมจัดทำโดยพระสงฆ์พระสงฆ์เข้าไปอยู่ในเขตหรือที่จำกัด เพื่อทรมานร่างกายให้หายจากกรรมหรือพ้นจากอาบัติที่ได้กระทำและเป็นการชำระจิตใจให้หายจากความมัวหมองด้วย บางแห่งถือว่าเมื่อบวชแล้วจะแทนคุณมารดาได้จะต้องอยู่กรรม (อยู่ไฟหลังคลอด) เพราะมารดาท่านเคยอยู่กรรมมาแล้ว

"ฮีตหนึ่งนั้น เถิงเมื่อเดือนเจียงเข้ากลายมาแถมถ่าย ฝูงหมู่สังฆเจ้ากะเตรียมเข้าอยู่กรรม มันหากธรรมเนียมนี้ถือมาตั้งแต่ก่อน อย่าได้ละห่างเว้นเข็ญสิข้องแล่นนำ แท้แหล่ว"

 

        หนึ่งในฮีต ๑๒ คือ บุญเดือนอ้ายหรือเดือนเจียงที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานให้ความสำคัญอีกงานหนึ่ง เพราะเป็นช่วงที่พระสงฆ์จะมีการเข้ากรรมหรืออยู่บริวาสกรรมเพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเลสตาม คติไทยเดือนอ้ายหรือเดือนเจียงของชาวอีสาน จะมีประเพณีการทำบุญเข้ากรรมของพระสงฆ์ ประเพณีเส็งกลอง (แข่งขันตีกลอง) ทำบุญดอกผ้า ประเพณีนวดข้าว เป็นต้น

        โดยมากงานบุญในเดือนนี้มักจะเป็นพิธีกรรมทางสงฆ์เสียมากกว่า ผู้คนมีความเชื่อกันว่า       หากทำบุญแด่พระสงฆ์ในช่วงที่ท่านเข้ากรรมจะได้อานิสสงฆ์สูง เพราะในยามที่พระสงฆ์เข้ากรรมถือเป็นช่วงที่เคร่งวินัยและบริสุทธิ์มากที่สุด การเข้ากรรมของพระสงฆ์ก็เปรียบได้กับการอยู่กรรม ของแม่ลูกอ่อนหรือหญิงที่พึ่งจะคลอดลูกใหม่ที่จะต้องอยู่กรรม ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมคือจะต้องรู้จักคะลำ ทั้งเรื่องการกินและกิจวัตร ทั้งนี้เพื่อให้เกิความปลอดภัยทั้งแม่และลูก

ส่วนการเข้ากรรมของพระภิกษุสงฆ์นั้นเป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นการทำเพื่อให้พระที่ต้องอาบัติที่หนัก

        หนึ่งในฮีต ๑๒ คือ บุญเดือนอ้ายหรือเดือนเจียงที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานให้ความสำคัญอีกงานหนึ่ง เพราะเป็นช่วงที่พระสงฆ์จะมีการเข้ากรรมหรืออยู่บริวาสกรรมเพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเลสตาม คติไทยเดือนอ้ายหรือเดือนเจียงของชาวอีสาน จะมีประเพณีการทำบุญเข้ากรรมของพระสงฆ์ ประเพณีเส็งกลอง (แข่งขันตีกลอง) ทำบุญดอกผ้า ประเพณีนวดข้าว เป็นต้น

           โดยมากงานบุญในเดือนนี้มักจะเป็นพิธีกรรมทางสงฆ์เสียมากกว่า ผู้คนมีความเชื่อกันว่า

       หากทำบุญแด่พระสงฆ์ในช่วงที่ท่านเข้ากรรมจะได้อานิสสงฆ์สูง เพราะในยามที่พระสงฆ์เข้ากรรมถือเป็นช่วงที่เคร่งวินัยและบริสุทธิ์มากที่สุด การเข้ากรรมของพระสงฆ์ก็เปรียบได้กับการอยู่กรรม ของแม่ลูกอ่อนหรือหญิงที่พึ่งจะคลอดลูกใหม่ที่จะต้องอยู่กรรม ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมคือจะต้องรู้จักคะลำ ทั้งเรื่องการกินและกิจวัตร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งแม่และลูก

        ส่วนการเข้ากรรมของพระภิกษุสงฆ์นั้นเป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นการทำเพื่อให้พระที่ต้องอาบัติที่หนักรองลงมาจากปราชิก ทำพิธีวุฏฐานพิธีซึ่งเป็นระเบียบอันเป็นเครื่องออกจากอาบัติ อันเป็นพิธีกรรมที่ทำให้จิตใจไม่หมองมัว หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อระลึกถึงการกระทำอันเป็นบาปที่ทำมาตลอดเข้าพรรษา หรือตั้งแต่กำเนิด บ้างก็ว่าการคร่ำเคร่งในการเข้ากรรมของพระสงฆ์เพื่อเป็นการทดแทนการอยู่กรรมของมารดาที่แสนจะทรมาน

         มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ในสมัยพุทธกาล ในช่วงที่พระภิกษุสงฆ์จะเข้าปริวาสกรรม มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ล่องเรือไปตามแม่น้ำคงคา ได้เอามือไปจับใบตะไคร่น้ำขาดเพียงเล็กน้อย การทำลายชีวิตในครั้งนั้นเข้าใจว่าเป็นเพียงบาปเล็กน้อย เป็นอาบัติอย่างเบา จึงไม่แสดงอาบัติ

         แต่เหตุในครั้งนั้นก็ยังคงค้างคาอยู่ในใจของภิกษุรูปนั้นอยู่เสมอตลอดระยะเวลาในช่วงเวลาที่ปฏิบัติธรรมในป่าและคงอยู่เป็นเวลานาน แต่เมื่ออยากแสดงอาบัติในการทำใบตะไคร่น้ำขาดในครั้งนั้นก็ไม่มีภิกษุรูปใดรับฟัง เมื่อภิกษุรูปนี้ได้มรณภาพลง บาปกรรมก็ยังติดตัวไปยังภพใหม่ด้วย จะเห็นได้ว่าแท้ที่จริงแล้วช่วงระยะเวลาการเข้ากรรมของพระสงฆ์นั้น เป็นช่วงที่ท่านแสดงซึ่งอาบัติที่เคยกระทำมาและยอมรับในการทำผิดนั้น มิได้บริสุทธิ์กว่ากาลที่ผ่านมา แต่เป็นความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ในปัจจุบัน ชาวอีสานก็ยังให้ความสำคัญกับงานบุญในเดือนเจียงนี้อยู่แม้จะมีจำนวนลดน้อยลงบ้างตามกาลเวลา

          พิธีกรรมที่ทำส่วนใหญ่ก็จะทำขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันสร้างความสมัคสมานสามัคคีและหล่อหลอมให้เป็นคนรู้จักสัมมาคารวะเคารพผู้อาวุโสในชุมชน รู้จักการแยกแยะรู้จักการให้อภัยแก่กัน ก็คือให้คนในชุมชนอยู่ด้วยการอย่างมีคุณธรรมไม่โลภ โกรธ หลง  ต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ถือชั้นวรรณะ  และเป็นการสืบทอดศิลปะขนบธรรมเนียมประเพณีต่างให้สังคมเกิดความเป็นสุขนั่นคือจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ของประเพณีพิธีกรรมของชาวอีสาน ซึ่งเป็นความสำคัญและงดงามมากในอดีตกาล

 

 

 

  



ซอกหามาเว่าarticle

  ซอกหามาเว่าเล่าสู่ฟัง

 

10 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

     

ประเพณีอีสานarticle

                        ประเพณีอีสาน    

                                                            

ประเพณีแต่งงานแบบอีสาน

      การเเต่งงาน ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า กินดอง มีความหมายว่า จะดองเป็นวงศาคณาญาติต่อไปในกาลข้างหน้า ประเพณีนี้เป็นประเพณีรักระหว่างชายหนุ่มและฝ่ายหญิงสาวที่สมัครรักใคร่จะเป็นสามีภรรยากันคือเริ่มต้นแต่มีประเพณีกินดองการสู่ขอ การหมั้น และการแต่งงานประเพณีกินดอง เช่นในจังหวัดขอนแก่น พิธีนี้ฝ่ายชายจะขึ้นบนเรือนของหญิงตามลำพังสองต่อสองในยามค่ำคืน ในขณะที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น ผู้หญิงจะถือโอกาสทำงานไปด้วย เช่น ปั่นฝ้าย กรอไหมและทอเสื่อเป็นต้น จนกระทั่งทั้งสองมีความพึงพอใจซึ่งกันและกัน จนถึงขั้นพิธีสู่ขอ

 

 

 

                                                       

ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง

อำเภอเมือง   จังหวัดสกลนคร

ช่วงเวลา เทศกาล

            วันออกพรรษา วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

ความสำคัญ

           งานแห่ปราสาทผึ้งในเทศกาลออกพรรษาของ ชาวอีสาน แม้ว่าจะมีอยู่ทั่วไปในหลาย จังหวัด แต่ก็ไม่จัดใหญ่โตและปฏิบัติต่อเนื่อง เช่นของเมืองสกลนครการพัฒนารูปแบบปราสาททรงโบราณ เป็นทรงตะลุ่ม ทรงหอฝึ้งแบบโบราณยังไม่พัฒนา เป็นรูปทรงปราสาทฝึ้งดังกล่าวย่อมเกิดแง่คิด ในหลายประเด็น โดยเฉพาะในด้านรูปแบบและเนื้อ หา ว่ามีการอนุรักษ์ประยุกต์ดัดแปลงหรือสร้างใหม่ อย่างไร ประเด็นดังกล่าวไม่ควรข้ามไป

เพื่อความ เข้าใจจึงขอนำเรื่องราวของปราสาทผึ้งมารื้อฟื้นให้ทบทวนกันโดยสรุปย่อ ดังนี้

         


 

 

 

 

 

                       

เลาะเบิ่งพระธาตุแดนอีสานเหนือarticle

 

 

 

 

 

พระธาตุพนม

อำเภอธาตุพนม   จังหวัดนครพนม

 

      พระธาตุพนม เป็นพระธาตุที่เก่าแก่ และเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทยทั้งประเทศ เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาวในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ประวัติความเป็นมากล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 8 ในแต่ละปีจะมีประเพณีงานนมัสการระธาตุพนมจะมีขึ้นตั้งแต่วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี และในตอนเช้าของวันออกพรรษาจะมีประเพณีการรำบรวงสรวงพระธาตุพนมที่บริเวณลานหน้าพระธาตุของประชาชนอำเภอต่างๆก่อนจะมีการไหลเรือไฟที่ลำแม่น้ำโขงจังหวัดนครพนมในตอนกลางคืน

 

 

 

 

 พระธาตุท่าอุเทน

อำเภอท่าอุเทน   จังหวัดนครพนม

             พระธาตุท่าอุเทน รูปทรงของพระธาตุคล้ายพระธาตุพนม สูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก พระอาจารย์ ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2455 พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุ พระธาตุของพระอรหันต์ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าครับ การเดินทางไป นมัสการพระธาตุท่าอุเทนนี้ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 ไปยังอำเภอท่าอุเทน 26 กิโลเมตร ถึงที่ว่าการอำเภอ ท่าอุเทน ซึ่งอยู่ใกล้วัดพระธาตุท่าอุเทน และอยู่ตรงข้ามกับเมืองหินบูรณ์ แขวงคำม่วง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว (เป็นเมืองประวัติศาสตร์ของอาณาจักรศรีโครบูรณ์ในอดีต)

   (ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กภาพด้านบน)

 

 

 

เลาะเบิ่งแดนอีสานarticle

                                                        

ทุ่งดอกกระเจียว

อำเภอเทพสถิตย์    จังหวัดชัยภูมิ

        เมื่อถึงเวลาเริ่มต้นแห่งการจำพรรษาของพระภิกษุในแต่ละปีจะมาถึงนั้นจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเริ่มต้นของชีวิตอันงดงามไปด้วยสีสันของดอกไม้ในตระกูล Curcuma ชื่อ C.parviflora wall ที่เมื่อเหง้าซึ่งหลับใหลอยู่ใต้ดินถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสายฝนแห่งการเริ่มต้นพรรษา พืชชนิดนี้ก็จะแทงใบสีเขียวขึ้นเหนือพื้นสัก 3-4 ใบก่อนจะส่งช่อดอกสีเขียวไล่โทนหาชมพูสด อวดความงามตามออกมา นั่นคือ ดอกกระเจียว

 

 

 

                                 (ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กภาพด้านบน)

            

 

 

ผาชะนะได

ผาชะนะได

อำเภอโขงเจียม   จังหวัดอุบลราชธานี

        ผาชะนะได เป็นหน้าผาที่มีความสูงชัน ซึ่งเป็นจุดที่เห็นตะวันขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย ทิวทัศน์เบื้องล่างจะเป็นแม่น้ำโขงกั้นแบ่งเขต ไทย - ลาว เบื้อง หน้าเป็นภูเขาแดนลาว ที่สลับซับซ้อนมองดูสวยงาม ฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของทะเลหมอก เหนือลำน้ำโขง และด้วยเหตุที่เป็นจุดที่เห็นตะวันขึ้นเป็นจุดแรก การรายงานข่าวของสำนักข่าวแห่งประเทศไทยได้เอาเป็นจุดรายงานดวงอาทิตย์ขึ้น เป็นแห่งแรกของประเทศ ผาชะนะได จะมีความหมายว่า การลงชื่อด้วยฝ่ามือ (ชะนะ เป็นคำเพี้ยนมาจากภาษาถิ่นโบราณ ว่า ซะนาม แปลว่าการลงชื่อ ส่วน คำว่าได แปลว่า มือ หรือ ฝ่ามือ ซึ่งจะปรากฏหลักฐานจากสถานที่ใกล้เคียง เช่น ถ้ำฝ่ามือแดง โหง่นแต้ม

ประเพณีเข้ากรรม

ประเพณีบุญเข้ากรรม

ประเพณีอีสาน
ภูลังกา
พระธาตุเรืองรอง
พระธาตุเรืองรอง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ
ประเพณีฮดสรง

ประเพณีการฮดสรง

      พิธีเถราภิเษกหรือฮดสรง งานประเพณีโบราณของชาวอีสาน กิจกรรมที่ชาวบ้านจัดขึ้นเพื่อยกย่องพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีคุณธรรม มีความสามารถในชุมชนขึ้นเป็น สำเร็จ ซา คู ฯลฯ การทำพิธีเถราภิเษกมอบถวายสมณศักดิ์กันในระดับชาวบ้านโดยชาวบ้าน เพื่อประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายในชุมชน...นิยมทำในเดือนเมษายน หรืออาจจัดทำพิธีขึ้นเองในงานบุญตามประเพณี...

        ฮางฮด(ภาษาอีสานออกเสียง รด เป็น ฮด) ฮางฮด ฮางรินหรือรางริน เป็นรางรดน้ำทำด้วยไม้เป็นรูปพญานาค บางแห่งก็เป็นรูปเหรา หรือมกร(มะ-กะ-ระ) ลำตัวเขียนหรือแกะสลักลวดลายให้สวยงาม หลังพญานาคทำราวเหล็กสำหรับติดเทียนกิ่งหรือเทียนหง่าและเทียนกาบ บูชา ๑ ราว บริเวณคอพญานาค มีใบคูณใบยอ หญ้าแพรกและใบตองรองพื้น เอาผ้าผืนบาง ๆ ห่อพันกล่องหลาบ ข้างในห่อด้วย เครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องนาก เขี้ยว งา พระเครื่อง เพื่อให้น้ำที่ฮดสรงไหลและรดลงมายังพระภิกษุผู้รับได้รับถวายการฮดสรง และที่สำคัญพระเถระบางรูปเป็นผู้ทรงพุทธวิทยาคมขั้นสูง น้ำที่สรงจะมีชาวบ้านน้ำไปพรมที่ศรีษะล้างหน้าล้างตาเพื่อความเป็นสิริมงคล…

         .การตั้งฮางฮด ให้ห่างจากศาลาโรงธรรมอย่างน้อยประมาณ ๑๐ วา ปลูกต้นกล้วยต้นอ้อยสองข้างทาง ใช้ผ้าขาวคาดเป็นเพดานจากโรงธรรมถึงฮางฮด หันหัวนาคฮางฮดไปทางทิศเหนือ หางนาคไปทางทิศใต้ ทำห้องสรงไว้ทางหัวนาค กั้นห้องสรงให้มิดชิด และให้หัวนาคอยู่ตรงบนห้องสรง หางนาคให้อยู่นอกห้องสรงปลูกศาลเพียงตาขึ้นที่สองข้างฮางฮด สำหรับตั้งบายศรีซ้ายขวา นำก้อนศิลามงคลไปวางไว้ใต้ฮางฮด รางรินหรือฮางริน รูปแบบการใช้งานเป็นรางยาวประมาณ3-4 เมตร บางแห่งอาจสั้นหรือยาวกว่านี้ก็มี.

 

ก่อนหน้า12ถัดไป
[Go to top]



Copyright © 2010 All Rights Reserved.